"YOKOHAMA MARY" หญิงงามเมืองแห่งเมืองโยโกฮาม่า ที่รับแขกมานาน 60 ปี เพื่อรอคอย..คนรักกลับมา
ริมถนนเมืองโยโกฮาม่าในปี 1995 หากคุณได้เดินไปตามถนนในเมืองโยโกฮาม่าในศตวรรษที่ผ่านมา คุณก็จะพบเจอกับหญิงชราตัวอ้วนที่งอตัวอยู่ สวมชุดสีขาวและถือกระเป๋าโดย มีใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยสีขาวทั้งใบหน้า กับริมฝีปากสีแดงสด ในฐานะของหญิงชราที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากที่สุดในญี่ปุ่น หลังจากที่จักรวรรดิญี่ปุ่นสิ้นสุดลง เธอยังคงเป็นที่รู้จักได้รับความเคารพจากชาวเมืองโยโกฮาม่า แล้วเธอเป็นใครกันนะ ?
1. ชีวิตเริ่มต้น
ก่อนที่เธอจะใช้ชื่อว่า "โยโกฮาม่า แมรี่" (YOKOHAMA MARY) เธอมีชื่อจริงว่า "นิชิโอกะ ยูกิโกะ" (Nishioka Yukiko) เธอเกิดมาในครอบครัวญี่ปุ่นที่ร่ำรวยอย่างสุขสบาย จนกระทั้งในปี 1945 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ครอบครัวก็เจอผลกระทบจากภัยสงคราม ครอบครัวเธอก็เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ในครั้งนี้ พออายุ 24 ปีเธอก็ต้องสูญเสียพ่อแม่ไป แถมน้องชายที่ต้องการฮุบสมบัติไว้ทั้งหมด ก็ได้ไล่เธอออกจากบ้านโดยไม่สนใจใยดี
2. ต้องกลายมาเป็นหญิงงามเมือง
หลังจากเธอถูกน้องชายไล่ออกจากบ้าน เธอก็เดินทางไปโยโกฮาม่าตามลำพัง เป็นผู้ไร้บ้านไม่สามารถหางานอื่นทำได้ และได้เดินเร่ร่อนไปตามถนนตลอดทั้งวัน จนวันหนึ่งเธอได้เห็นโฆษณารับสมัครงาน บอกว่ามีอาหารและที่อยู่อาศัยและมีเงินเดือนสูงๆให้ นี่จึงเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายสำหรับชีวิตเธอที่ไม่มีเงิน เธอจึงตัดสินใจไปสมัครงาน แต่สิ่งที่เธอเจอมันคือหายนะที่ไร้มนุษยธรรมในประเทศของตนเอง เพราะเธอต้องทำงานในคลับต่างชาติ ต้องกลายมาเป็น "หญิงงามเมือง" เพื่อให้ความบันเทิงกับทหารอเมริกัน
3. เหมือนเป็นตัวแทนหญิงญี่ปุ่น
พอได้เรียนรู้รายละเอียดของงานแล้ว ก็รู้ว่ามันคือสถานที่พิเศษที่หน่วยงานท้องถิ่นได้จัดเตรียมไว้ให้ทหารอเมริกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้หญิงญี่ปุ่นในท้องถิ่นคนอื่นๆ ถูกทหารอเมริกันคุกคามและถูกข่มเหง โดยใช้พวกเธอเป็นที่รองรับความต้องการนั่นเอง แต่มันก็สายไปซะแล้วเธอไม่สามารถหนีไปไหนได้แล้ว และที่นี้เองที่ทำให้ศักดิ์ศรีและพรหมจรรย์ของเธอก็ดูไร้ค่าโดยสิ้นเชิง
4. รับแขกจนชินชา
เธอต้องถูกกักขังโดยให้ความบันเทิงกับบรรดาทหารอเมริกัน ในตอนแรกเธอก็กรีดร้องและขัดขืน แต่ยิ่งนานวันเธอก็ยิ่งชินชาจนเหมือนไร้จิตวิญญาณ ต้องก้มหน้ายอมรับชะตาอันระทมทุกข์ของร่างกาย สิ่งที่เธอต้องเจอทุกๆ วันมันทำให้เธอไร้ความรู้สึกไปแล้ว
5. ที่มาของชื่อแมรี่
เด็กสาวทุกคนที่ทำงานในคลับจะถูกนายพลญี่ปุ่น ตั้งชื่ออังกฤษได้ตามอำเภอใจ ดังนั้นเธอจึงถูกเรียกว่า "แมรี่" จึงเป็นชื่อประจำตัวของเธอ มาตลอดแทบทั้งชีวิต
6. เป็นตัวท็อปของคลับ
ด้วยหน้าตาที่โดดเด่นและสวย และมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษ เธอจึงได้ค่อยๆสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองทีละน้อย จนเป็นที่ต้องการของทหารต่างชาติเป็นจำนวนมาก ไม่นานเธอก็ได้เป็นตัวท็อปของคลับ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีเลยสักนิด เพราะเธอปิดกั้นจิตวิญญาณของเธอลง และเธอภาวนาคาดหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือในสักวัน
7. สถานบันเทิงล้มเลิก
เพราะชาวทหารอเมริกันในญี่ปุ่นได้เอาบาดแผลระหว่างสงคราม มาระบายและยัดเยียดให้ผู้หญิงญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก พวกเธอที่ทำงานอยู่และตัวเธอเองจึงได้รับผลกระทบ จากความบอบช้ำทางร่างกายอย่างหนัก แต่ทว่าสถานบันเทิงที่หาความบันเทิงทางเพศแบบนี้ ก็ถูกหลายฝ่ายกดดันจนต้องปิดตัวล้มเลิกไปในที่สุด พวกเธอจึงถูกมองว่าเป็นความอัปยศอดสูของยุคสมัย โดยถูกสังคมตราหน้าว่าไร้ค่าและสกปรก โดยไม่ได้รับการเหลียวแลเลยสักนิดจากสังคม
8. กลับมาทำอาชีพเดิม
แม้ว่าเธอจะได้รับอิสรภาพแล้วก็ตาม แต่ในเมื่อสังคมตราหน้าพวกเธอว่าเป็นความอัปยศ การจะหางานปกติทำก็ย่อมเป็นเรื่องยากลำบาก และยิ่งต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และเพื่อปากท้องของตัวเองเธอจึงต้องหันกลับไปสู่โคลนตมดำมืดกับอาชีพเก่าอีกครั้ง
9. พบรักกับทหารอเมริกัน
เธอนั้นไม่ธรรมดาเลยเธอสวยชุดเกอิชาญี่ปุ่นสุดคลาสสิค ถือร่มคันเล็กยืนนิ่งๆอยู่บนถนนจนดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ไม่น้อย จนกลายเป็นราชินีแห่งท้องถนน แม้จะไม่มีใครชื่นชมยินดีด้วยก็ตามกับสิ่งที่กระทำ ในตอนนี้เองที่เธอได้พบรักกับทหารอเมริกันที่เดินผ่านมา และมองเธอด้วยการให้เกียรติ ไม่ได้ดูถูกดูแคลนเธอ หลังจากที่ได้รู้จักกันและได้พูดคุยกันหลายครั้ง เธอก็ตกหลุมรักเขามันทำให้หัวใจเธอกลับมาสดใสอีกครั้ง
10. การจากลา
ทหารอเมริกันก็รักเธอเช่นกันจึงได้มอบแหวนมรกตให้เธอเก็บไว้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถูกเรียกตัวกลับประเทศ ก่อนจะจากไปเขาได้ให้คำมั่นสัญญากับเธอว่า..จะกลับมารับเธอกลับไปแต่งงานกันที่อเมริกาอย่างแน่นอน
11. เฝ้ารอคนรัก
เธอเชื่อและยึดมั่นในคำสัญญานี้และรอคอยมาตลอดชีวิต แม้ความรักที่แสนหวานจะจากไป แต่ความจริงที่เธอต้องเผชิญก็ต้องเจออยู่ดี แม้จะลำบากแต่เธอก็ไม่นำแหวนมรกตนั้นไปขายเพื่อแลกกับเงิน แต่เมื่อต้องหางานที่ทำเพื่อเลี้ยงชีพ เธอก็กลับไปโยโกฮาม่า และต้องกลับไปทำงานแบบเดิม แต่งตัวแบบเดิมออกมายืนบนถนนที่จุดเดิม เพราะเธอคิดว่านี่จะทำให้ชายคนรักกลับมาก็จะสามารถมองหาเธอได้ และจำเธอได้เหมือนเมื่อครั้งแรกที่ได้พบเจอกัน
12. เธอถูกจับหลายครั้ง
การกระทำของเธอส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเมือง เธอจึงถูกจับกุมหลายครั้งแต่พอออกมาเธอก็ยังคงกลับไปทำธุรกิจแบบเดิม เธออาศัยอยู่ตามลำพังบนท้องถนนในเมืองโยโกฮาม่า และนอนหลับอยู่บนม้านั่งยาวที่เถ้าแก่ทางร้านเมตตาเธอ เธอมักได้ความเมตตาจากคนที่หวังดีกับเธอ และเธอก็นึกถึงพวกเขาอยู่เสมอ ในขณะเดียวกันเธอก็มีความเห็นอกเห็นใจต่อคนอื่นที่ขัดสนเช่นกัน
13. พบเพื่อนแท้
ในวัยชราเธอได้พบกับ "โมโตจิโระ" (Motojiro) เขาเป็นนักร้องและเป็นรักร่วมเพศ เขาได้พบกับเธอและรู้สึกว่าเขาได้เห็นแม่ของเขาในตัวของแมรี่ เพราะในวัยเด็กของโมโตจิโระ แม่ของเขาก็ทำอาชีพนี้เช่นกันเพื่อเลี้ยงดูเขา แต่พอเขารู้ความจริงเขาก็กลับพูดจาไม่ดีต่อแม่ จนกระทั้งแม่ของเขาเสียชีวิตเขาถึงได้สำนึก
14. วาระสุดท้ายของชีวิต
ทั้ง 2 เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และตั้งแต่นั้นมาโมโตจิโระก็ล้วนมักจะแต่งเพลงที่เกี่ยวกับแมรี่ การพบกันของทั้งคู่ทำให้แมรี่มีความหวังใหม่ เธอปรารถนาจะได้เป็นหญิงชราใจดีธรรมดาๆคนหนึ่ง เพราะเบื่อหน่ายกับชีวิตเช่นเดิมแล้ว เธอกลับไปบ้านเกิดด้วยใบหน้าที่แท้จริง และกลายเป็น "หญิงชราผู้ใจดี" ในปี 2004 โมโตจิโระก็เสียชีวิตด้วยอาการป่วยร้ายแรงไปเสียก่อน ส่วนเธอก็เป็นหญิงชราที่ยังเฝ้ารอคอยคนรักของเธอ..จนเธอถึงแก่กรรม
ภาพประกอบ : google