เสียงสะท้อน "น้ำท่วม"
สวัสดีค่ะทุกคน หลายคนคงทราบกันดีว่าขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นไร หลังจากผ่านวิกฤตโรคระบาดมาแล้ว ก็เข้าสู่ภาวะภัยพิบัติ ทำให้หลายจังหวัดต้องประสบกับน้ำท่วมรุนแรงจนบ้านเรือนเสียหาย ถนนขาดไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ ได้รับความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า..
ฉันครั้งหนึ่งก็เคยเจอกับเหตุการณ์น้ำท่วมมาก่อนหน้านี้ วันนี้จึงอยากแชร์ประสบการณ์และบอกเล่าถึงความรู้สึกให้ได้รับฟังกันค่ะ
หลายคนคงจำกันได้ สำหรับข่าวเหตุการณ์น้ำท่วมบ้านเรือนบริเวณคลองรังสิตประยูรศักดิ์ จังหวัดปทุมธานี เหตุเพราะฝนตกหนักติดต่อกันจนคลองรับน้ำรังสิตประยูรศักดิ์เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชน และถนนทำให้ไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ ประกอบกับเครื่องสูบน้ำรับไม่ไหวพังเสียหายไปหลายเครื่อง ทำให้ระบายน้้ำได้ไม่ทัน
ในวันนั้นเองก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ฉันเดินทางไปทำงานตามปกติ แต่ในระหว่างวันแม่ของฉันได้แจ้งข่าวส่งมาทางไลน์บอกว่าที่บ้านฝนตกหนักมากติดต่อกันทั้งวันเลย ในตอนนั้นคิดว่าเดี๋ยวฝนก็คงจะหยุด
แต่เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะมีข่าวแจ้งมาว่าคลองรังสิตประยูรศักดิ์รับน้ำไม่ไหวระดับน้ำขึ้นสูงมากจนถึงเส้นแดงเรียกว่าเข้าขั้นวิกฤตให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นขนของขึ้นที่สูงเพราะระดับน้ำอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกจนเอ่อล้นออกมาท่วมบ้านเรือนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวจนทำให้ข้าวของเสียหายได้
หลังจากนั้นไม่นานแม่ก็แจ้งข่าวบอกผ่านมาทางไลน์ว่า ถนนหน้าบ้านเราน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ และทุกคนก็เห็นข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ ว่าถนนบริเวณคลองรังสิตฯ น้ำท่วมสูงห้ามไม่ให้รถสัญจรเข้าออก
ฉันรู้สึกตกใจกับข่าวนี้มาก และเริ่มกังวลใจ เพราะถ้ารถไม่สามารถเข้าออกได้ ฉันจะกลับบ้านด้วยวิธีใด และสมองก็สั่งการว่าให้เตรียมพร้อมสำหรับการลุยน้ำ ไม่ว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไรฉันจะต้องกลับบ้านให้ได้
เมื่อถึงเวลาเลิกงานฉันจึงรีบลาหัวหน้าเพื่อเดินทางกลับบ้านให้เร็วที่สุด เพราะฉันคงต้องใช้เวลาในการเดินทางหลายชั่วโมง เนื่องจากที่ทำงานของฉันอยู่ในจังหวัดนนทบุรี และต้องเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะเพื่อกลับบ้านที่จังหวัดปทุมธานี
ฉันใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงก็เดินทางมาถึงฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต ซึ่งเป็นจุดที่ฉันต้องลงเพื่อข้ามฝั่งไปต่อรถเข้าบ้าน ฉันกดกริ่งและรีบลงจากรถ และเดินขึ้นสะพานลอยข้ามไปฝั่งตรงข้าม
ระหว่างที่เดินอยู่บนสะพานลอย ฉันมองลงไปด้านล่างและกวาดสายตาไปรอบ ๆ ฉันเห็นน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ฉันรู้สึกตกใจ และแอบอุทานในใจว่า"นี่มันเกิดอะไรขึ้น น้ำมาจากไหนมากมายขนาดนี้"
ฉันรีบลงจากสะพานลอย และเดินไปที่จุดจอดรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งโดยปกติจะจอดรอรับผู้โดยสารอยู่ไม่ไกลจากสะพานลอยากนักแต่ก็ต้องแปลกใจ เพราะสิ่งที่ฉันเห็นคือคนจำนวนมากกำลังยืนต่อแถวรอรถ และไม่มีรถรับจ้างจอดรอสักคันเดียว "อ้าวแล้วรถไปไหนกันหมด" ฉันคิดในใจ
ฉันเดินไปต่อแถวเหมือนคนอื่นๆ และกได้ยินเสียงแว่วมาว่า "รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างออกมาไม่ได้ รถดับเพราะน้ำท่วมสูง" เสียงนั้นทำให้ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเลย แต่ฉันก็ยังคงยืนรอต่อไปอย่างมีความหวัง
ฉันยืนรออยู่นานแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีรถมารับผู้โดยสาร จนกระทั่งมีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งผ่านมาและจอดในบริเวณนั้น พร้อมกับมีคนลงมาจากรถ และพูดกับทุกคนที่กำลังยืนรอรถว่า "มีใครจะไปแถววัดธรรมะบ้างหรือไม่ ตอนนี้น้ำท่วมสูง รถมอเตอร์ไซด์ออกมาไม่ได้ ถ้าไปแถววัดฯ จะมีมอเตอร์ไซด์รับจ้างวิ่งรับส่งคน สามารถขึ้นจากตรงนั้นได้เลย"
ฉันได้ยินชื่อวัดธรรมะก็จำได้ว่าวัดนี้อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านของฉัน ในเวลานั้นฉันรู้สึกดีใจมากที่จะได้กลับบ้าน และตัดสินใจขึ้นรถกระบะคันนั้นไปพร้อมกับอีกหลายคนที่มีชะตากรรมเดียวกัน และรถก็เคบื่อนตัวออกไปจากบริเวณนั้น
รถค่อย ๆ ขับเข้าไปในซอยของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งมีน้ำท่วมขังเป็นบางจุด หลังจากขับมาได้ระยะหนึ่งก็ถึงจุดที่เราต้องลงกันแล้ว ฉันลงจากรถและกล่าวขอบคุณเจ้าของรถ และเดินลุยน้ำต่อยังถนนที่อยู่เบื้องหน้า
ฉันยืนรอรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่นานก็ไม่มีสักคัน ฉันจึงตัดสินใจเดินต่อ เพราะเวลานั้นดึกมากแล้ว โชคดีที่ถนนเส้นนั้นเป็นถนนที่ทำใหม่ และเป็นพื้นปูนจึงเดินได้อย่างสบายใจ และระดับน้ำก็ไม่สูงมาก
ฉันเดินมาถึงทางแยก ซึ่งข้างหน้าจะเป็นทางไปหมู่บ้านของฉัน แต่เส้นทางนี้ถนนต่ำ และริมถนนเป็นป่าหญ้า บริเวณนั้นก็มืดมาก ฉันต้องพับขากางเกงสูงขึ้นเพราะระดับน้ำตรงนี้สูงเลยเข่า และเดินลุยน้ำ โดยอาศัยแสงไฟจากรถที่ขับผ่าน
ในระหว่างที่เดินลุยน้ำ ฉันรู้สึกกลัวทุกครั้งที่มีอะไรไหลตามน้ำมากระทบขาที่อยู่ในน้ำ ได้แต่ภาวนาให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัย ฉันพยายามเดินบนถนน เพื่อไม่ให้ตกหลุมตกบ่อ เพราะอาจเกิดอันตรายได้
ในที่สุดฉันก็เดินมาถึงหน้าหมู่บ้าน ฉันรู้สึกโล่งใจและดีใจเป็นที่สุด ฉันเร่งฝีเท้าเพื่อให้ถึงบ้านเร็ว ๆ และพอถึงบ้านฉันไม่ลืมที่จะล้างขาและเท้าทำความสะอาดก่อนเข้าบ้าน เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่มากับน้ำไม่สะอาด
ฉันกลับถึงบ้านราว ๆ สามทุ่มครึ่ง ในบ้านแม่กำลังรอฉันอยู่ ฉันจึงเล่าเหตุการณ์ที่พบเจอให้แม่ฟัง และบอกให้แม่เข้านอนเพราะดึกมากแล้ว
สำหรับเหตุการณ์ที่นำมาเล่าในวันนี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ถึงแม้ฉันจะไม่ได้เผชิญกับความเดือดร้อนที่รุนแรงจากเหตุน้ำท่วม แต่ก็ทำให้ฉันได้รับรู้ถึงความรู้สึกของใครหลาย ๆ คนที่กำลังเผชิญกับน้ำท่วมว่าได้รับความทุกข์ทรมานมากแค่ไหน และเฝ้ารอความช่วยเหลือจากทุกคนอยู่
สุดท้ายนี้ฉันอยากเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนกับเหตุการณ์น้ำท่วม และอยากจะช่วยเป็นอีกเสียงสะท้อนให้กับคนเหล่านั้น หากใครที่พอมีกำลังทรัพย์ หรือสิ่งของข้าวปลาอาหารที่จะแบ่งปันได้ โปรดช่วยกันนะคะ อยากให้ทุกคนรู้ว่า "เราคนไทย จะไม่ทิ้งกันค่ะ"
สวัสดีค่ะทุกคน หลายคนคงทราบกันดีว่าขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นไร หลังจากผ่านวิกฤตโรคระบาดมาแล้ว ก็เข้าสู่ภาวะภัยพิบัติ ทำให้หลายจังหวัดต้องประสบกับน้ำท่วมรุนแรงจนบ้านเรือนเสียหาย ถนนขาดไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ ได้รับความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า..
ฉันครั้งหนึ่งก็เคยเจอกับเหตุการณ์น้ำท่วมมาก่อนหน้านี้ วันนี้จึงอยากแชร์ประสบการณ์และบอกเล่าถึงความรู้สึกให้ได้รับฟังกันค่ะ
หลายคนคงจำกันได้ สำหรับข่าวเหตุการณ์น้ำท่วมบ้านเรือนบริเวณคลองรังสิตประยูรศักดิ์ จังหวัดปทุมธานี เหตุเพราะฝนตกหนักติดต่อกันจนคลองรับน้ำรังสิตประยูรศักดิ์เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชน และถนนทำให้ไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ ประกอบกับเครื่องสูบน้ำรับไม่ไหวพังเสียหายไปหลายเครื่อง ทำให้ระบายน้้ำได้ไม่ทัน
ในวันนั้นเองก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ฉันเดินทางไปทำงานตามปกติ แต่ในระหว่างวันแม่ของฉันได้แจ้งข่าวส่งมาทางไลน์บอกว่าที่บ้านฝนตกหนักมากติดต่อกันทั้งวันเลย ในตอนนั้นคิดว่าเดี๋ยวฝนก็คงจะหยุด
แต่เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะมีข่าวแจ้งมาว่าคลองรังสิตประยูรศักดิ์รับน้ำไม่ไหวระดับน้ำขึ้นสูงมากจนถึงเส้นแดงเรียกว่าเข้าขั้นวิกฤตให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นขนของขึ้นที่สูงเพราะระดับน้ำอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกจนเอ่อล้นออกมาท่วมบ้านเรือนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวจนทำให้ข้าวของเสียหายได้
หลังจากนั้นไม่นานแม่ก็แจ้งข่าวบอกผ่านมาทางไลน์ว่า ถนนหน้าบ้านเราน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ และทุกคนก็เห็นข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ ว่าถนนบริเวณคลองรังสิตฯ น้ำท่วมสูงห้ามไม่ให้รถสัญจรเข้าออก
ฉันรู้สึกตกใจกับข่าวนี้มาก และเริ่มกังวลใจ เพราะถ้ารถไม่สามารถเข้าออกได้ ฉันจะกลับบ้านด้วยวิธีใด และสมองก็สั่งการว่าให้เตรียมพร้อมสำหรับการลุยน้ำ ไม่ว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไรฉันจะต้องกลับบ้านให้ได้
เมื่อถึงเวลาเลิกงานฉันจึงรีบลาหัวหน้าเพื่อเดินทางกลับบ้านให้เร็วที่สุด เพราะฉันคงต้องใช้เวลาในการเดินทางหลายชั่วโมง เนื่องจากที่ทำงานของฉันอยู่ในจังหวัดนนทบุรี และต้องเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะเพื่อกลับบ้านที่จังหวัดปทุมธานี
ฉันใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงก็เดินทางมาถึงฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต ซึ่งเป็นจุดที่ฉันต้องลงเพื่อข้ามฝั่งไปต่อรถเข้าบ้าน ฉันกดกริ่งและรีบลงจากรถ และเดินขึ้นสะพานลอยข้ามไปฝั่งตรงข้าม
ระหว่างที่เดินอยู่บนสะพานลอย ฉันมองลงไปด้านล่างและกวาดสายตาไปรอบ ๆ ฉันเห็นน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ฉันรู้สึกตกใจ และแอบอุทานในใจว่า"นี่มันเกิดอะไรขึ้น น้ำมาจากไหนมากมายขนาดนี้"
ฉันรีบลงจากสะพานลอย และเดินไปที่จุดจอดรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งโดยปกติจะจอดรอรับผู้โดยสารอยู่ไม่ไกลจากสะพานลอยากนักแต่ก็ต้องแปลกใจ เพราะสิ่งที่ฉันเห็นคือคนจำนวนมากกำลังยืนต่อแถวรอรถ และไม่มีรถรับจ้างจอดรอสักคันเดียว "อ้าวแล้วรถไปไหนกันหมด" ฉันคิดในใจ
ฉันเดินไปต่อแถวเหมือนคนอื่นๆ และกได้ยินเสียงแว่วมาว่า "รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างออกมาไม่ได้ รถดับเพราะน้ำท่วมสูง" เสียงนั้นทำให้ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเลย แต่ฉันก็ยังคงยืนรอต่อไปอย่างมีความหวัง
ฉันยืนรออยู่นานแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีรถมารับผู้โดยสาร จนกระทั่งมีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งผ่านมาและจอดในบริเวณนั้น พร้อมกับมีคนลงมาจากรถ และพูดกับทุกคนที่กำลังยืนรอรถว่า "มีใครจะไปแถววัดธรรมะบ้างหรือไม่ ตอนนี้น้ำท่วมสูง รถมอเตอร์ไซด์ออกมาไม่ได้ ถ้าไปแถววัดฯ จะมีมอเตอร์ไซด์รับจ้างวิ่งรับส่งคน สามารถขึ้นจากตรงนั้นได้เลย"
ฉันได้ยินชื่อวัดธรรมะก็จำได้ว่าวัดนี้อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านของฉัน ในเวลานั้นฉันรู้สึกดีใจมากที่จะได้กลับบ้าน และตัดสินใจขึ้นรถกระบะคันนั้นไปพร้อมกับอีกหลายคนที่มีชะตากรรมเดียวกัน และรถก็เคบื่อนตัวออกไปจากบริเวณนั้น
รถค่อย ๆ ขับเข้าไปในซอยของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งมีน้ำท่วมขังเป็นบางจุด หลังจากขับมาได้ระยะหนึ่งก็ถึงจุดที่เราต้องลงกันแล้ว ฉันลงจากรถและกล่าวขอบคุณเจ้าของรถ และเดินลุยน้ำต่อยังถนนที่อยู่เบื้องหน้า
ฉันยืนรอรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่นานก็ไม่มีสักคัน ฉันจึงตัดสินใจเดินต่อ เพราะเวลานั้นดึกมากแล้ว โชคดีที่ถนนเส้นนั้นเป็นถนนที่ทำใหม่ และเป็นพื้นปูนจึงเดินได้อย่างสบายใจ และระดับน้ำก็ไม่สูงมาก
ฉันเดินมาถึงทางแยก ซึ่งข้างหน้าจะเป็นทางไปหมู่บ้านของฉัน แต่เส้นทางนี้ถนนต่ำ และริมถนนเป็นป่าหญ้า บริเวณนั้นก็มืดมาก ฉันต้องพับขากางเกงสูงขึ้นเพราะระดับน้ำตรงนี้สูงเลยเข่า และเดินลุยน้ำ โดยอาศัยแสงไฟจากรถที่ขับผ่าน
ในระหว่างที่เดินลุยน้ำ ฉันรู้สึกกลัวทุกครั้งที่มีอะไรไหลตามน้ำมากระทบขาที่อยู่ในน้ำ ได้แต่ภาวนาให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัย ฉันพยายามเดินบนถนน เพื่อไม่ให้ตกหลุมตกบ่อ เพราะอาจเกิดอันตรายได้
ในที่สุดฉันก็เดินมาถึงหน้าหมู่บ้าน ฉันรู้สึกโล่งใจและดีใจเป็นที่สุด ฉันเร่งฝีเท้าเพื่อให้ถึงบ้านเร็ว ๆ และพอถึงบ้านฉันไม่ลืมที่จะล้างขาและเท้าทำความสะอาดก่อนเข้าบ้าน เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่มากับน้ำไม่สะอาด
ฉันกลับถึงบ้านราว ๆ สามทุ่มครึ่ง ในบ้านแม่กำลังรอฉันอยู่ ฉันจึงเล่าเหตุการณ์ที่พบเจอให้แม่ฟัง และบอกให้แม่เข้านอนเพราะดึกมากแล้ว
สำหรับเหตุการณ์ที่นำมาเล่าในวันนี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ถึงแม้ฉันจะไม่ได้เผชิญกับความเดือดร้อนที่รุนแรงจากเหตุน้ำท่วม แต่ก็ทำให้ฉันได้รับรู้ถึงความรู้สึกของใครหลาย ๆ คนที่กำลังเผชิญกับน้ำท่วมว่าได้รับความทุกข์ทรมานมากแค่ไหน และเฝ้ารอความช่วยเหลือจากทุกคนอยู่
สุดท้ายนี้ฉันอยากเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนกับเหตุการณ์น้ำท่วม และอยากจะช่วยเป็นอีกเสียงสะท้อนให้กับคนเหล่านั้น หากใครที่พอมีกำลังทรัพย์ หรือสิ่งของข้าวปลาอาหารที่จะแบ่งปันได้ โปรดช่วยกันนะคะ อยากให้ทุกคนรู้ว่า "เราคนไทย จะไม่ทิ้งกันค่ะ"