"พระสนมเปาซื่อ" รอยยิ้มล่มเมือง สิ้นสุดราชวงศ์โจวตะวันตก
เป็นเรื่องราวของพระสนมนางหนึ่งที่ยิ้มยาก จึงเป็นสิ่งที่พระเจ้าโจวโยวหวัง (周幽王) ในแผ่นดินสมัยราชวงศ์โจวตะวันตกปกครองดินแดนโจวราว 781–771 ก่อนคริสตกาล อยากจะเห็นรอยยิ้มนางยิ่งนัก และรอยยิ้มนี่เองที่ทำให้ต้องสิ้นแผ่นดินโจวตะวันตก
1. นางคือใคร ? มาจากไหน ?
นางมีชื่อว่า "เปาซื่อ" (褒姒) นางมาจากไหนกันนะ นางมาจากกลอุบายของขุนนางใหญ่คนหนึ่งที่มีชื่อว่า "เปาเซี่ยง" ที่ได้เตือนราชสำนักด้วยคำรุนแรงว่า..ราชวงศ์โจวจะไม่อยู่ จึงส่งผลให้เขาถูกจับขังคุก
ทำให้ทางครอบครัวเปาเซี่ยงได้ประชุมหาวิธีช่วยออกมาจากคุก โดยการไปหาซื้อสาวงามจากชนบทมานางหนึ่ง และตั้งชื่อว่าเปาซื่อ และนำไปถวายต่อพระเจ้าโจวโยวหวัง เมื่อทรงเห็นว่านางเปาซื่อนั้นสวยกว่าทุกนางในวัง จึงเกิดความพอใจจึงได้ปล่อยเปาเซี่ยงออกจากคุก
2. จากนางพระสนมได้เป็นมเหสี
นางเป็นหญิงที่สวยแต่เสียอยู่อย่างเดียวเป็นคน "เย็นชายิ้มยาก" ประจวบเหมาะกับที่พระเจ้าโจวโยวฯ เบื่อพวกนางสนมที่มักเสแสร้งมาทำประจบเอาใจอยู่แล้ว เลยหันมาสนพระทัยนางเปาซื่อเนื่องจาก “โฉมสะคราญประดุจน้ำแข็ง” นางนี้เป็นพิเศษ นางได้ให้กำเนิดพระโอรสนามว่า "ป๋อฝู" แก่พระเจ้าโจวโยวฯ จีงมีความสุขยิ่งนัก
3. ปลดพระมเหสีเอก
พระเจ้าโจวโยวฯ หลงรักนางเปาซื่อมาก หลังจากได้พระโอรสจากนาง พระองค์ก็ตั้งป๋อฝูเป็นเจ้าชายรัชทายาท แต่กฎของราชวงศ์โจวนั้น รัชทายาทจะต้องเป็นพระโอรสองค์โต ที่เกิดจากพระมเหสีเท่านั้น จึงได้สั่งปลด "พระมเหสีเซินโฮ่ว" เดิม และไม่พอก็ยังปลด "เจ้าชายอี๋จิ้ว" พระโอรสองค์โต ออกจากตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาทด้วย และตั้งตำแหน่งใหม่ให้แก่นางเปาซื่อและลูกชายขึ้นแทนที่
4. เย็นชายิ้มยาก
สิ่งที่พระเจ้าโจวโยวฯกระทำให้ในครั้งนี้ ก็คิดว่าจะทำให้นางเปาซื่อ (มเหสีองค์ใหม่) ดีใจกับการอวยยศครั้งนี้ แล้วจะยิ้มออกมาให้พระองค์เห็นสักนิด แต่เปล่าเลยนางเปาซื่อก็ยังเป็นหญิงเย็นชายิ้มยากอยู่ดี แม้พระเจ้าโจวโยวฯจะใช้อุบายอะไรก็ไม่สำเร็จ
จึงทำให้พระเจ้าโจวโยวฯกลุ้มใจ ยิ่งพอเหล่านางกำนัลมากราบทูลว่า "แม้พระนางจะไม่ยิ้มแย้มต่อหน้าผู้อื่นแต่เมื่อยามใดที่พระนางแย้มยิ้ม ราวกับจักประมวลเอารอยยิ้มกว่าร้อยแบบมารวมกัน" เมื่อได้ฟังนางกำนัลพูดเช่นนี้ ก็ทรงอยากเห็นรอยยิ้มของนางเปาซื่อยิ่งนัก
5. คิดกลอุบายให้ยิ้ม
ดังนั้นพระเจ้าโจวโยวฯ จึงประกาศว่า..หากใครสามารถทำให้นางยิ้มได้ จะมีรางวัลเป็นพันตำลึงทอง แต่ก็ไม่เคยมีใครทำสำเร็จ จนกระทั้งมีขุนนางสอพลอขี้ประจบชื่อ "กว๋อสือฟู่" ได้เสนอวิธีให้แก่พระเจ้าโจวโยวฯ หวังเรียกรอยยิ้มจากนางเปาซื่อ โดยวิธีคือ “จุดไฟล้อเจ้าเมืองเล่น”
6. จุดไฟสัญญาณหลอกเจ้าเมือง
เนื่องจากในสมัยโจวตะวันตก บริเวณเขาหลีซานใกล้กับเมืองฮ่าวจิง มีหอสูงสร้างอยู่เป็นจำนวนมากเรียกว่า "หอจุดไฟสัญญาณ" บอหอจะมีไม้และขี้หมาป่ากองอยู่เพื่อเป็นเชื้อเพลิง มีทหารรักษาการณ์ตลอดเวลา ถ้าหากมีข้าศึกมาโจมตีเมือง ทหารที่เฝ้าบนหอคอยก็จะจุดไฟขึ้นเป็นสัญญาณ
ในหนังสือโบราณจึงมีบันทึกว่า “ควันหมาป่าลุกโชนทั้ง 4 ทิศ” คือไฟสัญญาณประกาศว่ามีข้าศึกบุกโจมตี และเป็นคำสั่งไปถึงกองกำลังทหารในเมือต่างๆ ให้เดินทางมาเมืองหลวงเพื่อปกป้องกษัตริย์
7. แผนสำเร็จ..ยิ้มสักที
พระเจ้าโจวโยวฯ พานางเปาสือขึ้นไปพักผ่อนหาความสุขสำราญ บนพลับพลาเขาหลีซาน และกว๋อสือฟู่ก็ได้สั่งให้ทหารบนหอคอยจุดไฟสัญญาณขึ้น จึงทำให้เจ้าแคว้นต่างๆพอเห็น "ควันหมาป่า" ก็รีบเดินทางข้ามวันข้ามคืนมาเข้าเมืองหลวงทันที
เมื่อนางเปาซื่อเห็นมีกองกำลังนับหมื่นนับพันที่รู้ว่าถูกหลอกเดินทางมา นางเปาซื่อจึงเผยรอยยิ้มออกมา ทำให้พระเจ้าโจวโยวฯ ดีใจยิ่งนัก และได้มอบรางวัลพันตำลึงทองให้แก่ขุนนางกว๋อสือฟู่
8. แผ่นดินโจวล่มสลาย
แต่สิ่งที่กระทำมันกลับทำให้เจ้าแคว้นต่างๆ และกองกำลังทหารที่ถูกหลอกให้ยกมาเพื่อแลกกับ "รอยยิ้ม" ของแม่นางเปาซื่อนั้น กลับยิ่งทำให้โกรธแค้นอยู่ในใจเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นเจ้าชายอี๋จิ้วที่ถูกปลดและหนีไปอยู่กับ "เซินโหว" (ผู้เป็นตา) รัชทายาทองค์โต
ก็ร่วมมือกับ "ชนเผ่าเฉวี่ยนหยง" ยกทัพมาตีเมืองหลวงราชวงศ์โจว เมื่อมีศัตรูบุกมาก็เลยสั่งให้จุดไฟสัญญาณบอกเหตุ แต่ทว่าเจ้าแคว้นต่างๆที่เคยถูกหลอกก็ต่างนิ่งเฉย ไม่สนใจและไม่มีใครยกทัพมาช่วยเลยสักแคว้นเดียว
ศึกครั้งนี้จึงทำให้พระเจ้าโจวโยวฯ ถูกฆ่า ส่วนนางเปาซื่อถูกจับเป็นเชลย ชนเผ่าเฉวี่ยนหยงจึงได้ยึดเมือง แต่พอ 7 ปีต่อมาเจ้านครต่างๆก็รวมตัวกันเข้ามาขับไล่ชนเผ่าซีหยงออกไป และได้แต่งตั้งเจ้าชายอี๋จิ้ว ขึ้นเป็นฮ่องเต้แทน โดยพระนามว่า "โจวผิงหวาง" และได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่นครลั่วหยาง จึงสิ้นสุดราชวงศ์โจวตะวันตก และเริ่มต้นราชวงศ์โจวตะวันออก
และนี่แหละคือที่มาของ "รอยยิ้มล่มเมือง" เพียงเพื่อรอยยิ้มแค่ครั้งเดียวของนาง จึงทำให้บ้านเมืองพินาศสิ้นสุดราชวงศ์โจวตะวันตกนั่นเอง
ขอบคุณภาพต่างๆจาก : google