สูตรใหม่คำนวน สส.สู่การปูทางเลือกตั้งครั้งถัดไป
ช่วงนี้หลายคนเกาะติดการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับสูตรการคิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 100 และ 500 ในมาตรา 23
ในปัจจุบันมีการแก้ไขในรัฐธรรมนูญ 2560 ให้กลับมาใช้ระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ ได้แก่
- ส.ส.เขต จำนวน 400 คน
- ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน
โดยนำจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไปหารด้วยคะแนนรวมในบัตรเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองทั่วประเทศ จนได้ตัวเลขที่เป็นฐานคะแนนต่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1 คน หลังจากนั้นนำคะแนนของแต่ละพรรคการเมืองมาดูว่าได้คะแนนเท่าไร และนำมาคิดเป็นสัดส่วนของ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่แต่ละพรรคจะได้รับในสภาฯ จนครบ 100 คน
ส่วนสูตรแบบหาร 500 นั้น ทางด้าน นายแพทย์ ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่...) พ.ศ... รัฐสภา ได้อธิบายสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 500 ไว้ดังนี้
แบบที่ 1 การคำนวณหาคะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส.พึงมี 1 คน คือการนำผลรวมคะแนนพรรคของทุกพรรคทั่วประเทศ หารด้วย 500 เช่น 37 ล้าน หารด้วย 500 = 74,000 โดยการคำนวณหาจำนวน ส.ส.พึงมีของพรรค ก คือผลรวมคะแนนพรรคของพรรค ก จากทุกเขต คะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส.พึงมี 1 คน 1,000,000÷74,000 = 13.5 ส.ส.
ส่วนจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ก คือ จำนวน ส.ส.พึงมีพรรค ก – (ลบ) จำนวน ส.ส.เขตพรรค ก ตัวอย่าง ส.ส.พึงมี (13.5) – ส.ส.เขต (7) = ส.ส.บัญชีรายชื่อ คือ 6.5
แบบที่ 2 การคำนวณหาคะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส. พึงมี 1 คน คือผลรวมคะแนนเขต + คะแนนพรรคของทุกพรรค หาร 500 เช่น 37 ล้าน + 37 ล้าน = 74 ล้าน = 148,000
จากนั้นนำคะแนนเขตทั้งหมดพรรค ก + คะแนนพรรคทั้งหมดพรรค ก คะแนนเฉลี่ย ต่อ ส.ส.พึงมี 1 คน ตัวอย่าง = 1,000,000+800,000 หารด้วย 148,000 = 1,800,000 ÷148,000 = 12.16 คน ส่วนวิธีหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ก ให้นำจำนวน ส.ส.พึงมีพรรค ก – (ลบ) จำนวน ส.ส. เขต พรรค ก ตัวอย่าง = ส.ส.พึงมี (12.16 คน) – ส.ส.เขต (7) = ส.ส.บัญชี 5 คน
ข้อดีของสูตรหาร 100 คือพรรคขนาดใหญ่จะได้เปรียบพรรคขนาดเล็ก โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่สนับสนุนแนวทางนี้ ส่วนสูตรหาร 500 แบบที่ 1 พรรคขนาดเล็กและขนาดกลางจะได้เปรียบอย่างเช่น พรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐ ส่วนแบบที่ 2 “ไม่ใช่เพื่อสกัดแลนด์สไลด์ แต่ต้องการขับเคลื่อนประเทศตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ให้มี ส.ส.พึงมี เป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง และคะแนนเสียงไม่ตกน้ำ แต่ถึงกระนั้นเขายอมรับว่า "ผลพลอยได้จากสูตรหาร 500 คือพรรคเล็กไม่สูญพันธุ์ และสกัดแลนด์สไลด์พรรคใหญ่" นายแพทย์ระวีฯ กล่าว
ในที่ประชุมได้ลงมติร่างที่มีผู้ขอสงวนคำแปรญัตติ ผลคือที่ประชุมเห็นด้วยกับสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หาร 500 ด้วยคะแนน 354 ต่อ 162 งดออกเสียง 37 และไม่ลงคะแนน 4 หลังจากนี้จะต้องส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ,ศาลฎีกา และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้ความเห็นชอบด้วย คงต้องติดตามกันต่อไป