เทคโนโลยีในสงคราม!!! เมื่อ AI ถูกนำมาใช้ช่วยเหลือในสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อมานานก่อให้เกิดความสูญเสียกับทั้ง 2 ฝ่าย ท่ามกลางสนามรบที่มีผู้บาดเจ็บล้มตาย และข่าวลวงมากมาย นักเทคโนโลยีพยายามที่จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เข้ามาช่วยเหลือและส่งเสริมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในยูเครน อย่างน้อยก็ส่งผลในเชิงสร้างสรรค์และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนไม่มากก็น้อย เรามาดูกันครับว่า AI เข้ามาช่วยด้านใดได้บ้าง
Face Recognition เพื่อช่วยยืนยันตัวบุคคล ไม่ว่าเจ็บหรือเสียชีวิต
ท่ามกลางความสูญเสียทุกหย่อมหญ้า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมากรอการพิสูจน์ตัวตนเพื่อที่จะได้แจ้งสถานะไปยังญาติพี่น้องที่รอคอย ณ เบื้องหลัง แต่ปัญหาสำคัญที่เจ้าหน้าที่ยูเครนต้องพบเจอคือความเสียหายบริเวณใบหน้า ร่างกายของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทำให้การพิสูจน์อัตลักษณ์เป็นไปได้ยากมาก เจ้าหน้าที่ของยูเครนได้รายงานว่าผู้เคราะห์ร้ายบางรายมีร่องรอยบาดแผลบวมช้ำที่ใบหน้าอย่างรุนแรง เหลือเพียงแค่รอยสัก หรือเศษเสื้อผ้า ไม่ก็การทำเล็บ ที่อาจจะทำให้แยกตัวตนได้
เพื่อช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น ทาง Clearview AI บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีรู้จำใบหน้าได้ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างเร่งด่วน โดยได้เสนอให้เจ้าหน้าที่ยูเครนสามารถเข้าใช้เทคโนโลยี Face Recognition ได้อย่างสะดวกและไม่มีค่าใช้จ่าย ทางคุณ Hoan Ton-ธThat CEO ของบริษัท Clearview AI ได้กล่าวว่าตัวระบบดึงข้อมูลรูปพรรณจากภาพถ่ายที่อยู่ใน Social media ต่างๆ อาทิเช่น Facebook เพื่อทำฐานข้อมูลรูปภาพขนาดยักษ์ขึ้นคล้ายกับ Search Engine สำหรับใบหน้าขึ้นมา ผู้ใช้สามารถ upload เพื่อใช้ในการค้นหาตัวตนจากญานข้อมูลดังกล่าวคล้ายกับการใช้ Google search นั่นเอง แม้ว่ารูปข้อผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตอาจไม่ได้ตรงกับรูปที่ได้จากการค้นหา แต่ข้อมูลต่างๆ เช่น รอยสัก สีเสื้อ หรือข้อมูลประกอบอื่นๆ ก็พอจะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถหาข้อมูลง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามการเข้าถึงข้อมูลของบริษัท Clearview AI เป็นข้อถกเถียงอย่างกว้างขวางในประชาคมโลก เพราะการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างร้ายแรง ทั้งนี้บริษัท Clearview AI โดนทางรัฐบาลของประเทศอังกฤษปรับในข้อหาดังกล่าวมาแล้ว อย่างไรก็ตามคุณ Ton-That กล่าวว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 3,200 หน่วยงานได้ซื้อหรือลองใช้เทคโนโลยี Face Recognition นี้ไปแล้ว นับว่าเป็นเครื่องมือใหม่ที่ภาครัฐต่างๆ อาจจะใช้ในการเข้าถึงและตรวจสอบผู้คนได้อีกทางหนึ่ง
การตรวจจับการส่งข้อมูลเท็จ
นอกจากการใช้ AI เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนแล้ว เทคโนโลยี AI ยังสามารถใช้ในการป้องกันข้อมูลเท็จหรือข่าวลวงได้อีกด้วย สงครามรัสเซียและยูเครนครั้งนี้มีการใช้ข้อมูลลวงและข่าวเท็จมากมายทั้งเพื่อโจมตี ทำให้หวาดกลัว หรือส่งผลเชิงยุทธศาสตร์กับอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งมีการใช้ระบบหุ่นยนต์ (Bot) ช่วยเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้คุณ Irina Rish ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน AI แห่ง University of Montreal ได้ให้ความเห็นว่า AI สามารถนำมาช่วยศึกษาพฤติกรรม ข้อมูล เพื่อให้ความเห็นว่าเป็นข่าวลวงหรือไม่
คุณ Rish มองว่าหากเราสามารถให้ความรู้ AI จนระบบสามารถรู้จำรูปแบบ เนื้อหา ลักษณะต่างๆ ของข้อมูลเท็จได้ AI เองก็จะสามารถช่วยเจ้าหน้าที่ในการแยกแยะและจำแนก (Classify) ข้อมูลที่อาจไม่เป็นความจริงหรือข่าวลวงได้ทำให้สามารถปกป้องประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากข้อมูลต่างๆ ได้ นอกจากนี้หากเราสามารถส่ง AI จำนวนมากเข้าไปช่วยตรวจตราการสนทนาใน Social media ก็อาจทำให้เห็นแนวโน้มการโจมตีโดยใช้ข่าวลวงและเข้าควบคุมก่อนที่จะลุกลามบานปลายมากจนเกินไป
ทั้งนี้การใช้เทคโนโลยีนอกจากจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตแล้ว ยังสามารถช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ให้สามารถทำงานได้ง่ายขึ้นแม้จะอยู่ในช่วงสงครามอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายแนวทางที่การใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์จะนำมาซึ่งผลลัพท์ที่ดี แม้จะอย่ในช่วงสงครามครับ
Ref: https://www.reuters.com/technology/exclusive-ukraine-has-started-using-clearview-ais-facial-recognition-during-war-2022-03-13/
Ref: https://www.bbc.com/news/technology-61055319
Ref: https://tickernews.co/how-is-artificial-intelligence-aiding-war-in-ukraine/