BROS เพื่อนชาย ชีวิตเศร้าชาวเกย์คืนชีพ รีวิว
BROS เพือนชาย? เป็นหนังจากค่ายสตูดิโอหลักของฮอลลีวูดเรื่องแรกที่ใช้นักแสดงเป็น LGBTQ+ ล้วนและเปิดตัวด้วยโรงฉายจำนวนมาก แม้ว่าจะได้รับคะแนนดีจากทั้งนักวิจารณ์และประชาชนที่ได้ดูไปแล้ว แต่รายรับกลับตรงข้าม ขณะนี้หนังเพิ่งทำเงินได้เพียง 14 ล้าน$ ทั่วโลก จากทุนสร้าง 22 ล้าน$ สร้างความผิดหวังให้กับทั้งค่ายหนัง ผู้กำกับ ผู้เขียนบทและดารานำเป็นอย่างยิ่ง
หนังเรื่องนี้จัดอยู่ในประเภทตลกโรแมนติก ความยาว 1 ชั่วโมง 55 นาที กำกับโดย นิโคลัส สโตรเลอร์ เขียนบทและนำแสดงโดย บิลลี่ อิชเนอร์ และร่วมแสดงโดย ลุค แมคฟาร์เลน โดยทั้งคู่รับบทคู่รักกัน หากใครได้ดูหนังควรจะเห็นด้วยว่า เราควรเลิกถามว่าใครเป็นพระเอกนายเอกได้แล้ว เพราะมันเป็นหนึ่งในคำถามเหยียด ไร้มารยาท หนังแสดงให้เห็นซ้ำซากจำเจเหมือนหนังเกย์ยี่สิบปีที่แล้ว ที่คนเป็นเกย์อีโก้แรงยุคดั้งเดิมจะเชื่อว่า เกย์คือสิ่งแปลกประหลาดในโลก จะให้มีชีวิตเหมือนคนปกตินั้นเป็นไปไม่ได้ ในขณะที่คนยุคปัจจุบัน ให้การยอมรับ LGBTQ+ กันมากแล้ว และหลายๆ คนก็สามารถใช้ชีวิตอย่างคนปกติได้อย่างมีความสุข ความแตกต่างในความเป็นจริงนี้ถูกนำไปใส่ในบุคลิกของสองดารานำ ทำให้ความขัดแย้งต่างๆ เกิดขึ้นอย่างสนุกสนานตลอดเรื่อง และด้วยความรัก ความรู้สึกดีๆ ทำให้ทั้งคู่ต้องหาทางปรับตัวเข้าหากัน แต่ความรักกับความเห็นที่ไม่ตรงกันขั้นรุนแรง จะทำให้ทั้งคู่แตกหักกันในที่สุดหรือไม่ โปรดติดตามในโรงภาพยนตร์ซึ่งยังคงมีฉายอยู่บางสาขา
หนังได้เรท 18+ เพราะมีฉากยั่วยุทางเพศมากมาย และเป็นเหตุให้โรงภาพยนตร์เครือใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ไม่ยอมฉายภาพยนตร์ตัวอย่างเรื่องนี้ ด้วยเหตุผลว่าเพราะเป็นเกย์คอนเทนท์ (นี่คือความเห็นจากโรงหนังในสหรัฐอเมริกา ประเทศเสรีประชาธิปไตยที่สุดในโลกนะ) ในขณะที่เมเจอร์ประเทศไทยฉายตัวอย่างเรื่องนี้ได้ถี่ยิบ แต่ด้วยกระแสที่จุดไม่ขึ้น ถึงวันฉายจริง 3 พฤศจิกายน 2565 เรื่องนี้ก็ได้โรงฉายแค่ไม่กี่สาขาทั่วไทย ซึ่งอาจเป็นเพราะหน้าหนังที่ดูเฉพาะกลุ่มเกินไปหน่อย ทำให้บรรดาชายจริงหญิงแท้ไม่เข้ามาชมภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้แต่เกย์และไบเซ็กช่วลจำนวนมาก ก็รู้สึกกระดากที่จะเข้ามาชมในโรงภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมหนังเรื่องนี้เหลือแต่ผู้หญิงและกะเทยเป็นส่วนใหญ่ หนังจึงประสบความขาดทุนด้วยประการฉะนี้ แม้ว่าจะได้คะแนนความชอบจากประชาชนในเว็บมะเขือสูงถึง 80% ก็ช่วยอะไรไม่ได้
ผู้โพสท์ได้รับเชิญให้ไปชมรอบสื่อมวลชน แม้ไม่ได้ไปในรอบที่ได้รับเชิญ แต่ก็ได้สัญญาว่าจะไปดูจึงมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ มีความเห็นว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้มีแค่ความสนุกสนานตลกกะโปกฮากับมุกตลกจิกกัดทันสมัยแต่เพียงสถานเดียว ข้อคิดคำคมดีๆ จากเรื่องนี้ที่นำมาปรับใช้ได้กับการดำเนินชีวิตประจำวันของเราๆ ก็มีอีกมากมาย ทั้งความคิดคลาสสิกแบบคนรุ่นเก่า และความคิดประยุกต์แบบคนรุ่นใหม่ จัดเป็นหนังดีควรค่าแก่การได้คะแนนดี คนโพสท์ขอให้ได้ถึง 7/10 ครับ
ทิ้งท้าย แม้ว่าพล็อตเรื่องที่เกย์ทะเลาะกันทางความคิดจากความเห็นที่ว่าเกย์เป็นคนแปลกแยกของสังคมกับอีกฝ่ายที่คิดว่าเกย์ก็เป็นคนปกติที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมจะเป็นแนวคิดโบราณเหมือนพล็อตหนังเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว แต่ความเป็นจริงปัญหานี้ก็ยังคงมีในปัจจุบันอยู่ดี ถึงจะมีการยอมรับอย่างแพร่หลาย แต่การเหยียดหยามและความเกลียดชังก็ยังคงไม่เหือดหายไปจากใจหลายคนในสังคม
ส่วนเรื่องหนุ่มๆ หุ่นดีเซ็กซี่และบทรักเร้าใจขนาดไหนนั้น คนโพสท์ไม่ได้อินตรงนี้เลยครับ เพราะไม่เสป็คฝรั่งบึกบึนขนดกจึงไม่สามารถบรรยายได้ ถ้าเป็นหนังวายมัธยมก็ว่าไปอย่าง อาจรู้สึกดีมีชีวิตชีวาบ้าง
อ้างอิงจาก: United International Pictures