หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ใครได้ ใครเสีย!! เมื่อ 'ภาวะโลกร้อน' เป็นเพียงแค่ การโฆษณาชวนเชื่อ[Exclusive Content]

เนื้อหาโดย ลูกสาวอบต

ภาวะโลกร้อน หรือ Global warming คำนี้ถูกนำมาใช้ช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20  ไปตีความหมายว่า เป็นการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศใกล้พื้นผิวโลกและน้ำในมหาสมุทรตั้งแต่ และมีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งอ้างว่าการที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากภาวะเรือน กระจก หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า Green house effect ซึ่งมีต้นเหตุจากการที่มนุษย์ ได้เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จาก การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ การขนส่ง และ อื่นๆ

แต่ช่วงหลังคำว่า “ภาวะโลกร้อน” เป็นคำจำเพาะคำหนึ่งของอุบัติการณ์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก ที่มองในมุมเดียว เป็นข้ออ้างในการผลประโยขน์ของบางองค์กร ที่ก่อตั้งเพื่อรณรงค์ เรื่อง ภาวะโลกร้อน มากมาย บ้างก็อ้างว่าไม่หาผลกำไร แต่ก็มีบางสิ่งแอบแฝงในเชิงพานิช

อีกทั้งกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่พยายามต่อสู้กับภาวะโลกร้อนด้วยทฤษฎีภาวะเรือนกระจก และได้รับการยอมรับจนอยู่ในสถานะ “พระเอกของโลก” มาตลอด กลับถูกพลิกสถานะให้กลายเป็นพวก “ฉลาดแกมโกง”

 

มีการพบข้อมูลสำคัญภายหลัง จนสร้างความช็อกสะเทือนไปทั้งวงการวิทยาศาสตร์ เมื่อ ข้อเท็จจริง ทางหลักวิทยาศาสตร์ที่ควรเป็น ความจริงกลับถูกบิดเบือนเป็นเพียงแค่ การโฆษณาชวนเชื่อ” (Propaganda) เท่านั้น

ความจริงเบื้องหลังโฆษณา:เมื่อสามปีก่อน ในปี 1959 หัวหน้าน้ำมันของอเมริกาได้รับคำเตือนว่าการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลอาจนำไปสู่ความร้อนของโลก “เพียงเพราะไปเจอการละลายน้ำแข็งและทำให้นิวยอร์กจมอยู่ใต้น้ำ แต่จริงๆ แล้วมันคือการถล่มจากก่อตัวขนาดใหญ่นั่นเอง”

 

นาย ราเชนทร์ ปาชัวร์ ผู้อำนวยการของไอพีซีซี ได้โต้กลับฝ่ายที่เอาเรื่องลับในอีเมลมาเปิดเผยว่า เป็นการสมคบคิดกันของฝ่ายที่ตรงข้ามที่ใช้แฮกเกอร์รัสเซียเข้ามาเจาะข้อมูล และเลือกเฉพาะข้อมูลบางอย่างไปเปิดเผยให้เกิดความเข้าใจผิด เพื่อปั่นป่วนการประชุมโลกร้อน ทว่า โมฮัมเหม็ด ฮับ ซับบาส ผู้แทนของซาอุดีอาระเบีย กลับมองว่าเรื่องนี้คือการ “สั่นสะเทือนความน่าเชื่อ” ของวงการนักวิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่ และสมควรต้องถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบให้เป็นเรื่องเป็นราว

นาย ราเชนทร์ ปาชัวร์ ประธานคณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC)

เรื่องนี้ใครได้ใครเสีย คงต้องบอกว่าปัญหาโลกร้อนเป็นประเด็นใหญ่ที่ซับซ้อน เกินกว่าจะมองเป็นเรื่องการโกหกของนักวิทยาศาสตร์  อย่างเดียว หรือเป็นเรื่องที่ถูกปั่นขึ้นเพื่อประโยชน์ของคนฝ่ายเดียว

 

แต่จะบอกว่างงานนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดโปงครั้งใหญ่นี้ ทางกลุ่มประเทศในยุโรป ที่มีความพร้อมมากกว่าใครคือฝ่ายที่ได้รับประโยชน์ไปมากที่สุดจากการผลักดัน “เทคโนโลยีสีเขียว” รวมถึงแนวทางการค้าขายคาร์บอนเครดิต มีการกำหนดนโยบายนี้ ไปทั่วโลก จะเกิดอะไรขึ้น

ตัวอย่างให้เห็นชัดๆ คือ กรณีที่การบินไทยต้องจ่ายเงินให้กับสหภาพยุโรป ( EU) จากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ที่สร้างประเด็นว่าเป็นสาเหตุทำให้โลกร้อน ซึ่งการบินไทยจะต้องจ่ายเงินให้ EU ถึงปีละ 850 ล้านบาท  (และลามไปถึงสายการบินอื่นๆ)

รวมไปถึงที่สินค้าต่างๆ ที่วางขายในโซนตะวันตก ก็จะต้องสกรีนว่ามีส่วนนำไปสู่ปัญหาโลกร้อนหรือไม่ และเมื่อเร็วๆ นี้ ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ของสหรัฐ ก็เพิ่งประกาศกฎหมายเรียกเก็บภาษีในทำนองนี้ออกมาเช่นเดียวกันแล้ว

 

อรกทั้งมีนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มถึงขั้นออกมากล่าวโทษว่า การทำนาและการทำปศุสัตว์ในประเทศกำลังพัฒนา ว่าเป็นตัวก่อก๊าซมีเทนสู่ชั้นบรรยากาศโลกเอาดื้อๆ 

 

โทษเราอีกแล้ว ตัวการสร้างก๊าซมีเทนจากของเสียจากฟาร์ม

 

หากมองในมุมของนักอนุรักษ์สุดโต่ง นี่คือมาตรการเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนอย่างหนึ่งแน่นอน น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก  แต่ๆๆๆหากมองในแง่ประเทศกำลังพัฒนาและด้อยพัฒนาทั่วโลกแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ “การกีดกันทางการค้า”  เห็นภาพชัดมั้ยละ

 

มาตรการที่พยายามจะลดความได้เปรียบของสินค้านำเข้าจากประเทศที่กำลังพัฒนาที่มีข้อบังคับเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศของตน 

โดยที่ มาตรการนี้ อาจจะอยู่ในรูปแบบการเก็บภาษีนำเข้า หรือการบังคับใช้มาตรฐานการผลิตบางประการแก่ประเทศคู่ค้าได้ เช่น กำหนดให้ประเทศผู้ส่งออกต้องซื้อคาร์บอนเครดิต เพื่อชดเชยความต้องการการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในขบวนการผลิต ซึ่งตนเองปล่อยในอัตรามากกว่าประเทศที่นำเข้า

 

ก็ดูเหมือนว่าผลประโยชน์ดังกล่าวจะถูกเอนเอียงไปทางสหรัฐฯ ประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดของโลก และในฐานะประเทศที่ยังยึกยักกับสนธิสัญญาลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วโลกมาแล้ว

 

ซึ่งก็มีบางกลุ่มอ้างว่าโลกร้อนนั้นเกิดจากวัฏจักรการเปลี่ยนแปลงของสภาพโลกตามธรรมชาตินั่นเอง แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การบริโภคในยุคบริโภคนิยม นำไปสู่การผลิต การบริโภค และเพิ่มขยะ ออกมาอย่างมหาศาล กระบวนการผลิตจนถึงการย่อยสลาย ล้วนต้องใช้พลังงานและก่อให้เกิดก๊าซของเสีย รวมถึงความร้อนออกมาสู่โลก ก็ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

 

ปัจจุบัน คำว่า ภาวะโลกร้อน หรือ Global warming   โดยมองไปเป็น "การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ" มีความหมายถึงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในทุกช่วงเวลาของโลก

นั่นก็รวมทั้งเหตุการณ์ปรากฏการณ์โลกเย็นด้วย โดยทั่วไป คำว่า "ภาวะโลกร้อน" จะใช้ในการอ้างถึงสภาวะที่อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา

และมีความเกี่ยวข้องกระทบต่อมนุษย์ ในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC)

ใช้คำว่า “การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ” (Climate Change) สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆของมนุษย์

และใช้คำว่า "การผันแปรของภูมิอากาศ" (Climate Variability) สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเหตุอื่น

ส่วนคำว่า “ภาวะโลกร้อนจากกิจกรรมมนุษย์” (anthropogenic global warming) มีที่ใช้ในบางคราวเพื่อเน้นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเหตุอันเนื่องมาจากมนุษย์

 

[Exclusive Content]

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
VOTED: somlove, อ้ายเติ่ง, พี่เกดไม่เข้าใจอ่ะ, ลูกสาวอบต
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นายถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติดช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกทายตัวตนของคุณ จากดอกไม้ที่คุณชอบคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติกองทัพภาค.2 ยึดเงินสด 11 ล้าน ทอง 3 ล้าน แอบซ่อนโกดัง ช่องสะงำทหารกัมพูชา ใช้สไนเปอร์ หวังลอบยิง ผบ.ทหารเรือเขมรมาแปลก! อ้าง "ทหารไทย" ใช้หมาบ้ามาโจมตีทหาร หวั่นมีเชื้อพิษสุนัขบ้า
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หมกปลาซิวแก้ว วิธีปรุงอาหารแบบชาวภูไททหารกัมพูชา ใช้สไนเปอร์ หวังลอบยิง ผบ.ทหารเรือแมงมุมกระโดดเลียนแบบมด ที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นมดเขมรมาแปลก! อ้าง "ทหารไทย" ใช้หมาบ้ามาโจมตีทหาร หวั่นมีเชื้อพิษสุนัขบ้า11 เคล็ดลับการดูแลสุขภาพพื้นฐานตามศาสตร์แพทย์แผนจีนเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
แมงมุมกระโดดเลียนแบบมด ที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นมดเด็กสาวคอโค้ง 90 องศา จากปากีสถาน สู่รอยยิ้มครั้งใหม่หลังการผ่าตัดในอินเดียภาพวาดดินสอดำของเด็กอนุบาล เสียงตะโกนเงียบ ๆ ที่ผู้ใหญ่ต้องฟังให้ได้เพื่อนชิ่งบิล 1,262 หยวน ทิ้งให้ “นายจาง” จ่ายคนเดียว เรื่องจริงที่สอนว่า กินข้าวต้องมีสติ ไม่ใช่แค่สั่งเมนู
ตั้งกระทู้ใหม่