ขบวนเร่สยองขวัญ
เรื่องเล่าสยองขวัญต่อไปนี้เป็นประสบการณ์สยองขวัญที่ได้มาจากคนที่อยู่ทางบ้านที่อยากจะแชร์ประสบการณ์หลอนๆให้กับคนที่ต่างชอบเรื่องผีได้อ่านกัน โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับขบวนเร่ มีใครรู้สึกคุ้นหรือเคยได้ยินเกี่ยวกับขบวนเร่มาก่อนไหม สำหรับใครที่ไม่รู้ต้องบอกก่อนว่า ขบวนเร่เป็นเหมือนกับทีมงานหลายๆคนมารวมกลุ่มกันเพื่อที่จะไปตั้งร้านขายของตามงานวัดบ้าง ตามงานต่างๆที่อยู่ตรงทางต่างจังหวัดบ้าง ชาวบ้านก็จะมารวมตัวกันตั้งขบวนเร่ขายของกันตามปกติ โดยเรื่องต่อไปนี้นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมากับผู้ชายคนหนึ่งที่ตัวเขานั้นก็เป็นหนึ่งคนในร้านที่เปิดร้านขบวนเร่ไว้ ร้านที่เขาเปิดนั้นเป็นร้านปาโปงอย่างที่คนส่วนใหญ่เคยเล่นกัน ขบวนเร่ของเขานั้นจะไปทุกที่ที่มีคนจัดขึ้นมาและคราวนี้นั้นเขาก็ได้งานๆหนึ่งที่จัดขึ้นมา มันเป็นงานทอดกฐิน เขาก็ต้องเดินทางไปที่ต่างจังหวัดนั้น และนี่ก็จึงได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องสยองขวัญในครั้งนี้ กับเรื่อง “ขบวนเร่” ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ บรื้อ…
โดยพื้นเพนั้นตัวเขาเป็นคนกรุงเทพ ถ้าเกิดมีงานที่มีอยู่ต่างจังหวัดเขาก็ต้องไป ปกติแล้วเวลาที่เขาต้องไปจัดขบวนเร่นั้นเขาก็มักจะไปกับครอบครัวของเขา แต่ครั้งนี้นั้นลูกสาวของเขาไม่สบาย เขาจึงจำเป็นต้องไปคนเดียวพร้อมกับลูกน้องของเขาอีกไม่กี่คน ขบวนเร่ครั้งนี้นั้นจัดขึ้นที่จังหวัดเพชรบุรี พอเขาเดินทางไปถึงสถานที่นั้น ก็ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ในงานเลย เขาเลยโทรถามคนที่จะจัดงานขึ้นมา จนมารู้ว่าเขานั้นมาเร็วกว่ากำหนดไป 1 วัน ด้วยความที่ตัวเขาก็ไม่อยากที่จะต้องมาเสียค่าที่พัก เพราะปกติแล้วการจัดขบวนเร่นั้นเขาก็จะนอนอยู่ที่ร้านเขาเลย เขาจึงตัดสินใจไปจัดตั้งร้านก่อนเลย เพราะกว่างานจะเริ่มก็อีกเป็นวัน เขาไปถึงก่อนมันก็ทำให้เขาสามารถเลือกพื้นที่ก่อนคนอื่นๆได้ พอดูไปดูมาเขาก็ไปสะดุดอยู่ตรงจุดนึงเป็นลานกว้าง พอเห็นจุดนั้นแล้วเขาก็ไปตั้ง เขาก็กางเต้นท์จัดร้านเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานในวันถัดไป แต่พอเวลาผ่านไปจนถึงตอนเย็น ที่วัดนี้นั้นก็เหมือนว่าจะมีงานศพ มันจึงทำให้คนพากันมาในวัดกัน ซึ่งพอบางคนเห็นร้านของเขาก็ได้เข้ามาปาโป่งกัน เขาก็ถือโอกาสนี้เปิดร้านไปเลย เพราะตอนนั้นมีร้านของเขาอยู่ร้านเดียวที่อยู่ที่วัด
โดยพื้นเพนั้นตัวเขาเป็นคนกรุงเทพ ถ้าเกิดมีงานที่มีอยู่ต่างจังหวัดเขาก็ต้องไป ปกติแล้วเวลาที่เขาต้องไปจัดขบวนเร่นั้นเขาก็มักจะไปกับครอบครัวของเขา แต่ครั้งนี้นั้นลูกสาวของเขาไม่สบาย เขาจึงจำเป็นต้องไปคนเดียวพร้อมกับลูกน้องของเขาอีกไม่กี่คน ขบวนเร่ครั้งนี้นั้นจัดขึ้นที่จังหวัดเพชรบุรี พอเขาเดินทางไปถึงสถานที่นั้น ก็ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ในงานเลย เขาเลยโทรถามคนที่จะจัดงานขึ้นมา จนมารู้ว่าเขานั้นมาเร็วกว่ากำหนดไป 1 วัน ด้วยความที่ตัวเขาก็ไม่อยากที่จะต้องมาเสียค่าที่พัก เพราะปกติแล้วการจัดขบวนเร่นั้นเขาก็จะนอนอยู่ที่ร้านเขาเลย เขาจึงตัดสินใจไปจัดตั้งร้านก่อนเลย เพราะกว่างานจะเริ่มก็อีกเป็นวัน เขาไปถึงก่อนมันก็ทำให้เขาสามารถเลือกพื้นที่ก่อนคนอื่นๆได้ พอดูไปดูมาเขาก็ไปสะดุดอยู่ตรงจุดนึงเป็นลานกว้าง พอเห็นจุดนั้นแล้วเขาก็ไปตั้ง เขาก็กางเต้นท์จัดร้านเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานในวันถัดไป แต่พอเวลาผ่านไปจนถึงตอนเย็น ที่วัดนี้นั้นก็เหมือนว่าจะมีงานศพ มันจึงทำให้คนพากันมาในวัดกัน ซึ่งพอบางคนเห็นร้านของเขาก็ได้เข้ามาปาโป่งกัน เขาก็ถือโอกาสนี้เปิดร้านไปเลย เพราะตอนนั้นมีร้านของเขาอยู่ร้านเดียวที่อยู่ที่วัด
หลังจากนั้น พิธีสวดศพภายในวัดก็จบและเสร็จลงก็มีคนที่นอนเฝ้าศพบ้าง บางคนก็กลับบ้านบ้าง พอเขาเช็คเวลาก็เป็นเวลา 4 ทุ่มแล้ว เขาก็ปิดร้านเพื่อจะได้เตรียมสำหรับวันถัดไป ในขณะที่กำลังเก็บร้านอยู่นั้นปรากฏว่าได้มีเด็กคนนึงเดินมาหาเขา มาพูดกับเขาว่า “ลุง หนูขอปาโป่งหน่อยสิ” เขาก็ได้ตอบกลับเด็กคนนั้นว่าปิดแล้ว เด็กคนนี้เป็นเด็กผู้หญิงน่าจะมีอายุประมาณ 10 ขวบ เขาก็นึกสงสัยว่าทำไมมีเด็กมาคนเดียวในเวลาป่านี้ จึงได้ถามไปว่ามากับใครและอยู่ที่ไหน เด็กก็ตอบกลับเขามาว่าเธอมาคนเดียว เธออยู่แถวนี้มานานแล้ว ให้เธอปาโป่งหน่อยเถอะนะ ด้วยความใจอ่อนเขาจึงยอมให้เธอปาโป่งไป พอเงินของเด็กหมด เด็กก็ได้เดินไป เขาจึงปิดร้านต่อและพอหลังจากปิดร้านเสร็จ เขาก็ได้เข้าไปนอนในรถและปิดไฟส่วนที่ร้านเขาทั้งหมด จังหวะที่เขากำลังจะปิดประตูรถนั้น เขาก็ได้ยินเสียงเด็กเรียกเขา ลุงๆๆ! พอเขาหันไปดูก็ได้เห็นเด็กผู้หญิงคนเดิมกลับมาอีก เขาก็ตกใจและได้ถามว่ามาทำไมอีกมันดึกแล้ว เด็กก็ตอบเขาว่า เธออยากจะได้ตุ๊กตา เธอไม่เคยมีของเล่นแบบคนอื่นเขาเลย เธออยู่นี่มานานแล้ว เขาจึงตัดสินใจให้ตุ๊กตาเด็กคนนั้นไปเลยด้วยความสงสาร แต่เด็กคนนี้ก็ยืนอยู่และบอกว่าหนูอยากปาโป่งด้วย เขาจึงได้ไล่เด็กคนนี้ให้กลับไปบ้านได้แล้วเพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาดึกมากแล้วด้วย
หลังจากนั้นเด็กคนนั้นก็เดินกลับไปด้วยสีหน้าเศร้าๆ เขาจึงได้เข้ารถแล้วจะนอนต่อ และระหว่างหลับอยู่นั้นเขาก็ฝัน ฝันถึงเด็กผู้หญิงคนนี้ ในฝันเด็กคนนี้พูดอยู่คำเดี่ยวว่า “ลุง หนูจะปาโป่ง” เธอพูดย้ำเรื่อยๆ ในฝันเขาก็ไล่เธอกลับบ้านเหมือนกัน ในฝันเด็กคนนี้ก็เริ่มมีสีหน้าที่โกรธมากขึ้นและพูดขึ้นมาว่า “ลุงมาอยู่ที่บ้านหนู แล้วลุงจะไล่หนูอีกเหรอ ตกลงมึงจะไม่ให้กูปาใช่ไหม” ในฝันนั้นเด็กคนนี้ตาค่อยๆโตขึ้นมาเรื่อยๆ จนแทบจะทะลักออกมาจากเบ้า และได้วิ่งเข้าใส่ร้านของเขา เด็กคนนั้นลื้อร้านเขา ตุ๊กตา ลูกโป่งร้านเขาออกมา ในฝันเขาจึงได้ไปดึงแขนเด็กคนนี้ ปรากฏว่าแขนเด็กคนนี้ก็หลุดออกมา นั่นทำให้เขาตกใจและตื่นขึ้นมา
พอเขาตื่นขึ้นมาเขาก็ได้เดินไปดูที่ร้านเขา และปรากฏว่าตุ๊กตาและลูกโป่งที่เขาคลุมไว้อยู่นั้นเหมือนโดนถูกลื้อกระจายเต็มไปหมด มันเหมือนกับฝันที่เขาฝันเมื่อกี้เลย เขาจึงเดินไปดูลูกน้องเขาปรากฏว่าทุกคนหลับกันอยู่หมดเลย และพอเขากำลังจะเดินกลับไปดูที่เดิมนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของเด็กคนดื่มพูดขึ้นมาว่า ลุงหนูจะปาโป่ง พอเขาหันไป เขาก็ต้องตกใจเพราะว่าเขาเห็นเด็กผู้หญิงคนดื่ม แต่ครั้งนี้เธอนั้นไม่มีดวงตา มันทำให้เขาตกใจและรีบวิ่งเข้าไปในวัดเพื่อหาพระ จนเขาก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้พระฟัง จนรู้ว่าสถานที่ตรงที่เขาจอดนั้นมันอยู่ตรงที่ๆคนชอบเอาศพไปฝั่งกันนั่นเอง และนี่ก็คือทั้งหมดของเรื่อง ขบวนเร่ ถ้าชอบเรื่องเล่าสยองขวัญแบบนี้ก็ขอให้ติดตามกันไปเรื่อยๆนะครับ บรัยบาย…