หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ฉันจะใช้ชีวิตอย่างไรเมื่อรู้ว่าเป็นไตวายระยะสุดท้ายตอนอายุ20

เนื้อหาโดย luckyforme

สวัสดีค่ะ อันดับแรกต้องบอกไว้ก่อนนะคะว่า บทความข้างล่างนี้

ฉันเขียนขึ้นประมาณ 10 ปีที่แล้ว เมื่อตอนที่ฉันป่วยเป็นไตวายระยะสุดท้าย

และกำลังรักษาตัวอยู่  และปัจจุบันฉันได้รับการปลูกถ่ายไตใหม่มา 2 ปี 9 เดือนแล้วค่ะ

(ได้ไตจากผู้บริจาคผ่านสภากาชาดไทย) อยากลงไว้เพื่อส่งต่อกำลังใจให้กับทุกคน

ที่กำลังเผชิญกับความทุกข์ใจ ไม่ว่าในเรื่องใดก็ตามนะคะ ขอให้ผ่านทุกปัญหาไปได้ ด้วยกำลังใจค่ะ 

 

อยู่กับโรคไตด้วย พลังและกำลังใจ

 

การเจ็บป่วย เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่พึงปรารถนาและไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ แต่ถ้าหากมันเกิดขึ้นแล้ว

เราก็ต้องรักษาหรือดูแลตัวเองให้หายดี เพื่อที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ให้นานที่สุดและมีความสุขที่สุด

 

เมื่อตอนที่ฉันอายุ 20 ปีซึ่งกำลังเรียนพยาบาลอยู่ชั้นปีที่ 1เทอม 2 ก็เกิดอาการหน้าบวม แขน และขาบวม

จึงไปตรวจที่โรงพยาบาล ผลปรากฏว่าฉันป่วยเป็น ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตของฉัน

จากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันรู้สึกเสียใจและท้อแท้เป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าช่วงที่รู้ว่าป่วยเป็นโรคนี้ จะได้รับกำลังใจจากหลายๆคนไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์

และพี่ๆเพื่อนๆสถาบันเดียวกันก็ตาม แต่ฉันก็รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น รู้สึกว่ามันรวดเร็วเกินไปที่จะรับได้ไหว

 

ช่วงเวลาที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลฉันมีความทุกข์และทรมานมากทั้งร่างกายและจิตใจ

ทุกข์กายเพราะด้วยการรักษา ฉันต้องโดนเจาะเลือด เจาะคอ ฉีดยา  เจาะไตและสารพัดวิธีการรักษา

มันทำให้ร่างกายของฉันได้รับความเจ็บปวดและทรมานมาก

 

ส่วนภาวะด้านจิตใจของฉันก็ไม่ต่างกัน ฉันต้องใช้เวลานานมากที่จะต้องทำใจยอมรับเรื่องนี้ให้ได้ 

เพราะนอกจากจะต้องทำใจยอมรับโรคร้ายที่เกิดขึ้นแล้ว

ยังต้องทำใจในเรื่องเรียนและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลอีกด้วย

 

ฉันต้องทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลายทั้งปวงอย่างเจ็บปวดและหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อรู้ว่าโรคที่ฉันเป็นรักษาไม่หายขาดเพราะหมอบอกว่าอยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว

นั่นทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าชีวิตของฉันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย

 

แต่ฉันก็คิดว่าจะไม่ท้อ  เพราะปัญหามีไว้แก้ไข 

 ถ้าเราวิ่งหนีปัญหาในวันนี้วันต่อๆไปเราก็จะไม่กล้าเผชิญหน้ากับมัน

ถ้าหวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงต่างๆชีวิตก็ไม่มีโอกาสพบเจอสิ่งแปลกใหม่

เราต้องกล้าหาญที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

เมื่อใดที่เราสามารถยอมรับและเข้าใจในความอ่อนแอของเราได้

เมื่อนั้นเราจะเข้มแข็งและไม่มีวันอ่อนแอไปกว่านั้นได้อีก

 

การทำใจจะไม่ยากเลย ถ้าเรียนรู้ที่จะยอมรับและเข้าใจ 

ฉันพยายามควบคุมสติและความเสียใจไว้แล้วหาวิธีแก้ไขปัญหาของฉันด้วยการสอบถามวิธีการรักษาโรคไตจากหมอ

ซึ่งหมอได้บอกว่ามีวิธีรักษาอยู่ 3 วิธี คือ

1.ฟอกเลือด 2.ล้างไตทางหน้าท้อง และ 3.การปลูกถ่ายไต

 

ซึ่งการปลูกถ่ายไตนั้นจะต้องรอให้มีผู้บริจาคเพราะฉันมีหมู่เลือดที่ไม่ตรงกับคนในครอบครัวเลย

ดังนั้นจึงเลือก การล้างไตทางหน้าท้องในการรักษาตัว เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วย

เพราะการฟอกเลือดค่าใช้จ่ายจะสูงมาก

 

การล้างไตทางหน้าท้องหรือที่เรียกว่าการทำ CAPD จะเน้นความสะอาดและตรงต่อเวลา

เนื่องจากต้องล้างไตวันละ 4 ครั้งต่อวัน โดยการใส่น้ำยาเข้าไปในช่องท้องครั้งละ 2 ลิตร

ซึ่งการมีน้ำเข้าไปอยู่ในช่องท้อง ทำให้รู้สึกแน่นช่องท้อง รับประทานอาหารได้น้อยลง

ดังนั้นจึงควรแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กโดยแบ่งเป็นวันละ 5-6 มื้อ แทนการรับประทานอาหารมื้อใหญ่วันละ 2-3 ครั้ง

จะช่วยให้ไม่รู้สึกแน่นท้องหลังรับประทานอาหารได้

ในน้ำยา CAPD จะมีกลูโคสซึ่งจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกหิวเบื่ออาหาร

 

ผู้ป่วยบางคนยังขาดธาตุสังกะสี ทำให้ความรู้สึกในรับรสเปลี่ยนแปลง

รับประทานอาหารไม่อร่อย ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง

 

การทำ CAPD อาจจะเป็นเรื่องน่าเบื่อแต่ถ้ามองในแง่ดี ก็ถือว่าเป็นการฝึกวินัยให้กับตนเอง 

ทำให้ฉันมีความรับผิดชอบ มีสติ  ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท อาจมีบ้างบางครั้งที่รู้สึกท้อแท้แต่ชีวิตคนเราก็มีทั้งทุกข์และสุข

คงไม่เคยมีใครที่ดำเนินชีวิตแล้วไม่พานพบกับอุปสรรค ปกติคนเรามักมองปัญหาเป็นเรื่องใหญ่กว่าตัวและเป็นวิกฤตเสมอ

แต่ถ้าค่อยๆมองปัญหาแล้วหาทางแก้ไขหรือบรรเทา บางทีเราก็อาจจะพบว่ามันไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด

 

ฉันจึงพยายามทำให้ตัวเองมีความสุขอยู่เสมอ โดยไม่มัวมองว่าเราป่วยเป็นโรคร้าย

แต่จะมองว่าตัวเองเหมือนคนปกติที่ไม่ได้มีโรคประจำตัว

เพียงแต่เราต้องดูแลสุขภาพให้มากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง

 

การที่เราจะใช้ชีวิตให้อยู่กับโรคที่เราเป็นได้อย่างมีความสุขและไม่ท้อแท้นั้น

ต้องประกอบไปด้วยการมองโลกในแง่ดี มีกำลังใจที่ดี และการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี

ผู้ป่วยโรคไตวายอย่างฉัน  ในแต่ละวันจะต้องทานยาหลายอย่าง

ซึ่งส่วนมากจะเป็นยาเกี่ยวกับความดัน เพราะความดันโลหิตของฉันจะสูงมาก

ซึ่งการทานยานี้จะไม่ได้ผลมากนักถ้าหากฉันไม่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และงดอาหารรสจัด

 

ในเวลาว่างก็จะผ่อนคลายจิตใจด้วยการทำในสิ่งที่ชอบไม่ว่าจะ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ

ช่วยงานบ้านเล็กๆน้อย และออกกำลังกาย

 

สำหรับการออกกำลังกายนั้นจะออกกำลังกายอย่างหนักหรือหักโหมไม่ได้ 

ดังนั้นวิธีออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย CAPD คือการเดิน วิ่งเยาะๆ ปลูกต้นไม้ หรือแม้แต่การทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆ

ถึงจะไม่ได้ใช้กำลังมากนักแต่ก็เรียกเหงื่อได้พอสมควร

 

นอกจากนั้น สิ่งที่ทำให้ฉันไม่ทุกข์ใจจากโรคที่ฉันเป็นคือ การคิดในแง่บวกอยู่เสมอ

ฉันจะให้กำลังใจตัวเองบ่อยๆ คิดว่าฉันยังมีสิ่งที่ยังไม่ได้ทำอีกมากมาย  ยังมีคนที่รอฉันอยู่

และที่สำคัญฉันคิดว่าฉันจะต้องหายดีสักวัน แค่นี้ก็ทำให้ฉันฮึดสู้และยิ้มได้ในทุกๆวัน

 

มีหลายครั้งที่ฉันประสบกับปัญหาที่เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด

ฉันเคยความดันโลหิตสูงมากปวดหัวมากแทบทนไม่ไหว เส้นเลือดฝอยในตาแตก ซึ่งทำให้ฉันมองไม่เห็น

ฉันเข้าใจคนตาบอดทันทีเลยว่ามันลำบากแค่ไหนกับการใช้ชีวิตโดยไม่สามารถมองเห็นอะไรเลย

ตอนแรกก็ตกใจมากเพราะไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่พอรู้สาเหตุ ฉันก็ไปพบแพทย์

และได้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 1 สัปดาห์

พอกลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน ทานยาให้ตรงเวลา ทานอาหารที่มีประโยชน์และรสไม่จัด

ล้างไตตรงเวลา และพักผ่อนให้เพียงพอ ผ่านไปสามสัปดาห์ตาก็เริ่มมองเห็น

 

มีอีกครั้งหนึ่งที่ฉันจำได้ไม่มีวันลืมคือน้ำท่วมปอดทำให้ฉันต้องเข้ารักษาตัวที่ห้องไอซียู

วันนั้นเป็นวันที่ฉันได้รับความทุกข์ทรมานมากต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น

ใครๆก็คิดว่าฉันคงไม่รอด พ่อกับแม่ก็ยังคอยให้กำลังใจฉันอยู่เสมอ

แม้ว่าท่านทั้งสองรวมทั้งฉันจะรู้ดีว่า ฉันคงจะไม่รอดแน่ๆ

 

แต่อีกไม่กี่วันต่อมาฉันกลับรอดราวกับมีปาฏิหาริย์ ทุกคนในครอบครัวดีใจมากรวมทั้งตัวฉันเองด้วย

เหตุการณ์นี้เองที่ทำให้ฉันได้คิดว่า คนเราอยู่ได้ด้วยกำลังใจ ด้วยพลัง

หากวันใดที่กำลังใจของเรายังมีอยู่ พลังที่จะสู้ยังมีอยู่  โรคร้ายใดๆก็ไม่อาจพรากเอาชีวิตเราไปได้ง่ายๆ

 

ชีวิตของคนเราก็เหมือนกับตะเกียงที่ประกอบด้วยไส้และน้ำมัน ไส้คืออายุขัย หมดแล้วต่ออีกไม่ได้ ส่วนน้ำมันคือกำลังใจ หมดเมื่อไหร่ก็เติมได้เสมอ หากเราท้อแท้ ก็จงเหลียวมองไปรอบๆตัวเราเพราะทุกคนที่อยู่รอบข้างยังเป็นกำลังใจให้เราอยู่เสมอ อย่าท้อ อย่าอ่อนแอ สู้เท่านั้นที่จะทำให้เราหยัดยืนอยู่บนโลกนี้ได้โดยไม่ต้องกลัวโรคที่เราเป็นจะมาทำร้ายเรา เพราะถ้าเราดูแลตัวเองเป็น ใช้ชีวิตเป็น เราก็จะมีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข

 

          ความรักและกำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้างเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ป่วย แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือกำลังใจจากตัวของผู้ป่วยเอง

เพราะกำลังใจจากตัวเองเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีแรงที่จะสู้กับโรคร้าย และมีพลังที่จะดำเนินชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความหวังและมีความสุข

ดังคำกล่าวที่ว่า ร้อยล้านกำลังใจจากผู้อื่น ก็ไม่เท่าหนึ่งกำลังใจจากตัวเอง  ไม่ว่าเราจะโชคร้ายขนาดไหน 

แค่เพียงเรามีสติและอยู่กับมันให้ได้  โดยอาศัยกำลังใจจากตัวเองและคนรอบข้าง

เพียงแค่นี้เราก็จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขตลอดไป  

 

ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบค่ะ

เนื้อหาโดย: luckyforme
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
luckyforme's profile


โพสท์โดย: luckyforme
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: bemygon
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
อาหารอันตรายต่อสุขภาพและตัวเราเองมีอะไรบ้างผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ยกเลิกงาน แมงปอ-พู่กัน ตอบชัด เข้าใจช่วงกอบโกยเทศกาลอิโมะนิจิในจังหวัดยามากาตะ ญี่ปุ่น หม้อปรุงอิโมะนิจิมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 6 เมตรอากาศร้อนทำให้ปวดหัวจริงไหม ?ทรงผมยุค 90 ใครทันบ้างหมูเด้งอาจต้องโบกมือลาเขาเขียว แฟนคลับใจหาย แต่เข้าใจเหตุผลmeaningfully: อย่างมีความหมายspacious: กว้างขวาง กว้างใหญ่ มีเนื้อที่มาก5 เทคนิคแต่งหน้าท้าลมหนาว"โรซี่" แมวที่มีอายุมากที่สุดในอังกฤษเสียชีวิตแล้ว รวมอายุ 33 ปี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หมูเด้งอาจต้องโบกมือลาเขาเขียว แฟนคลับใจหาย แต่เข้าใจเหตุผลรู้หรือไม่? นั่งไขว่ห้าง ไขว้ขา นาน ๆ ไม่ใช่แค่ปวดเมื่อย แต่อันตรายกว่าที่คิดจริงหรือ? ผู้ชาย ชอบ ผู้หญิง ที่มีสัดส่วนเอวต่อสะโพกเท่ากับ 0.7meaningfully: อย่างมีความหมาย5 เทคนิคแต่งหน้าท้าลมหนาว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
ลูกชายเรียกตำรวจจับพ่อวัย 72 ปี ฐานทำร้ายแม่ด้วยรากโกโบ เพราะทำแจกันห้องครัวแตกป้าชาวจีนขี่กระเป๋าเดินทางไฟฟ้าตามถนน พลาดท่าสะดุดล้มลงไปกองกับพื้นถนนเปรียบเทียบ​ชีวิตที่น่ากลัว5 วิธีรับมือ เมื่อเจอความรักที่ทำให้เจ็บปวด
ตั้งกระทู้ใหม่