"Apollo" เทพเจ้ากรีกกับตำนานความรักในแบบ "LGBTQ"

"อพอลโล" (Apollo) ถือว่าเป็นอีก 1 ใน 12 มหาเทพแห่งโอลิมปัสก็ว่าได้และเป็นเทพแห่งสารพัดสิ่ง ดังนั้นก่อนที่จะไปรู้เรื่องความรักของอพอลโล เรามารู้จักจุดเริ่มต้นของเขาก่อนดีกว่า..ว่ามีความเป็นมายังไง

อพอลโลเป็นใคร ?
เขาเป็น 1 ใน 12 มหาเทพแห่งโอลิมปัสอย่างที่กล่าวไว้ เป็นลูกชายของ "เทพเจ้าซุส" (แห่งท้องฟ้า) กับ "นางเลโต" โดยเขาเป็น เทพแห่งดวงอาทิตย์, แสงสว่าง, การดนตรี, สัจจะ, และการแพทย์อีกด้วย แถมมีรูปร่างหน้าตาที่งดงาม

มีน้องสาวฝาแฝดคือ "เทพีอาร์เทมิส" (Artemis) แต่ถ้าโรมันก็คือ "เทพีไดอาน่า" ซึ่งเป็น..เทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์อีกด้วย

Apollo,_standbeeld,_Museum_Plantin-Moretus_(Antwerpen)

Artemis

Zeus

ทำไม ? อพอลโลถึงได้ถูกบูชา
จริงๆแต่เดิมสุริยเทพของกรีกคือ "ฮีลิออส" เป็นบุตรของ "โฮเพอร์เรียน" ซึ่งเป็นเทพไทแทน แต่พอหลังจากเหล่าไทแทนสิ้นอำนาจลง เหล่าเทพเจ้าก็ขึ้นปกครองแทน เลยทำให้ชาวกรีกหันมานับถือ "เทพอพอลโล" แทนฮีลิออสนั่นเอง

Helios

เกือบไม่ได้กำเนิด
เนื่องจาก "นางเลโต" แม่ของอพอลโลช่วงตั้งครรภ์ นางก็ถูกทำร้ายโดย "เทพีเฮร่า" เหตุเพราะนางเลโตเป็นที่ต้องตาต้องใจของเทพซุส ทำให้นางเลโตต้องอุ้มครรภ์หนีงูไพธอนงูยักษ์ของเทพีเฮร่าที่ส่งมาทำร้ายนาง แถมไม่พอเทพีเฮร่าก็สั่งห้ามทุกพื้นที่บนแผ่นดินนี้ให้ที่พักแก่นางเลโตในการคลอดบุตร นางเลโตจึงต้องเร่ร่อนไปมาเพื่อหนีงูยักษ์ไพธอน

Hera_Campana_Louvre_Ma2283

แถมหาที่พักพิงในการคลอดบุตรก็ไม่ได้ จนได้เดินทางไปเจอกับ "เทพโพไซดอน" ทำให้เทพโพไซดอนเกิดความสงสาร จึงบันดาลให้เกิดเกาะชื่อว่า "เกาะเดโลส" ผุดขึ้นในทะเล ซึ่งถือว่าไม่ได้อยู่บนแผ่นดินดังคำของเทพีเฮร่า นางเลโตจึงสามารถให้กำเนิดบุตรคู่แฝดชายหญิงได้ นั่นก็คือ "เทพอพอลโล" และ "เทพีอาร์เทมิส" นั่นเอง

Poseidon

Leto, Apollo and Artemis

เติบโตและเก่งกาจ
อพอลโลจากทารกได้กลายมาเป็นหนุ่มในเวลาแค่ 1 วัน เนื่องจากได้กินน้ำอมฤตและอาหารทิพย์วิเศษ ผ่านไปแค่ 4 วันหลังเกิดมาไม่นาน เขาก็สามารถฆ่างูไพธอนได้ ดังนั้นบางครั้งเขาจึงถูกเรียกว่า "ไพธูส" แปลว่า..ผู้ประหารไพธอน เป็นเทพผู้เก่งกาจเขาสังหารศัตร์และสัตว์ดุร้ายต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะงูยักษ์ไพธอน, ยักษ์อโลอาดี, และอีฟิอัลทิส ที่สืบเชื้อสายมาจากพวกไทแทนที่หวังจะฟื้นคืนกลับมาทวงอำนาจ ก็ล้วนถูกเขาจัดการฆ่าจนหมดสิ้น

อาวุธคู่กาย
เทพอพอลโลมักจะถือพิณที่มือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งถือคันธนู ซึ่งธนูของเขาสามารถยิงได้ไกลและแม่นยำเป็นอย่างมาก เขาจึงมีสมญานามอีกชื่อว่า "เทพแห่งธนู" เป็นคนชอบเล่นพิณเป็นอย่างมาก ซึ่งพิณนี้ก็ได้รับมาจาก "เฮอร์เมส" (เทพแห่งการสื่อสาร, การเดินทาง และหัวขโมย)

เพราะเฮอร์เมสได้มาขโมยวัวของเขาไปซ่อน ทำให้เขาโกรธเป็นอย่างมาก เฮอร์เมสเลยไถ่โทษด้วยการประดิษฐ์พิณชิ้นแรกของโลกให้แก่อพอลโล เสียงพิณนี้มีเสียงที่บรรเลงได้ไพเราะเป็นอย่างมาก จึงทำให้ทั้ง 2 คนยอมคืนดีกันในที่สุด

Apollo

ตำนานความรักของเขา
อพอลโลนั้นเป็นเทพหนุ่มที่มีรูปโฉมงดงามที่สุด ถือว่าเป็นตัวแทนของเพศชายชาวกรีกเลยก็ว่าได้ และเป็นคนที่มีความรักมากมายไม่แพ้ซุสพ่อของตน ไม่ว่าจะเทพ เทพี หรือจะมนุษย์เพศชายหรือจะเพศหญิงก็ตาม ประมาณว่าได้หมดถ้าสดชื่น จึงทำให้มีบุตรธิดามากมาย ตัวอย่างตำนานรักของเขา...

1. ตำนานรักกับ "นางโคโรนิส ธิดาแห่งฟลีจีอัส" ราชาแห่งเธสซาลี แต่นางกลับไปเล่นชู้กับชายนามว่า "อิสคีส" ซึ่งเขาได้ให้อีกาคอยเฝ้านางพออีกามาบอกข่าว เขาก็โกรธอย่างมากสาปอีกาจากสีขาวเป็นสีดำ และก็ฆ่านางโคโรนิสและเอาทารกออกมาจากท้องก่อนจะเผานาง ซึ่งลูกที่เกิดมาก็คือ "เอสคิวเลปิอัส" และเขาได้นำลูกไปให้กับ "ไครอน" ที่เก่งเรื่องวิชาต่างๆเลี้ยงดูแทน

2. ตำนานรักกับ "นิมพ์ดาฟนี" นางเป็นธิดาของ "เพอนีอัส" (เทพแห่งแม่น้ำ) พอเขาเห็นนางก็ตกหลุมรักแต่แรกพบ จึงคิดว่าจะเดินไปหานางแต่นางหันมาพบเขาก่อน จึงหนีเขาขึ้นไปบนภูเขา เขาก็ไล่ตามนางไปอย่างไม่ลดละ พอจะคว้าตัวนางไว้ได้ นางก็ตั้งจิตบอกพ่อของนางให้ช่วย พ่อของนางรับรู้ได้ด้วยญาณก็เลยเสกให้นางกลายเป็น "ต้นลอเรล" ทั้งตัวนางเลยกลายเป็นกิ่งและใบ นิ้วเท้ากลายเป็นราก ใบหน้าก็ถูกฝังไว้กับยอดไม้ ทันทีที่เขาคว้านางมาสัมผัสก็ได้เป็นเปลือกไม้ไปซะแล้ว เขาเสียใจไม่สมหวังกับความรัก เขาจึงทำการรับต้นลอเลเป็นต้นไม้ประจำตัวและสัญลักษณ์ของตน ทำให้ "มงกุฎลอเรล" จึงเป็นสัญลักษณ์ "แห่งชัยชนะ" อย่างที่เราเคยเห็นกัน

ตำนานรักกับผู้ชายด้วยกัน
เขาได้รักกับ "ไฮยาซินธัส" เป็นเจ้าชายจาก "ลาเคไดโมเนีย" ของกษัตริย์องค์หนึ่งเป็นบุรุษที่งดงามมาก จึงทำให้อพอลโลสนใจและแวะเวียนมาหาบ่อยๆ จนแทบจะไม่กลับสวรรค์เลย แต่ก็มีอีกคนที่แอบหลงรักไฮยาซินธัส นั่นก็คือ "เซอฟีรัส" (Zephyrus) เป็นเทพแห่งลมตะวันตก แต่กลับไม่ได้เข้าใกล้เลย เพราะอพอลโลอยู่ด้วยตลอดเวลา จึงเป็นต้นเหตุให้จากความรักกลายเป็นความเกลียดชัง, และความหึงหวง ในที่สุด

Hyacinth

จนวันหนึ่งอพอลโลกับเจ้าชายไฮยาซินธัส เล่นขว้างจักรกัน พอถึงตาที่อพอลโลเป็นคนขว้างไปหาคนรัก เซอฟีรัสได้โอกาสจึงแกล้งออกแรงเป่าลมไปที่จักร ทำให้จักรพุ่งแรงกว่าเดิมพุ่งไปปักอกของเจ้าชายไฮยาซินธัส เจ้าชายทนพิษบาดแผลไม่ไหวจึงได้สิ้นใจตาย ฝ่ายอพอลโลก็รีบวิ่งไปประคองคนรักแต่ก็สายไปแล้ว

เจ้าชายไฮยาซินธัสได้สิ้นใจตายเสียแล้ว เขาไม่อยากจะพรากจากคนรัก จึงเสกให้เลือดของเจ้าชายที่ไหลท่วมกลายเป็นดอกไม้แสนงามสีแดงเหมือนเลือด แล้วตั้งชื่อมันว่า "ดอกไฮยาซิน"

Hyacinths Flower

แต่พอน้ำตาของเขาหยดลงไปถูกดอกไฮยาซิน มันก็เกิดดอกไม้สีสวยขึ้นมาอีก 1 กอ และจากสีแดงก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ และกลีบดอกไม้เป็นรูปหยดน้ำตาของเทพอพอลโล นั่นคือเหตุผลว่าทำไม "ดอกไฮยาซิน" จึงมีความหมายว่า "ยกโทษให้ฉันเถอะนะ"