ทารกได้รับสารอาหารในท้องแม่ตั้งแต่ครรภ์กี่เดือนกันนะมาดูคำตอบกัน
ทารกจะได้รับสารอาหารครั้งแรกตอนไหนกันนะ
แล้วถุงไข่แดงคืออะไรมาดูคำตอบกันเลยค่ะ
ทารกนั้นจะได้รับสาราหารจากคุณแม่ตั้งครรภ์ครั้งแรกผ่านถุงไข่แดง
อาหารของทารกในครรภ์มารดานั้นจะได้รับในช่วงแรกประมาณ 1 สัปดาห์หลังมีการปฎิสนธิเซลล์มวลภายใจจะสร้างเนื้อเยื่อ 2 ชนิด ที่มีชื่อว่า ไฮโปบลาสและเอพิบลาส
ไฮโปบลาส จะสร้างถุงไข่แดงซึ่งเป็นส่วนหนึงในหน้าที่การส่งอาหารจากมารดาไปสู่ตัวอ่อนในครรภ์ในระยะเริ่มต้น
เซลล์จากเอพิบาสจะสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมามีชื่อว่า ถุงน้ำคร่ำ ซึ่งมีตัวอ่อนอยู่ข้างในและลำดับต่อมาเป็นทารกนั้นเอง และจะเจริญเติบโตไปตามระยะจนกระทั้งคลอดออกมา
ถุงไข่แดงและถุงน้ำคร่ำ เราทุกคนก็เคยเป็นแบบนี้สินะหน้าตาแทบแยกไม่ออก
ที่นี้ก็ไขข้อข้องใจกันแล้วสินะว่าทารกได้รับสารอาหารตั้งแต่กี่เดือน
มาดูระยะเวลาตั้งแต่แรกในครรภ์จนถึงอาหารแข็งมื้อแรกในวัย 6 เดือนของเจ้าตัวน้อยกันต่อเลยดีไหม
การตั้งครรภ์นั้นสร้างความสุขและความตื่นเต้นให้มนุษย์แม่ทั้งหลายอย่างเราๆมากการดูแลรักษาอีก 1 ชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นเชื่อว่าในชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งเป็นสิ่งที่ต้องกังวนมากงั้นเรามาดูวิวัฒนาการเด็กๆในครรภ์กันเลยว่าแต่ละระยะนั้นเป็นยังไงกันบ้างนะ
เดือนแรกเกิดการปฎิสนธิ
ช่วงแรกของการเติบโตมาบนโลกใบนี้ก็คือการปฎิสนธอระหว่างสเปริม์และไข่เกิดการผสมกันและฝังเป็นตัวอ่อน
ภายในผู้หญิงและสร้างเป็นตัวอ่อนในระนะสัปดาห์ที่ 2-4 เริ่มนับจากวันแรกของรอบเดือนรอบสุดท้ายและไข่ที่
ได้รับการผสมแล้วนั้นจะค่อยๆเคลื่อนมาตามท่อนำไข่ และเริ่มฝังตัวที่มดลูกและในขณะเดียวกันที่ไข่ค่อยๆ
เคลื่อนมานั้นเวลลืจะเริ่มแบ่งตัวเพิ่มจำนวมมากขึ้น เมื่อถึงตอนที่ตัวอ่อนมาถึงมดลูกจะมีเซลล์ประมาณ 100
เซลล์หลังจากหนึ่งสัปดาห์ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะฝังตัวลงมดลูก ซึ่งถือว่ากระบนการนี้ถูกปฏิสนธิอย่างสบรูณ์
แบบแล้วนั้นเอง
เดือนที่ 2 พัฒนาการ
เริ่มเห็นพัฒนาการของทารกได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะเริ่มเห็นศีรษะใหญ่กว่าอวัยวะอื่นๆ หากคุณแม่เริ่มทำการอัลตรา
ซาวด์ จะเห็นว่าตัวทารกนั้นเริ่มขยับไปมาได้เห็นหัวใจดวงเล็กๆนั้นเต้นตุบๆสายสะดือทำหน้าที่เป็นปอดนำ
ออกซิเจนจากแม่มาสู่ลูก และยังเป็นสายที่นำอาหารมาสู่ทารก และทารกในช่วงนี้จะยาวประมาณ 2-3 เซ็นติ
เมตร
เดือนที่ 3 สมองและกล้ามเนื้อประสานกัน
อายุครรภ์ในวัยนี้ถือว่าระบบอวัยวะบนใบหน้าแทบจะสมบรูณ์แล้วก็ว่าได้ เพียงแต่ดวงตานั้นยังคงปิดสนิทอยู่
สมองและกล้ามเนื้อเริ่มทำงาน กล้ามเนื้อกำลังพัฒนา และแขนของทารกนั้นจะเริ่มมีการขยับไปมาได้แล้ว ข้อ
ต่อต่างๆเริ่มประสานกัน นิ้วมือนิ้วเท้าพัฒนาจนสมบรูณ์ข้างละ 5 นิ้วและงอนิ้วได้ เล็บเริ่มงอกและยาวขึ้น ทารก
จะลอยตัวในถุงนำคร่ำที่ทำหน้าที่ห่อทารกไว้ ตอนนี้ทารกจะมีขนาดประมาณ 10-12 เซ็นติเมตร
เดือนที่ 4 ทารกจะเป็นเพศอะไรกันนะ
ทารกในระยะนี้จะเริ่มขยับร่างกายได้มากขึ้น แต่คุรแม่มือใหม่ๆอาจจะยังไม่รู้สึกตัวว่าเจ้าตัวเล็กนั้นดิ้นได้แล้ว
นอกจากนี้ในระยะนี้ขนตามร่างกายและผมของเจ้าตัวน้อยนั้นจะเริ่มงอกขึ้นมาแล้วคุณหมอสามารถทำการซาวด์
ที่ท้องของมารดาเพื่อฟังเสียงหัวใจของทารกได้ ไตเริ่มจะทำงานเช่นเดียวกันกับของผู้ใหญ่ จำนวนเส้นปรสาท
และกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ในครรภ์ระยะนี้ทารกจะเริ่มเตะ ยืดนิ้วมือนิ้วเท้าร่างกายในส่วนต่างๆพัฒนาและ
เราจะสามารถรับรู้เพศได้ในเดือนนี้ ลำตัวขยาย 16-18 เซ็นติเมตร
เดือนที่ 5
ในระยะที่ 5 นี้คุณแม่จะเริ่มรู้สึกว่าลุกเริ่มดิ้นแล้ว เพราะกล้ามเนื้อส่วนต่างๆเริ่มแข็งแรงขึ้น ทารกจะสร้างไขมัน
เพื่อปกป้องผิวหนังและผม คิ้วและขนตา กำลังพัฒนา ทารกจะเริ่มได้ยินเสียง ได้กลิ่น และรับรสชาติของอาหาร
ที่มารดานั้นได้กินเข้าไ แต่ดวงตาของทารกนั้นก็ยงคงปิดสนิทเช่นเดิม และในเดือนนี้ทารกจะเริ่มขับปัสวะปนมา
ในน้ำคร่ำ ในระยะนี้ทารกจะมีขนาดลำตัวที่ 20-25 เซ็นติเมตร
เดือนที่ 6
ทารกจะเริ่มได้ยินเสียงต่างๆมากขึ้นรวมทั้งได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้นของมารดา และเสียงดนตรีทารกในระยะ
ครรภ์นี้คุณแม่หลายๆท่านจึงมักจะเปิดดนตรีเบาๆใส่ท้องกันยังไงละ ในระยะนี้ลำตัวของทารถจะยาวอยู่ที่ 30
เซ็นติเมตร
เดือนที่ 7 ละแล้วเวลาที่รอค่อยก็มาถึงเจ้าตัวน้อยลืมตาแล้ว
เดือนนี้คงเป็นเดือนที่คุณแม่ตื่นเต้นที่สุดเลยก็ว่าได้สินะเพราะในที่สุดแล้วเจ้าตัวน้อยก็สามาถลืมตาได้แล้ว
เดือนที่ 8 ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะ
ในระยะครรภ์เข้าเดือนที่แปดนั้นทารกจะดูเหมือนเด็กแรกเกิด ร่างกายเริ่มหั่นศรีษะมาทางปากมดลูก และยัง
สามารถเห็นการเคลื่อนไหวของทารกได้ผ่านทางหน้าท้อง ในระยะครรภ์นี้จะมีอาการเจ็บท้องเตือน เนื่องจาก
มดลูกเกิดการบีบตัว เพื่อเตรียมะร้อมให้ทารกนั้นเอง
เดือนที่ 9 สิ้นสุดของเดือนแห่งการรอคอย
คุณแม่ดูแลปกป้องครรภ์จนมาถึงเดือนสุดท้ายแล้วก็ขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายคนด้วยนะค่ะ
เวลาแห่งการรอคอยนั้นใกล้จบลงแล้ว ในครรภ์ระยะนี้ทารกพร้อมที่จะออกมาพบเจอโลกภายนอกแล้ว และ
ศรีษะของทารกจะอยู่ใกล้ปากมดลูกมากที่สุด
การคลอดนั้นมี 2 วิธี
การคลอดแบบธรรมชาติ
ข้อดีของการคลอดแบบธรรมชาติ คือ คุณแม่จะสามารถฟื้นตัวได้เร็ว เสียเลือดน้อย และน้ำนมมาเร็ว
ข้อดีสำหรับเด็กที่คลอดแบบธรรมชาติ มีงานวิจัยออกมาบอกว่าเด็กที่คลอดออกมาผ่านช่องทางช่องคลอดของ
มารดานั้นเชื่อว่าจะทำให้ปลอดของเด็กนั้นแข็งแรงกว่าการผ่าคลอด
การผ่าคลอด
ยังไม่จบนะค่ะไหนไหนก็รู้ละว่าทารกในครรภ์ได้รับอาหารตอนอายุครรภ์กี่เดือนงั้น
เรามาดูอาหารแข็งครั้งแรกกันว่าเด็กกี่เดือนขึ้นไปถึงจะเริ่มทานได้
คงเป็นที่รู้ๆกันอยู่แล้วสินะค่ะว่าวัยเด็กนั้นสามารถทานอาหารได้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
ในเด็กวัยแรกเกิดจนถึง 6 เดือนแรกทารกนั้นไม่ต้องการอะไรนอกจากน้ำนมแม่น้ำนมแม่จำเป็นต่อการเจริญ
เติบโตของทารก หากการที่คุณแม่นั้นให้ลุกน้อยทานอาหารก่อนอายุ 6 เดือนนั้นจะเป็นอัยตรายต่อตัวของเด็ก
เองได้ และการที่ให้ทารกทานของเหลวที่ไม่ใช่น้ำนมแม่ ก่อนอายุ 6 เดือนจะส่งผลต่อตัวของเด็กให้ป่วยได้ง่าย
เช่นอาจจะทำให้เด็กไม่สบายท้อง ท้องอืด ท้องเสียได้ง่าย
น้ำนมแม่เป็นแหล่งอาหารชั้นยอดและยังดีต่อสุขภาพของทารกในวัยแรกเกิดจนถึงหกเดือนแรก ซึ่งขาดไม่ได้
เลยสำหรับเด็กๆ
แล้วเมื่อไหร่กันนะถึงจะให้อาหารครั้งแรกให้ลูกน้อยได้
เด็กจะพร้อมรับประทานอาหารแข็งตอนอายุได้ หกเดือน ขึ้นไป คุณแม่อาจจะให้ผลไม้ชนิดอ่อนๆกับลูกได้เช่น
เดียวกันในวัยอายุเกินหกเดือนแค่น้ำนมแม่นั้นสารอาหารจะไม่เพียงพอต่อร่างกายของเด็กดังนั้นเด็กในวัยหก
เดือนขึ้นไปจึงสามารถทานอาหารแข็งได้แล้วนั้นเอง
จบลงแล้วจ้าสำหรับบทความในวันนี้ของเราถ้าคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ก็ฝากกดแชร์ไปให้เพื่อนๆคนอื่นได้รู้
ไปด้วยกันค่ะ ดูรูปส่งท้ายไปนะค่ะ