บริจาคโลหิต "มากกว่าการให้ผู้อื่นก็คือผลดีต่อตัวเอง"

 

ทุกคนรู้ไหมว่าการบริจาคโลหิตนั้นเป็นผลดีต่อผู้ให้และผู้รับด้วยเช่นกัน 

 

1 คนให้ 3 คนรับ เป็นที่รู้ๆอยู่แล้วว่าคนไทยนั้นใจดีมากถ้ามีการขอรับบริจาคโลหิตแล้วนั้นเราคนไทยก็พร้อมจะไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเสมอ 

 

ซึ่งวันบริจาคโลหิตโลกนั้นจะตรงกับวันที่ 14 มิถุนายนของทุกปี

 

 

การบริจาคโลหิตส่วนเกินที่ร่างกายของเรายังไม่จำเป็นต้องใช้ให้กับผู้ป่วยรายอื่นๆนั้น ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อผุ้บริจาคโลหิต เพราะร่างกายของแต่ละคนนั้นมีปริมาณโลหิตประมาณ 17-18 แก้วน้ำ ซึ่งภายในร่างกายของคนเรานั้นจะใช้เพียง 15-16 แก้วเท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นสามารถบริจาคให้ผู้อื่นได้โดยการบริจาคโลหิตนั้นจะทำได้ทุกๆ 3 เดือน เมื่อร่างกายของคนเราบริจาคโลหิตออกไปแล้ว ไขกระดูกจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดโลหิตขึ้นมาทดแทนจึงทำให้ปริมาณโลหิตในร่างกายนั้นเท่าเดิม หากไม่ได้บริจาค ร่างกายจะขับเม็ดโลหิตที่สลายตัวเพราะหมดอายุ 

 

การบริจาคโลหิต1ถุง นั้นสามารถต่อชีวิตอีก1ชีวิตได้เลย

 

การบริจาคโลหิตนั้นยังส่งผลดีต่อตัวผู้ที่บริจาคเองอีกด้วย 

 

1 ทำให้ร่างกายของผู้บริจาคแข็งแรงขึ้น

 

2 หุ่นดีผิวพรรณเปล่งปลัง มีความเชื่อที่เข้าใจผิดกันมาตลอดว่าการบริจาคโลหิตนั้นจะทำให้อ้วนขึ้น แต่จริงๆแล้วการบริจาคโลหิตนั้นไม่ได้ทำให้อ้วนขึ้นแต่กลับทำให้ผู้ที่บริจาคโลหิตนั้นมีรูปร่างที่ดีขึ้นนอกจากนี้โลหิตที่ถูกผลิตขึ้นมาใหม่รวมทั้งการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ดั้งนั้นจึงช่วยทำให้มีผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวน และยังช่วยทำให้หน้าใส่ขึ้นอีกด้วย 

 

3 ลดความเสี่ยงเป็นมะเร่งได้อีกด้วย 

 

 

การเตรียมตัวก่อนและหลังการบริจาคโลหิต

 

1.ควรพักผ่อนให้เพียงพอและไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมงในคืนของวันที่จะมาบริจาคโลหิต

 

2.ร่างกายแข็งแรงสมบรูณ์ ไม่มีอาการเป็นหวัดหรือเป็นไข้ หรืออยู่ระหว่างรับประทายยาปฎิชีวนะ เช่น ยาแก้อักเสบและต้องมีการหยุดยามาแล้วอย่างน้อย 7 วัน

 

3.ควรรับประทานอาหารมาก่อนที่จะมาบริจาคโลหิตและควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงภายใน 6 ชั่วโมงก่อนที่จะมาบริจาคโลหิต ได้แก่ ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมูเพราะจะทำให้มีพลาสมาสีขาวขุ่นไม่สามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยได้

 

4.ควรดื่มน้ำก่อนมาบริจาคโลหิต 30 นาที ประมาณ 3-4 แก้ววึ่งจะเท่ากับปริมาณของโลหิตที่เสียไปจะทำให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้นและช่วยลดภาวะการเป็นลมจากการบริจาคโลหิตได้อีกด้วย

 

5.ต้องงดเครื่องดืมที่มีสารมึนเมาก่อนมาบริจาคโลหิตอน่างน้อย 24 ชั่วโมง

 

6.ต้องงดสูบบุหรี่ก่อนและหลังบริจาคโลหิต 1 ชั่วโมงเพื่อให้ปอดฟอกเลือดได้ดี

 

 

หลังบริจาคโลหิต

 

ควรพักรับประทานอาหารและเครื่องดืมที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้บริการและควรนั่งพักอย่างน้อย 15 นาที

ดืมน้ำมากกว่าปกติ

ควรนั่งพักให้แน่ใจแล้วว่าไม่มีอาการวิงเวียนหลังบริจาคโลหิต

หลีกเลี่ยงการใช้ลิฟหรือบรรไดเลือนเพราะอาจจะทำให้รู้สึกวิงเวียนและอาจจะเป็นลมได้

 

ทำความรู้จักการบริจาคโลหิตแต่ละกรุ๊ปกัน

 

 

หมู่ เอ ต้องได้รับโลหิตจาก หมู่ เอ หรือ โอ

 

หมู่ บี ต้องได้รับโลหิตจาก หมู่  บี หรือ โอ

 

หมู่ เอบี ต้องได้รับโลหิตจาก หมู่ เอบี หรือ เอ หรือ บี หรือโอ

 

หมู่ โอ ต้องได้รับโลหิตจาก หมู่ โอ 

 

 

สิทธิพิเศษสำหรับคนที่บริจาคโหลิตมาดูกันมีอะไรบ้าง 

 

ผู้ที่บริจาคโลหิตตั้งแต่ เจ็ด ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ช่วยเหลือค่าพยาบาล+ค่าห้องพิเศษและค่าอาหารได้ร้อยละ 50

 

ผู้ที่บริจาคโลหิตตั้งแต่ เก้า ครั้งขึ้นไป สามารถของใช้สิทธิ์ตรวจวิเคราะห์เคมีในโลหิตได้ เช่น ตรวจหาน้ำตาล ตรวจหาไขมัน ตรวจการทำงานของตับ และตรวจการทำงานของไต ได้เป็นต้น

 

ผู้ที่บริจาคโลหิตตั้งแต่ สิบหก ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล+ค่าห้องพิเศษและค่าอาหารได้ร้อยละ 50

 

ผู้ที่บริจาคโลหิตตั้งแต่ ยี่สิบสี่ ครั้งขึ้นไปสามารถขอใช้สิทธิ์ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล100เปอร์เซ็น+ค่าห้องพิเศษและค่าอาหารได้ร้อยละ 50 

 

ผู้ที่บริจาคโลหิตตั้งแต่ หนึ่งร้อยครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ขอพระราชทานเพลิงศพ ได้เป็นกรณีพิเศษ

 

 

 

 

 

 

 

วันนี้ก็มีบทความเกี่ยวกับการบริจาคโลหิตมาฝากทุกคนเพียงเท่านี้ค่ะเอาไว้รอบหน้าถ้ามีบทความดีดีจะนำมาฝากทุกคนอีกครั้งค่ะ ถ้าหากชอบหรือบทความนี้มีประโยชน์ก็ฝากทุกคนแชร์ไปให้เพื่อนๆคนอื่นๆได้รับรู้ไปพร้อมๆกันค่ะ