หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรือดำน้ำที่เคยประจำการในกองทัพไทย

เนื้อหาโดย origin



เรือดำน้ำ
ถือเป็นยุทโธปกรณ์สำคัญอีกชนิดหนึ่ง

ที่กองทัพต่างๆทั่วโลกยอมลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่ เพื่อให้ได้มาไว้ในประจำการ
โดยในปัจจุบันเรือดำน้ำถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง เราสร้างเรือดำน้ำขนาดที่เล็กสามารถดำน้ำในระดับที่ลึกมาก
เพื่อทำงานเฉพาะกิจบางอย่าง เช่น การสำรวจซากเรือโบราณ, การวางสายเคเบิลใต้น้ำ, การหาร่องรอยของแผ่นดินไหว
และการศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ซึ่งทำให้มนุษย์เราสามารถจะเข้าถึงโลกใต้ทะเลที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ในประเทศไทยเองก็เคยมีเรือดำน้ำประจำการในกองทัพเรือมาแล้ว ก่อนจะทยอยปลดประจำการจนหมด
วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า เรือดำน้ำในอดีตที่เราเคยมีจะหน้าตาเป็นยังไง หรือชื่ออะไรบ้าง



เรือหลวงสินสมุทร (HTMS Sinsamut)
เป็นเรือดำน้ำประเภทเรือดำน้ำรักษาฝั่งขนาดเล็ก (ระวางขับน้ำต่ำกว่า 500 ตัน)
ประกอบขึ้นที่อู่ต่อเรือบริษัทมิตซูบิชิ โกเบ ประเทศญี่ปุ่น มีความยาว 51 เมตร กว้าง 4.1 เมตร
มีระวางขับน้ำขณะดำ 430 ตัน เข้าประจำการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2481 และปลดประจำการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2494


เรือหลวงมัจฉาณุ (HTMS Matchanu)

เป็นเรือดำน้ำประเภทเรือดำน้ำรักษาฝั่งขนาดเล็ก มีความยาว 51 เมตร กว้าง 4.1 เมตร
จุลูกเรือได้ทั้งหมด 33 นาย เรือลำนี้เข้าประจำการและปลดระวางพร้อมกันกับเรือหลวงสินสมุทร




เรือหลวงพลายชุมพล (HTMS Phlai-chumphon)
เป็นประเภทเรือดำน้ำรักษาฝั่งขนาดเล็ก (ระวางขับน้ำต่ำกว่า 500 ตัน) ประกอบขึ้นที่อู่ต่อเรือบริษัทมิตซูบิชิ 
เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกันจำนวน 4 ลำ พร้อมกับ เรือหลวงมัจฉานุ เรือหลวงวิรุณ และเรือหลวงสินสมุทร 
โดยเรือหลวงพลายชุมพล ประกอบขึ้นพร้อมกับเรือหลวงสินสมุทร แต่มีรูปแบบแตกต่างกัน



เรือหลวงวิรุณ (HTMS Wirun)
เรือหลวงวิรุณ ประกอบขึ้นพร้อมกับเรือหลวงมัจฉาณุ แล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2480
ทางบริษัทมิตซูบิชิได้จัดพิธีส่งมอบให้เป็นกรรมสิทธิของกองทัพเรือไทย และนำลูกเรือเข้าประจำเรือ
กองทัพเรือไทยจึงถือว่าวันที่ 4 กันยายน เป็น วันที่ระลึกเรือดำน้ำ


เรือดำน้ำของไทยทั้งสี่ลำ เดินทางออกจากเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2481 ถึงกรุงเทพเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2481
เข้าประจำการเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2481
ได้ออกปฏิบัติการในสงครามอินโดจีนกับฝรั่งเศส และสงครามโลกครั้งที่สอง

เนื้อหาโดย: นำทาง
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
origin's profile


โพสท์โดย: origin
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ศพ"ฟื้นคืนชีพ วินาทีสุดท้ายก่อนเผา รีบหามกลับไอซียู แพทย์ถูกลงโทษ 3 นายห้างดังย่านลาดพร้าวส้วมแตก..ขี้ทะลักจากฝ้าเกลื่อนพื้น ทำเอาอ้วกแทบพุ่ง!"หญิงแปรพักตร์คนดัง" เผยเรื่องราวเบื้องหลังการเลือกสาวบำเรอของ "คิมจองอึน"ผู้นำเกาหลีเหนือ"ไวรัลชุดเชียร์ลีดเดอร์คณะพายุ: ชุดหรือศิลปะ?"พายุเบิร์ตถล่มสหราชอาณาจักร ฝนตกหนัก-หิมะละลาย ส่งผลน้ำท่วมครั้งใหญ่สื่อเกาหลีตีข่าว คนเกาหลีในเรือนจำไทย ไลฟ์สดจากเรือนจำได้ชิวๆ อ้างว่าจ่ายเงินให้ผู้คุมเลยทำได้😮 ชวนเข้ามาดูภาพถ่ายที่ชวนอึ้งตะลึงจนแทบไม่น่าเชื่อ 😲ระทึก! ลูกชายวิ่งขอความช่วยเหลือทั้งที่เจ็บหนัก หลังอุบัติเหตุชนกองข้าวตากบนถนน บุรีรัมย์หญิงสาวสวมเพียงชุดชั้นอยู่กับสามีในห้องพักโรงแรม จู่ๆ พนง.ทำความสะอาดชายเปิดประตูเข้ามาต้นการบูรที่ใหญ่ที่สุดในโลก: ตำนานธรรมชาติแห่งศาลเจ้า Kamou Hachimanมิติใหม่ของเสื้อผ้าแบรนด์ดัง..จ้างนางแบบมาเดินบนลู่วิ่ง ให้ดูกันไปเลย!ทำไมสนมเมื่อออกจากวังหลวงจึงมีบุตรยาก? ฮ่องเต้ปูยีเปิดเผยความลับนี้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
hateful: น่าเกลียดชัง น่ารังเกียจขนมจีนน้ำเงี้ยวหญิงสาวสวมเพียงชุดชั้นอยู่กับสามีในห้องพักโรงแรม จู่ๆ พนง.ทำความสะอาดชายเปิดประตูเข้ามาห้างดังย่านลาดพร้าวส้วมแตก..ขี้ทะลักจากฝ้าเกลื่อนพื้น ทำเอาอ้วกแทบพุ่ง!ระทึก! ลูกชายวิ่งขอความช่วยเหลือทั้งที่เจ็บหนัก หลังอุบัติเหตุชนกองข้าวตากบนถนน บุรีรัมย์
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
hateful: น่าเกลียดชัง น่ารังเกียจต้นการบูรที่ใหญ่ที่สุดในโลก: ตำนานธรรมชาติแห่งศาลเจ้า Kamou Hachimanปั่นจักรยานด้วยความสนุกแต่กลับได้สุขภาพ10 พฤติกรรมเล็กๆ ที่ทำให้คุณเสียเงินโดยไม่รู้ตัว (และวิธีแก้ไขง่ายๆ)
ตั้งกระทู้ใหม่