หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สงครามเปลี่ยนชีวิต!!! ชีวิตรูปแบบใหม่ของชาวรัสเซียหลังจากโดนคว่ำบาตร

โพสท์โดย unboxyourthinking

ประชาชนชาวยูเครนที่เป็นศูนย์กลางของสมรภูมิได้รับผลกระทบจากภัยสงครามอย่างร้ายแรง แต่เชื่อหรือไม่ชาวรัสเซียที่อยู่ในแนวหลังก็ได้รับผลกระทบจากสงครามที่ปูตินเริ่มอย่างรุนแรงเช่นกัน ชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังจากนานาชาติประกาศคว่ำบาตรรัสเซียจะเป็นอย่างไร เรามาดูกันครับ

ประวัติศาสตร์การคว่ำบาตร

การคว่ำบาตรที่เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1880 เมื่อกับตัน Charles C. Boycott เจ้าของที่ดินรายใหญ่จากประเทศไอแลนด์ได้ขับไล่ผู้เช่าที่ดินออกจากที่ดินทำกินอย่างไรน้ำใจเพราะไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเช่าที่ในยามเศรษฐกิจฝืดเคืองได้ เหล่าประชาชนจึงได้ประท้วงอย่างสันติโดยการไม่ร่วมคบค้าสมาคมด้วยกับคนในตระกูล Boycott ทั้งหมด ส่งผลให้กับตัน Charles ไม่สามารถจัดหาน้ำปลาอาหาร ตลอดจนเข้าถึงการจ้างงานชาวเมืองเพื่อทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่ฮือฮาข้ามทวีปไปจนถึงอเมริกา และคำว่า Boycott จึงเป็นคำที่ใช้อย่างกว้างขวางในที่สุด

ในทางกลับกันสิ่งที่ทางรัสเซียกำลังโดนเรียกว่าการ Sanction คือการบังคับใช้ทางกฎหมายเพื่อลงโทษรัสเซียที่ไปรุกรานยูเครน แต่เดิมรัสเซียเองก็โดนนานาชาตินำโดยอเมริกาตั้งแต่ปี 2004 เนื่องจากเข้าไปควบคุมพื้นที่ไครเมียทางตอนใต้ของยูเครน แต่ที่ผ่านมาก็ยังพอมีลู่ทางทำการค้ากับประเทศในยุโรปโดยเฉพาะพลังงานและอาหาร อีกทั้งบริษัทต่างๆ เช่น Apple Microsoft Starbuck ยังเข้าไปทำธุรกิจได้อย่างกว้างขวาง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน

การคว่ำบาตรที่เปลี่ยนชีวิตในข้ามคืน

ในช่วงแรกของบทลงโทษทางรัสเซียอาจไม่กระทบมากนัก เพราะประเทศรัสเซียมีประชากรมาก นั่นหมายความว่ามีกำลังบริโภคภายในประเทศ (Domestic Consumption) มากไปด้วย เช่นเดียวกันกับประเทศจีนและอินเดีย อย่างไรก็ตามผลของบทลงโทษเริ่มจะแสดงออกมามากขึ้นเรื่อยๆ  โดยเริ่มจากราคาสินค้าพื้นฐานสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่บริษัทข้ามชาติเริ่มทยอยถอนสาขาออกจากรัสเซียส่งผลให้เกิดการว่างงานจำนวนมาก

  1. ราคาอาหารพื้นฐานแพงขึ้นอย่างมีนัยยะ: ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคถีบตัวสูงขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากการโดนคว่ำบาตรทำให้การนำเข้าอาหารและข้าวของเครื่องใช้ลดลง ผลที่ตามมาคือความหวาดวิตกของชาวรัสเซียที่จะพยายามกักตุนสินค้าเพื่อตนเองและครอบครัวทำให้สินค้ายิ่งขาดแคลน แม้เวชภัณฑ์และยารักษาโรคไม่ได้ถูกจำกัดการนำเข้า แต่ความกังวลเรื่องความขาดแคลนทำให้คนรัสเซียเลือกที่จะหาซื้อมาเก็บไว้จนร้านค้าต้องกำหนดจำนวนการขายในที่สุด น้ำตาล และอาหารเช้าสำเร็จรูปมีราคาสูงขึ้นถึง 20% เมือเทียบกัลป์เดือนกุมภาพันธ์ 2021 ในขณะที่กลุ่มผู้ค้าในรัสเซียพยายามจะช่วยเหลือประชาชนโดยกำหนดให้การขึ้นราคาไม่เกิน 5% และพยายามตั้งข้อกำหนดอื่นๆ เพื่อกระจายสินค้าให้ทั่วถึง

  1. สินค้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศที่กำลังหมดไป: ในช่วงเริ่มต้นของสงคราม หลายๆ บริษัทเริ่มปิดให้บริการต่างๆ ในรัสเซีย เช่น Apple เองก็เริ่มยกเลิกการใช้ Appstore แต่ในท้ายที่สุดเมื่อมีการยกระดับการลงโทษผนวกกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในยูเครนทำให้เหล่าบริษัทต่างๆ ต้องยกระดับตามไปด้วย โดยหลายบริษัทเริ่มที่จะปิดสาขาและออกจากประเทศรัสเซียทันที ผลที่ตามมาคือราคาของ smartphone และโทรศัพท์มือถือแพงขึ้นเป็นอย่างมากเพราะสินค้าคงคลังกำลังลดลงเรื่อยๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือราคาคอมพิวเตอร์ที่สูงขึ้นถึงเกือบ 50% จากราคาเดิม 70,000 รูเบิลกลับกลายเป็นมากกว่า 100,000 รูเบิล และเพิ่มเป็น 140,000 ก่อนที่จะหมดคลังในเมืองมอสโค ราคาของรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ก็พุ่งขึ้นเช่นกัน

  1. การเงินการธนาคารที่มีปัญหา นอกจากประเทศรัสเซียจะถูกดึงออกจากระบบ Swift ที่เป็นการทำธุรกรรมการเงินข้ามประเทศ ตัว VISA และ Mastercard ไปจนถึง American Express ก็จำกัดการให้บริการต่างๆ ระบบการเงินที่โดนจำกัดและค่อยๆ หายไปทำให้เกิดผลลัพท์ทางลบเป็นอย่างมากกับทางบริษัทที่อยู่ในรัสเซีย เพราะหมายถึงเป็นการตัดช่องทางในรับเงิน แม้ทางระบบการโอนเงินที่จีนและรัสเซียพัฒนาและใช้ร่วมกันอย่าง Cross-border Interbank Payment System (CIPS) อาจไม่ได้รับผลกระทบ แต่จำนวนผู้ให้บริการที่เข้าร่วมระบบดังกล่าวยังมีไม่เยอะมากพอที่จะทดแทน Swift อีกช่องทางที่สำคัญคือการใช้ Block chain และรับบการเงิน online เข้ามาช่วย แต่ก็มีบริษัทที่ร่วมการชำระเงินผ่านทางวิธีดังกล่าว

  1. การว่างงานที่กำลังคืบคลานเข้ามา: เมื่อไม่มีรายได้ ธุรกิจก็ต้องหาทางลดค่าใช้จ่าย เมื่อไม่มีลูกค้า การลดจำนวนพนักงานจึงเป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นเมื่อระบบต่างๆ ถูกปิดตัวหรือจำกัดการใช้งานรวมไปถึงการถอนตัวออกจากรัสเซีย ทำให้ปัญหาการว่างงานกำลังจะตามมา ตัวอย่างที่ชัดเจนมากๆ คือ McDonald ที่กำลังจะปิดสาขาถึง 847 แห่งด้วยกัน แม้ McDonald จะทำการมานานตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต แต่ครั้งนี้พวกเขาอาจจะต้องจากรัสเซียไป ซึ่งปัญหาที่ตามมาคือจำนวนพนักงานของ McDonald ก็จะกลายเป็นคนตกงานในท้ายที่สุด

ในภาพรวมถึงแม้ว่าปัญหาต่างๆ อาจไม่ได้แสดงผล ณ ตอนนี้ แต่ท้ายที่สุดความหวาดวิตกจะเริ่มขึ้น และส่งผลให้เกิดวงจรในเชิงลบ (Vicious Cycle) ซึ่งมาตรการต่างๆ ที่ทางภาครัฐและภาคเอกชนหากไม่สำเร็จผลจะก่อให้เกิดความหวาดวิตกและบ่อนทำลายเศรษฐกิจในที่สุดครับ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
unboxyourthinking's profile


โพสท์โดย: unboxyourthinking
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
25 VOTES (5/5 จาก 5 คน)
VOTED: thecrow13, อ้ายเติ่ง, focus44, maddog2565, bgs
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อุทยานพระพิฆเนศร้าง จ.ชลบุรี : ความศรัทธาท่ามกลางซากปรักหักพัง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
หนุ่มอังกฤษอาจติดคุก 20 ปี หลังซั่มแฟนสาววัย 17 ที่ดูไบหลังจากเกิดเหตุ วางยา นักเที่ยวที่เป็นผู้หญิงมากขึ้น ทำให้อังกฤษประกาศว่า ว่าการแอบวางยาผู้อื่น จะถูกบรรจุเป็นความผิดทางอาญาประเภทใหม่ชาวบ้านช็อก หลังพบชายแก้ผ้า เหลาตัวเองข้างรถสาวแต่งงานซั่มครั้งแรกในชีวิต แต่กลับแพ้น้ำจิจนเข้ารพ.
ตั้งกระทู้ใหม่