จูงมือไป ชมปราสาท ถ่ายรูป ปั่นจักรยาน หากาแฟกิน ที่กัมพูชา

วันนี้จูงมือไปจะพาไปย้อนรอยรีวิวการไปเที่ยวกัมพูชาตามสไตล์ขาลุยไปตายเอาดาบหน้าของพวกเรา  ก่อนเริ่มเดินทางข้อแนะนำเบื้องต้นนะคะ เตรียมร่างกายให้พร้อม  ถ้าจะไปมันทุกวัด ทุกปราสาทต้องใช้พลังงานเยอะมากเพราะแต่ละจุดมีพื้นที่กว้างมากหรือต้องเดินเท้าเข้าไปอีกถึงจะเจอปราสาท และสิ่งที่เรากำลังจะไปเที่ยวชมคือซากวัดกับป่า การแต่งกายควรเหมาะสมให้ความเคารพสถานที่และต้องพร้อมลุยไปด้วย แนะนำเสื้อผ้าสีสดจะถ่ายรูปสวยกว่า (จุดนี้เราพลาด)  แว่น หมวก ทิชชู่ ร่ม น้ำ ครีมกันแดด สาวๆห่วงสวยเตรียมให้พร้อมเลย ไม่งั้นกลับมาตัวเกรียมแน่ๆ

              เริ่มออกเดินทางจากไทยก็เย็นแล้ว  ระหว่างอยู่บนเครื่องบินต้อง กรอกใบขาเข้า/ใบตม. (Arrival Card/Disembarkation Card)  ไม่ทันได้นอนก็ถึง  ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ  สำหรับคนไทยผ่านด่านตม.ได้เลยแค่ตอบคำถามนิดหน่อย  แต่แฟนเราเป็นชาวยุโรปต้องทำเรื่องชำระเงินเพื่อทำวีซ่าท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่าย 20 USD ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็เรียบร้อย จากนั้นก็ติดต่อรถตู้ด้านหน้าเพื่อไปส่งโรงแรม ในราคา 8 USD ( อ้อ..ลืมบอกไปเนื่องจากค่าเงินเรียวเล็กมากที่กัมพูชาจึงใช้ค่าเงินทั้งสองสกุล ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เงินดอลล่ากันค่ะ)  ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงที่พัก เราเลือกพักที่  Deva Angkor Residence  โรงแรมระดับ 4 ดาว ตอนแรกที่แท็กซี่พาเข้ามาในซอยทางโรยหินแอบตกใจ แต่พอได้เข้าไปข้างในโรงแรมแล้วบอกเลยว่าคุ้มมาก

ประทับใจตั้งแต่เวลคัมดริ้งแล้ว พอเข้าไปห้องกว้างมากเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ครบ ห้องพักมีหลายแพ็คเกจ เราจองห้อง Junior Suite Room ไว้สองคืน ตกคืนละประมาณ 3,200 บาท   ไม่รวมอาหารเช้า แต่คุณแฟนจองผ่านแอพ booking.com พอรวบรวมส่วนลดได้เพิ่มอีก 45% นอนฟินๆไปจ้า  ภายในห้องจูเนียร์สวีท มีเตียงคิงไซส์ 1 เตียง วิวสระว่ายน้ำ Wi-Fiฟรี  อุปกรณ์อาบน้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แชมพู ครีมนวด สบู่เหลว หวี รวมถึงน้ำเปล่าและชา กาแฟ ทางรีสอร์ทเปลี่ยนให้ทุกวัน   มีโซฟายาวนั่งเล่น ตู้เสื้อผ้า โต๊ะ อ่างอาบน้ำและฝักบัว เครื่องเป่าผม เสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ เครื่องปรับอากาศ พัดลมไฟฟ้า โทรทัศน์  กาต้มน้ำไฟฟ้า รวมถึงตู้เซฟในห้องด้วย             
               รุ่งเช้าพอออกจากโรงแรมเราก็เจอคุณลุงสามล้อจอดอยู่หน้าโรงแรม จึงติดต่อให้พาไปทานอาหารและซื้อซิมการ์ด และเจรจากันเรื่องพาทัวร์ปราสาท โดยซิมการ์ด ใช้แบบราคา 5 USD (ประมาณ 173 บาท)  ใช้โทรและเล่นเน็ตได้ 7 วัน  เราเดินทางแค่ 3 วัน สัญญาณถือว่าเร็ว และแรงใช้ได้เลย  ส่วนค่าเช่ารถลุงจะพาไปสถานที่สำคัญรอบใน 5 สถานที่ในราคา 18 USD (ประมาณ 620 บาท) เมื่อตกลงกันแล้วก็ไปลุยกันเลย.......

 

           แต่ๆๆๆๆ เราจะดุ่มๆไปเข้าชมปราสาทต่างๆเลยไม่ได้  เราจะต้องไปซื้อตั๋วเข้าชมกันก่อน เราเลือกซื้อตั๋วแบบ ONE DAY TRIP ในราคา 37 USD(ประมาณ 1,350 บาท) ถ่ายรูปทำบัตรแปบเดียวก็ได้ตั๋วออกมาแล้ว

และที่แรกที่เราไปก็คือไฮไลของวันนี้ มรดกโลก นครวัด (Angkor Wat) หมู่ปราสาทในประเทศกัมพูชาและเป็นศาสนสถานที่ตรวจสอบแล้วว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สถานที่ที่ต้องมาสักครั้งในชีวิต มีพื้นที่กว้างขวางและสวยงาม ความอลังกาลของศิลปขอมสมัยโบราณ มุมถ่ายรูปก็จะเป็นแนวตัวปราสาท หรือผนังที่มีการแกะสลักลอดลาย รวมถึงซากปราสาทในจุดต่างๆ

 

กว่าจะเดินทั่วกินเวลาไปสองชั่วโมง เมื่อพักดื่มน้ำเรียบร้อยก็ไปปราสาทต่อไปกันค่ะ  และเนื่องจากที่นี่เป็นปราสาทและโบราณสถานจึงควรแต่งกายให้เหมาะสมก่อนเข้าชมสถานที่นะคะ เพราะถ้ามาซื้อเสื้อผ้าที่นี่แพงกว่าไทยเราอีกค่ะ

       มาต่ออีกหนึ่งสถานที่สำคัญของกัมพูชา  นครธม ( Angkor Thom) เมืองหลวงแห่งสุดท้ายของอาณาจักรขอม ความสวยงามเริ่มตั้งแต่เส้นทางก่อนที่จะเข้าภายในบริเวณปราสาทจะมีสะพานหินที่ทอดยาวผ่านคูน้ำเข้าสู่กำแพงและซุ้มประตูเมือง โดยบนราวสะพานทั้ง 2 ฝั่ง จะมีรูปปั้นอยู่ทั้งสองข้างและบนซุ้มประตูรูปสลักพระโพธิสสัตว์อวโลกิเตศวร 4 ด้าน ตัวปราสามหินยังคงมนต์ขลังและดูงดงามแปลกตาทั้งภายในและภายนอกปราสาท

            ถ่ายรูปเสร็จเราก็ไปกันต่อกันที่  Ta Keo Temple ปราสาทตาแก้ว เป็นปราสาทที่ทำให้รู้ว่าจงรีบออกเดินทางซะ ก่อนที่ไขข้อจะไม่ดี สูงและชันมากพ่อ.....ระหว่างปีนขึ้นไปเจอฝรั่งสูงอายุท่านหนึ่งกล่าวทักทายว่า not a good idea that I came up here.    เพราะนอกจากปราสาทจะสูงชันแล้ว  ขั้นบันไดแต่ละขั้นยังกว้างเพียงแค่หนึ่งคืบมือ ต้องใช้ความระมัดระวังในการขึ้นไปด้านบนเนื่องจากไม่มีตัวกันหรือตัวเซฟแต่อย่างใด แต่เมื่อไปถึงด้านบนแล้ว อากาศเริ่มเย็นสบาย  ความเหนื่อยยากที่ปีนขึ้นมาหายไปหมดเมื่อได้เห็นบรรยากาศและทิวทัศน์เบื้องหน้า และตอนที่ไปเราเจอผู้ชายคนหนึ่งน่าจะเป็นคนท้องที่มาทำตัวเป็นไกด์ให้และชวนพูดคุยไปเรื่อยแต่ถ่ายรูปสวยมาก ถึงแม้จะขายของที่หลังก็ตาม

          เมื่อหายขาสั่นแล้วต้องเดินทางต่อเพราะเรามีเวลาแค่วันเดียว และสถานีต่อไป Ta Prohm Temple (ปราสาทตาพรหม)  จุดเด่นคือต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นปกคลุมตัวปราสาทจำนวนมาก  ความกลมกลืนของธรรมชาติและซากปราสาทที่ดูลงตัว และยังเคยเป็นสถานที่ฉากถ่ายทำหนังเรื่อง Tomb Rider ด้วย

 

และแล้วก็มาถึงปราสาทสุดท้ายของวัน Bantaey Kdei temple(ปราสาทบันทายกฏี) เป็นปราสาทขนาดเล็ก  ไม่มีสิ่งที่น่าสนใจอะไรเป็นพิเศษ ไม่ใช่สถานที่ยอดนิยมจึงไม่ค่อยมีคนมา แต่เรียกได้ว่าสวยงามท่ามกลางป่าอันร่มรื่น  มีงานแกะสลักหินที่สวยงามตามสไตย์ขอมโบราณ  เป็นสถานที่เงียบสงบได้ยินเพียงเสียงนกและธรรมชาติ เหมาะกับการเก็บภาพของการสิ้นสุดวัน แบบสบายๆ จิตใจสงบ ไม่เร่งรีบท่ามกลางแสงจากพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน

 

            เช้าวันต่อมาเริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารและเครื่องดื่มจากร้าน Brown Coffee ร้านกาแฟขนาดใหญ่ ที่มีการตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ทันสมัย มีเพดานสูง พร้อมโต๊ะที่นั่งหลากหลายแบบ หลายมุม นั่งสบาย โปร่ง มีพื้นที่ให้นั่งคุย นั่งทำงาน  ส่วนอาหารและเครื่องดื่มราคาก็อยู่ในระดับกลางๆมีทั้งกาแฟ นม  สมูตตี้ สลัด สปาเก็ตตี้และอาหารสไตล์ตะวันตก เครื่องดื่มตัวเด่นของร้านคือ กาแฟ Brown Iced Latte  หอมกลิ่นกาแฟคั่ว ตัวกาแฟไม่เข้มมาก รสชาติออกละมุน เพิ่มความมันด้วยนมสด แต่พอดื่มแล้วตาสว่างเหมือนกัน และอยากบอกว่าครัวซ็องร้านนี้ดีงามมาก ส่วนอาหารอื่นๆรสชาติอร่อยใช้ได้เลย

วันนี้เป็นวันฟรีเดย์สำหรับเราเพราะไม่ได้วางแผนเอาไว้อย่างที่บอก จึงไปเช่าจักรยานมาปั่นเล่นในราคาคันละ 5 USD (ประมาณ 173 บาท) ดีที่อากาศไม่ร้อนมาก โดยปั่นไปเรื่อยๆ ตามวัดต่างๆในกูเกิ้ลแมพ ไปยังสถานที่ที่ไม่ต้องซื้อตั๋วเข้าชม...ว่าแล้วก็ไป

Wat Bo

Wat Damnak Center for Khmer Studies

WAT Athvea

ปั่นรวมๆก็สิบกิโลอยู่นะ เจอร้านข้างทางพักทานข้าวแป๊บ

ปั่นจนตัวเกรียมไปเลยจ้าาาาาาาา

และเมื่อกลับมาถึงโรงแรมก็มืดค่ำแล้ว  หนึ่งสถานที่ที่คุณแฟนไม่เคยพลาดนั่นก็คือแหล่งบันเทิงประจำท้องถิ่น ที่รวมอาหารและความบันเทิงไว้  Pup Street Siem Reap  ผับที่นี่เต้นมันเหมือนอยู่ไทยเพราะเปิดเพลงไทยไปแล้ว 60 %  แถมรอบนี้เรายังได้เพื่อนใหม่จาก LA เพิ่มมาอีกคนด้วย

           และแล้วก็ภาพตัดมาตอนเช้าเลย ตื่นมาว่ายน้ำเล่นและเช็คเอาท์  ออกไปทานข้าวที่ Brown Coffee ก่อนนั่งตุ๊กๆไปยังโฮมสเตรย์ที่ใกล้สนามบินเพื่อเตรียมเดินทางในพรุ่งนี้เช้า  จบทริปนี้กับโฮมสเตรย์ที่มีชื่อว่า Koemle's homestay - ที่ซึ่งต้องเดินทางผ่านเส้นทางขรุขระและฝุ่นละออง แล้วคุณจะมาพบกับที่พักที่สุดแสนพิเศษสไตล์ครอบครัว ที่ซึ่งมีเจ้าของน่ารักใจดีและใช้ภาษาอังกฤษเก่งมาก  ร่วมรับประทานอาหารกับเจ้าของบ้าน นอกจากนั้นยังมีพนักงานต้อนรับอาซากับลาล่าที่จะมาปลุกคุณตอนเช้า(ถ้าคุณต้องการ) พร้อมด้วยรถคันหรูหราที่จะพาคุณไปส่งถึงสนามบินภายใน 5 นาที ในราคา 31.50 USD (ประมาณ 1,090บาท) 

 

 

 

ทริปหน้าเราจะจูงมือไปที่ไหน รอติดตามได้เลยนะ

-----------------------------------------------------

Facebook : https://www.facebook.com/joongmeupai

Tiktok : @joongmeupai

อย่าลืมกด Like กด Share และ Subscribe ไว้ด้วยนะคะ