จังหวัดทางภาคอีสานของไทย ที่มีปริมาณผลผลิตยางพารามากที่สุด
ยางพารา (Hevea brasiliensis) หรือต้นยางพารา เป็นพันธุ์ยางที่มีถิ่นกำเนิดในป่าฝนอเมซอนในอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในบราซิล ต้นไม้ต้นนี้มีชื่อเสียงในเรื่องการให้น้ำยาง ซึ่งใช้ในการผลิตยางธรรมชาติ น้ำยางถูกสกัดโดยการกรีดที่ลำต้น สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยางต่างๆ รวมถึงยางรถยนต์ รองเท้า ถุงมือยาง และการใช้งานในอุตสาหกรรมนับไม่ถ้วน
ต้นยางมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมยาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นช่วงที่ความต้องการยางเพิ่มขึ้นเนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่กำลังเติบโต การเพาะปลูกยางพารา เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาเลเซีย ไทย และอินโดนีเซีย ต่อมาได้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญมาก
Hevea brasiliensis เป็นต้นไม้ไม่ผลัดใบขนาดใหญ่ ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและมีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดยางโลก แม้ว่าในช่วงหลัง จะมียางสังเคราะห์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนยางธรรมชาติ แต่น้ำยางจากธรรมชาติก็ยังคงเป็นทรัพยากรและสินค้าเกษตรที่สำคัญอยู่
ในประเทศไทยมีการเพาะปลูกยางพารากันอย่างแพร่หลายในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในเขตภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีความเหมาะสม ในเชิงของสภาพอากาศและความชื้น ทำให้มีผลผลิตมากเป็นพิเศษ
นี่คือรายชื่อจังหวัดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ที่มีปริมาณผลผลิตและพื้นที่ปลูกยางพารามากที่สุด ในปี 2564 (ข้อมูลโดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
จังหวัดบึงกาฬ ผลผลิตรวม 208,058 ตัน จากพื้นที่ปลูก 876,355 ไร่
จังหวัดเลย ผลผลิตรวม 193,149 ตัน จากพื้นที่ปลูก 926,453 ไร่
จังหวัดอุบลราชธานี ผลผลิตรวม 129,299 ตัน จากพื้นที่ปลูก 621,128 ไร่
จังหวัดอุดรธานี ผลผลิตรวม 128,031 ตัน จากพื้นที่ปลูก 581,780 ไร่
จังหวัดสกลนคร ผลผลิตรวม 84,697 ตัน จากพื้นที่ปลูก 400,199 ไร่
ผลผลิตยางพาราของภาคตะวันออกเฉียงเนือ ในปี 2564 อยู่ที่ 1,311,533 ตัน จากพื้นที่ปลูกรวมทั้งหมด 6,299,741 ไร่ ในขณะที่ยอดรวมของทั้งประเทศ มีผลผลิตรวม 4,892,451 ตัน จากพื้นที่ปลูกรวมทั้งหมด 24,466,804 ไร่