ทำไมแป้นพิมพ์บนคีบอร์ดถึงไม่เรียงตัวอักษร?

หากนึกถึงเเป้นพิมพ์ เราจะนึกถึงตัวอักษรมากมายลายตา ให้เราเลือกทั้งตัวอักษรภาษาของประเทศนั้น ๆ ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากล ที่เเทบจะทุกประเทศต้องใช้ อีกทั้งตัวเลข อักขระต่างๆ มากมาย บางเเป้นก็ไม่เคยใช้เลยด้วยซ้ำ 5555 เเล้วเคยสงสัยกันมั้ยคะว่าทำไมแป้นพิมพ์บนคีบอร์ดมันถึงไม่เรียงตัวอักษร ก-ฮ หรือ A-Z จะได้พิมพ์ง่ายๆ ไม่ต้องมาหาอยู่ว่าตัวไหนอยู่บรรทัดไหน วันนี้มีคำตอบค่ะ

ปัจจุบันเเป้นพิมพ์ภาษาอังกฤษที่เราใช้ จะมีระบบการเรียงตัวอักษรเเบบ “คิวเวอร์ตี้” (QWERTY) ตัวอักษรเหล่านี้เรียงจากซ้ายไปขวามือบนเเป้นพิมพ์ ก่อนจะมาเป็นคอมพิวเตอร์ น้องมีบรรพรุษมาก่อนนั้นคือเครื่องพิมพ์ดีด หากใครเคยเรียนพิมพ์ตอนเด็ก ๆ จะเห็นว่าเวลาเรากดพิมพ์ ก้านพิมพ์ของเครื่องจะไปประทับลงบนกระดาษ ตามตัวอักษรที่เราพิมพ์

ซึ่งเครื่องพิมพ์ดีดในอดีตยุคเเรก ๆ ถูกคิดค้นโดยวิศวกรเครื่องกลชาวสหรัฐอเมริกา ชื่อว่าคริสโตเฟอร์ ลาแธม โชลส์ ผลงานของเขาได้รับสิทธิบัตรในปี 1868 ตอนนั้นอักษรบนเเป้นพิมพ์ก็เรียงจาก A-Z ตามที่เราคิดนั่นเเหละค่ะ เเต่เวลาใช้งานจริง เมื่อกดพิมพ์เร็วเกินไป ก้านพิมพ์ดีดมันจะขัดกันบ่อย ต้องคอยเอามือเเงะออกตลอด กลายเป็นว่าเสียเวลามากกว่าเดิม

ปัญหานี้ทำให้คุณลุง คริสโตเฟอร์ ลาแธม โชลส์ ทำการเรียงลำดับตัวอักษรบนเเป้นพิมพ์เสียใหม่ โดยการแยกตัวอักษรที่มักใช้มาผสมเป็นคำกัน กลายเป็นระบบ “คิวเวอร์ตี้” (QWERTY) คือจับเเยกฝั่ง จะได้ไม่มีปัญหาหารตีกันของก้านพิมพ์ เเละระบบนี้ก็ถูกนำมาใช้กับเเป้นพิมพ์บนคอมพิวเตอร์จนถึงปัจจุบัน

ในช่วงเเรก ๆ เครื่องพิมพ์ดีดจะไม่ค่อยนิยมใช้กัน ทำให้คุณลุงคริสโตเฟอร์ ตัดสินใจขายสิทธิบัตรนี้ให้กับบริษัทเรมิงตันอาร์ม ซึ่งต่อมาในปี 1973 ทางบริษัทได้ผลิตเครื่องพิมพ์ดีดออกมาขาย เเละเริ่มนิยมมากขึ้น (อ่าวลุง!!! พลาดเเล้ว นิยมเฉย อิอิ)

นอกจากนี้ยังมีระบบอื่นที่คิดค้นมาเพื่อทดเเทนระบบ “คิวเวอร์ตี้” (QWERTY) เเละเคลมว่าเพื่อจะทำให้พิมพ์เร็วขึ้น นั่นคือระบบ “ดีโวแร็ค” (DVORAK) เเต่ระบบนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่ากับระบบเเรก เพราะเหตุผลง่าย ๆ คือ ทุกคนชินเเละคุ้ยเคยกับระบบ “คิวเวอร์ตี้” ไปเเล้ว

ส่วนเเป้นพิมพ์ภาษาไทยที่เราใช้กันจะเรียกว่า “เกษมณี” มันก็คือระบบคิวเวอร์ตี้ของฝรั่งนั้นเเหละค่ะ  โดยชื่อไทยตั้งตามนามสกุลของผู้ออกแบบ เราใช้เวลา 7 ปีในการค้นคว้าและทำแป้นพิมพ์นี้จนสำเร็จ เเละมีระบบที่สองชื่อว่า “ปัตตะโชติ” หรือแบบ “ดีโวแร็ค” แต่ก็ไม่นิยมเท่าระบบเเรกที่ใช้กันจนถึงปัจจุบัน