จากหนุ่มวงบอยแบนด์ชื่อดัง..ก้าวเข้าสู่วงการหนังผู้ใหญ่

ถ้าคุณเป็นคนเล่นอินเทอร์เน็ตมานานหลายปี ก็คงจะมีดารา, นักร้อง ที่ตัวเองชื่นชอบอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งคุณอาจจะชื่นชอบความสามารถของเขา หรือชอบเพียงเพราะหน้าตาของเขาหรือเธอเหล่านั้น แล้วถ้าวันหนึ่งจู่ๆคุณมารู้ทีหลังว่าดารา, นักร้อง ที่คุณชื่นชอบไปถ่ายหนังผู้ใหญ่ หรือก็เปลี่ยนเพศโดยที่คุณไม่เคยคาดคิดมาก่อน เชื่อว่าบางคนอาจจะรับไม่ได้ กับการพลิกผันเช่นนี้ก็เป็นได้ แต่เรื่องที่พลิกผันเช่นนี้ก็เกิดขึ้นจริงในประเทศญี่ปุ่น งั้นเรามาเจาะลึกชีวิตของเขากัน

ประวัติของวงดนตรี
โดยตัวละครหลักของเรื่องก็คือ เป็นตัวหลักของวงดนตรี "ซากุระเมน" (Sakuramen) เป็นชายหนุ่มที่ชื่อ "คิจู" (Kiju) หรือชื่อเต็มคือ "คิตะมุระ คิจู" ซึ่งวงซากุระเมนได้ก่อตั้งเมื่อปี 2017 จากเดิมเป็นวงดนตรีที่มีหนุ่มๆจำนวน 10 คน เนื่องจากมีการใช้เครื่องดนตรีโบราณมาเล่นเป็นดนตรีสากลเพื่อเผยแพร่ไปสู่ทั่วโลก

บวกกับเป็นวงหนุ่มๆวัยรุ่นหน้าตาหล่อ จึงทำให้วงนี้มีชื่อเสียงในระดับหนึ่งของญี่ปุ่น หากดูจากประวัติของวงเคยทำดนตรีให้กับผลงานการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่น เช่น "คาเมนไรเดอร์" และ "วันพีซ" เป็นต้น

และเคยจัดทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศมาแล้วหลายรอบ แม้จะเป็นวงที่ไม่ได้แมสมากแต่ก็มีแฟนคลับอยู่ไม่น้อย และในชาร์ตจัดอันดับต่างๆก็มักจะเห็นชื่อวงของพวกเขาเช่นกัน

Sakuramen

ประวัติหนุ่ม "คิจู"
ในส่วนของคิจูก็เป็นสมาชิกที่มีความสามารถ เนื่องจากเขาสนใจเครื่องดนตรีที่เรียกว่า "สึงารุซามิเซ็ง" มาตั้งแต่เด็ก ด้วยเหตุนี้เขาจึงเป็นนักดนตรีสึงารุซามิเซ็งขั้นเทพตั้งแต่อายุยังน้อย หลังจากได้เข้าร่วมวงฯ เขาก็ได้รับตำแหน่งเป็นมือซามิเซ็งของวง ไม่เพียงเท่านั้นเขายังมีฝีมือและมีสตูดิโอของเขาในการประดิษฐ์ซามิเซ็งเป็นของตัวเองด้วย

Kiju Sakuramen

จากหนุ่มหล่อผันตัวเป็นสาว
แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งหนุ่มหล่อผู้นี้ก็หายตัวไป และไปแทนที่ในการเป็นนักแสดงหนังผู้ใหญ่โดยใช้ชื่อใหม่ในวงการหนังเอวีว่า "โมโมทานิ ริริ" (Momotani Riri) และได้ถ่ายทำผลงาน OPPW-107 ทำเอาแฟนคลับสาวๆต่างตกตะลึงและรับไม่ได้กับสิ่งนี้เป็นอย่างมาก

Momotani Riri

เกิดอะไรขึ้นกับเขา ?
ซึ่งความจริงแล้วตั้งแต่มีโรคระบาดโควิด-19 งานแสดงต่างๆของวงฯ ก็ถูกระงับทั้งหมด ทั้งบริษัทต้นสังกัดและตัวศิลปินต่างก็ตกอยู่กับความตึงเครียดในด้านการเงิน วงดนตรีที่แมสอยู่แล้วก็ยังพอจะเป็นที่นิยมอยู่บ้าง แต่ถ้าวงดนตรีอินดี้ถ้าไม่มีงานแสดงต่อเนื่องก็ย่อมได้รับผลกระทบ ส่วนสตูดิโอที่ผลิตซามิเซ็งของเขาก็ต้องปิดเนื่องจากโรคระบาดเช่นกัน เขาจึงตัดสินใจลาออกจากวงฯ ไปใช้ชีวิตในแบบของตนเอง

ก้าวเท้าเข้าสู่คนกลางคืน
เขาจึงตัดสินใจไปโอซาก้าเข้าไปในร้านเล็กๆที่ชื่อว่า "ไดมอนด์คลับ" (Club Diamond) ซึ่งร้านแห่งนี้เป็นร้านที่ผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิง พนักงานในร้านล้วนแต่เป็นผู้ชายที่อยู่ในคราบของสาวสวย ซึ่งถ้าเป็นร้านดั้งเดิมลูกค้าจะแสดงพฤติกรรมเกินเลย, ล่วงเกินกับผู้หญิงแท้ๆ ก็ทำให้เกิดความขุ่นเคืองมีปัญหาตามมา แต่ถ้าเป็นผู้หญิงเทียมก็ย่อมตอบสนองลูกค้าได้ทุกอย่าง

ค่อยๆเผยตัวตน
จากที่คิจูผันตัวมาเป็นสาวเมด ความพลิกผันนี้ทำให้แฟนคลับรับไม่ได้ แต่จริงๆถ้าดูในไอจีของเขามันก็มีวี่แววมานานแล้ว เดิมรูปของเขาในช่วงแรกที่อยู่ในวงฯ ก็จะเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง แต่ก็ย่อมมีเปลี่ยนแปลงบ้างในฐานะศิลปิน

จนกระทั้งในปี 2019 การแต่งหน้าของเขาก็เริ่มปรากฎเป็นหนุ่มหน้าหวานขึ้น และออกไปทางยูนิเซ็กซ์มากขึ้น พอปี 2020 ที่โรคระบาดเริ่มขึ้น เขาก็เริ่มไว้ผมยาว เริ่มทำเล็บ ถ้าจะมองว่าเป็นหญิงสาวเท่ห์ๆก็คงได้ เพราะก่อนหน้านี้เขาก็เคยแต่งหน้าแนวนี้อยู่แล้ว ประกอบกับตัวตนของเขาเองก็อยากจะเป็นผู้หญิงด้วยอยู่แล้ว

เป็นสาวเมดดาวเด่น
เพียงไม่นานเขาก็ค่อยๆปรับตัว จนคุ้นเคยกับงานที่ไดมอนด์คลับ และใช้ชื่อว่า "โมโมทานิ ริริ" (Momotani Riri) จนกลายเป็นสาวเมดดาวเด่นของร้าน เพราะร้านแนวนี้จะให้ชายแต่งเป็นหญิง โดยแต่งเป็นสาวเมดหน้าหวาน รูปร่างผอมเพรียวซึ่งคิจูนั้นหน้าตารูปร่างก็เหมาะตามแบบฉบับของ "ชายแต่งเป็นหญิง" อยู่แล้ว

ทำให้รายได้ของเขาก็ไม่เลวเลย โดยทำงานวันละ 10 ชม. รายได้วันละ 8 แสนถึง 1 ล้านเยน (ประมาณ 210,000 - 264,000 บาท) ซึ่งถ้าหลังจากนั้นได้เปถ่ายหนังผู้ใหญ่ด้วย ก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นตัวท็อปของร้าน

เล่นเอวีเรื่องแรก
โดยมากบางคนก็มีงานประจำทำอยู่แล้ว แต่แค่มาเป็นสาวเมดพาร์ทไทม์เท่านั้น ในช่วงสุดสัปดาห์เพื่อหาประสบการณ์และหาเงินใช้ เช่นกันกับคิจูที่อยากมีรายได้มากขึ้น จากสาวเมดก็ก้าวเข้าสู่วงการหนังเอวีเรื่องแรก

และไม่น่าเชื่อมีตลาดสำหรับหนังแนวนี้อยู่จริงๆ ซึ่งในญี่ปุ่นมีบริษัทที่ถ่ายหนังผู้ใหญ่โดยเฉพาะ และถ่ายหนังตัวละครหลักที่ผู้ชายแต่งเป็นหญิง และผลงานของเขาก็โด่งดังมาก เขาจึงตัดสินใจก้าวต่อไปโดยถ่ายหนังเรื่องที่ 2

เปลี่ยนข้อมูลประวัติ
หลังจากนั้นข้อมูลประวัติทางโซเชียลฯ ของเขาจากมือซามิเซ็งของวงดนตรี ก็ปรับเปลี่ยนเป็นแนวไลฟ์สไตล์สดใสแบบสาวน้อยน่ารักแทน และเปลี่ยนชื่อเป็น "โมโมทานิ ริริ ซีดี" ซึ่งคำว่า ซีดีในที่นี้หมายถึงผู้ชายที่แต่งตัวเป็นผู้หญิง แล้วแฟนคลับจำนวนมาก ก็รับไม่ได้จนหลายคนก็เลิกติดตามเขา แต่ในขณะเดียวกันก็มีแฟนคลับกลุ่มใหม่ก็เริ่มมาติดตามเขาเพิ่มขึ้นเช่นกัน

การเป็นตัวเองที่แท้จริง
คุณอาจจะสงสัยซิว่าเส้นทางดนตรีมันยากหรอ ? หรือว่าเงินมันหายากกันแน่ ? จึงทำให้เขาต้องผันตัวเองจากหนุ่มบอยแบนด์มาเป็นผู้หญิง และผันตัวเองเข้าสู่วงการหนังเอวีผู้ใหญ่ แต่ถึงคุณจะสงสัยไปก็เท่านั้น เพราะเขาไม่เคยตอบคอมเมนต์เหล่านี้

เรารู้แค่ว่าตอนนี้จากหนุ่มชื่อ "คิตะมุระ คิจู" ได้กลายมาเป็นสาวชื่อ "โมโมทานิ ริริ" อย่างเต็มตัวไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้ลืมงานด้านดนตรีของเขาไปซะทีเดียว แต่ยังคงเล่นซามิเซ็งและโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ต เพลงที่เขาแต่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน

ส่วนวงซากุระเมนก็ได้ตัดขาดกับเขาอย่างสิ้นเชิง และภาพปกของวงฯก็เปลี่ยนจาก 10 คนเหลือเพียง 9 คน และนี่ก็คือเรื่องราวของเขา คิจูจากหนุ่มวงดนตรีบอยแบนด์ดังในอดีต จนพลิกผันไปเป็นผู้หญิงในวงการหนังเอวีแทนนั่นเอง