5 วิธีสมดุลอย่างไร ไม่ให้เป็นหนี้กตัญญู
ด้วยวัฒนธรรมของประเทศไทยเราค่อนข้างจะให้ค่ากับความกตัญญูและการตอบแทนบุญคุณ โดยเฉพาะบุพการีผู้ให้กำเนิด หนึ่งในวิธีการแสดงความกตัญญูคือการเลี้ยงดูพ่อแม่ด้วยเงินทองเมื่อท่านแก่เฒ่า หลายครอบครัวก็ไม่ได้มีปัญหาหรือเดือดร้อนอะไรสามารถจัดการได้ แต่ก็มีอีกหลายครอบครัวที่ต้องทะเลาะเบาะแว้งโดยมีสาเหตุจากการเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวทั้งครัวเรือนเพราะหนี้ที่เกิดจากความกตัญญู วันนี้เราจะชวนเหล่าลูก ๆ ทั้งหลายมาสร้างขอบเขตที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเกิดหนี้สินที่สร้างเพราะพ่อแม่กันค่ะ
1. ต้องรู้ว่าท่านจะนำเงินไปใช้จ่ายกับอะไร
นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่เราได้ให้ไปในแต่ละเดือนแล้ว หากท่านเอ่ยปากขอเงินก้อนใหญ่ ๆ เพิ่มเติม เราต้องรู้ว่าท่านจะเอาไปใช้อะไร สมมุติเอาไปให้น้อง น้องเอาไปทำอะไร จ่ายค่าเทอม ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ถ้าตัวเราเองก็เดือดร้อนก็พิจารณาให้ตามความเหมาะสม ถ้าไม่ไหวและเหตุผลไม่จำเป็นก็ไม่ต้องให้ และไม่ต้องรู้สึกผิด บางครอบครัวมีปัญหาว่าพ่อแม่ติดหวย ติดการพนันจนมีหนี้สิน แบบนี้ให้ไปเท่าไหร่ก็ไม่มีที่สิ้นสุด
2. การใช้หนี้ช่วยพ่อแม่ ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน
หนี้นั้นเกิดจากอะไร ทำธุรกิจแล้วล้มละลาย กู้มาให้เราเรียนหนังสือ หรือเป็นหนี้เกิดจากความไม่มีวินัยทางการเงินของท่าน ไปค้ำประกันให้อื่นจนตัวเองเป็นหนี้ เป็นต้น ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ความช่วยเหลือเลย แต่การให้ความช่วยเหลือต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง อย่าทำให้ตัวเองกลายเป็นหนี้แล้วหนี้พ่อแม่ก็ปิดไม่ได้ อิรุงตุงนังไปอีก หากจำเป็นและหนี้สินนั้นเกินตัวเราจริง ๆ ก็ต้องให้ท่านเป็นบุคคลล้มละลาย ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของศาล
3. บอกให้ท่านรู้ถึงสถานการณ์การเงินที่แท้จริงของเรา
หากเราเดือดร้อน หรือชักหน้าไม่ถึงหลังก็ต้องบอกท่านไปตามตรง อย่าฝืนว่าตัวเองยังมีเงินและส่งให้ครอบครัวเท่าเดิม ทั้งที่ตัวเองก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา เพราะบางทีครอบครัวอาจจะไม่ได้ตำหนิเราหรือโทษเราเลยก็ได้ แต่เรารู้สึกผิดไปเองที่ไม่สามารถส่งเงินให้ได้เท่าเมื่อก่อน เดือนไหนมีก็ส่ง เดือนไหนไม่ไหวก็แค่บอกเท่านั้นเอง
4. กู้เงินเพื่อตอบสนองความฝันของท่าน
อยากได้บ้านสวย ๆ อยากมีรถใหม่เหมือนใครเขา อยากใส่ทองเส้นใหญ่ ๆ ไปอวดเพื่อนบ้าน ไม่ผิดที่ท่านจะมีความฝัน แต่เราต้องพิจารณาด้วยว่าสิ่งเหล่านั้นที่ท่านอยากได้ มันจำเป็นจะต้องสร้างหนี้สร้างสินเพื่อไปมีมันหรือไม่
5. พึงจำไว้ว่า หากเราช่วยพ่อแม่จนตัวเองไม่รอด คนที่เดือนร้อนไม่ได้มีแค่เรา
จงจำไว้ว่า หากเราใช้ชีวิตเราทั้งชีวิตเพื่อชดใช้หนี้สิน หาเงินให้พ่อแม่ใช้จ่ายอย่างเดียวจนลืมนึกถึงตัวเอง คนเดือดร้อนไม่ได้มีแค่เรา แต่คือครอบครัวของเราเอง ลูกของเราในอนาคตก็จะมีสภาพเหมือนเราในวันนี้ สิ่งที่เราทุ่มเทสานฝันให้พ่อแม่ แล้วฝันของเราล่ะ อย่างเผลอลืมมันไปนะ
แม้เราจะรักพ่อแม่ขนาดไหน แต่ก็อย่าลืมคำนึงถึงตัวเองด้วย ชีวิตของเรายังอีกยาวไกล ช่วยเหลือท่านได้ตามความเหมาะสม แต่อย่าตอบสนองความฝันของท่านจนลืมนึกถึงตัวเองล่ะ