เกรียนบุก Metaverse!!! เริ่มมีการคุกคามทางเพศในโลกเสมือน Metaverse มากขึ้น

เมื่อเทคโนโลยีกำลังก้าวไปข้างหน้า สังคมเสมือนไปจนถึงการประยุกต์กับโลก internet เพื่อสร้างโลกจำลองใบใหม่ที่ทุกอย่างเป็นไปได้อย่าง Metaverse กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อมีคนรวมตัวกัน ความทะเลาะเบาะแว้ง หรือขัดกันเองย่อมเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาพวกเกรียนป่วนเมือง วันนี้ทางบริษัท Meta เจ้าของ Facebook จึงต้องเริ่มหาทางกำจัดเกรียน Online ครับ

Metaverse กับการเกรียน Online

Metaverse ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในปี 1992 ในนวนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อ Snow Crash โดยเกิดจากการรวมคำของคำว่า Meta (ท่ามกลาง) และ Universe (จักรวาล) เข้าด้วยกัน ทั้งนี้จะว่า Metaverse เป็นอะไรที่เหนือจักวาลก็เป็นได้ ในทางกลับกันตัว Metaverse หรือโลกเสมือนที่มีลักษณะเช่นนี้ได้มีมาให้ประชากรชาวโลกได้ลองเล่นหลายครั้ง เช่น โปรแกรม Second Life ที่ทำให้คนสามารถเข้ามาสร้างตัวละคร ไปจนถึงสร้างที่อยู่อาศัยพูดคุยกันและกัน

ในช่วงกรกฎาคม 2022 คำว่า Metaverse ได้กลับมาเป็นที่พูดถึงกันอีกครั้ง เมื่อคุณ Mark Zuckerberg ได้ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ว่าทาง Facebook จะเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อสร้างโลกเสมือนจริงใบใหม่ขึ้นมา โดยครั้งนี้ทาง Facebook จะให้ประสบการณ์รูปแบบใหม่โดยจะรวมเทคโนโลยี AR (Augment Reality) และ VR (Virtual Reality) เข้ากับ Metaverse ผ่านทางอุปกรณ์อันล้ำสมัยของ Facebook เพื่อให้ Metaverse ของเขาสมจริง ซับซ้อนยิ่งและเหนือชั้นยิ่งกว่าใคร

แม้ว่านักวิเคราะห์หลายคนมองว่า Metaverse จะช่วยลดการเหลื่อมล้ำและการแบ่งแยกที่เกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง เนื่องจากบนโลก Metaverse แต่ละคนจะสามารถสร้างตัวตน (Avatar) ของตนเองโดยไม่สนว่าจะเป็นอะไร แต่ในความเป็นจริงโลก Metaverse อาจไม่ได้สวยหรูแบบนั้น เพราะหลายๆ คนก็ถูกคุกคามแม้แต่ในโลกเสมือนก็ตาม

คุณ Parmy Olson นักเขียนสายเทคโนโลยีได้แบ่งปันประสบการณ์ของการใช้ Metaverse ว่าเมื่อคุณ Olson ได้สวมอุปกรณ์ VR ของทาง Meta แล้วท่องโลก Metaverse สิ่งที่คุณ Olson ตกใจคือมีกลุ่ม Avatar ชายมารุมจ้องเธอ ถ่ายรูปเธอ หรือกระซิบข้างหูเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่สบายใจมาก ประสบการณ์ดังกล่าวตรงกันกับเมื่อเธอได้เล่น Social VR Platform ของ Microsoft แล้วโดนเกรียนเข้ามาพูดจาไม่เหมาะสมใส่

การแก้ไขของ Meta เพื่อให้โลก (เสมือน) น่าอยู่กว่านี้

ทาง Meta เองเมื่อได้ทราบข่าวก็ไม่นิ่งนอนใจและได้แจ้งว่าพวกเขารู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยพวกเขาอยากให้ทุกๆ คนได้รับประสบการณ์ที่ดีในการเช้าใช้ Metaverse ของพวกเขา ทั้งนี้ผู้เข้าใช้งานควรที่จะเข้าถึงอุปกรณ์ทีช่วยให้หลุดพ้นจากสถานการณ์เลวร้ายดังกล่าว

คุณ Andrew Bosworth ผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยีของ Meta กล่าวว่า Metaverse สามารถเป็นได้ทั้งโอกาสที่ดีหรือเป็นภัยคุกคามก็ได้ คุณ Andrew ยังบอกอีกว่าผู้ใช้งานควรมีอำนาจในการควบคุมพื้นที่ส่วนตัวของตนเองมากกว่านี้ เช่น หากมีใครไปเจอเกรียนในโลกเสมือนจริง ผู้ใช้ควรมีความสามารถปิดกั้นภาพและเสียงของคนๆ นั้นออกไปได้อย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่ให้อันตรายที่อาจเกิดขึ้นหมดไป

คุณ Olsen ได้แสดงทัศนะว่าการที่ทาง Microsoft Meta หรือผู้ให้บริการ Metaverse รายอื่นๆ จะสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อกรองสิ่งที่เป็นอันตรายออกนับว่าเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่กระบวนการในการทำดังกล่าว ไปจนถึงระบบคอมพิวเตอร์เพื่อจะประมวลผลข้อมูลดังกล่าวต้องทีประสิทธิภาพที่สูงมากๆ

แม้ว่าเรื่องราวของ Metaverse จะยังพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ และทุกอย่างมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี แต่สิ่งที่เราคนในสังคมควรที่จะปฏิบัติคือเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ให้เกียรติและปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างสุภาพและเหมาะสม ลดทอนด้านที่ไม่ดีเพื่อให้เทคโนโลยีช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและอำนวยความสะดวกครับ