ชะตากรรม “ชายรักร่วมเพศ” ที่ถูกทรมานภายใต้ยุคนาซี
ช่วงที่นาซีเยอรมันปกครองประเทศเยอรมนีในปี ค.ศ. 1933-1945 นาซีได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวเป็นหลัก รวมทั้งจับกุมและสังหารชาวสลาฟ, ชาวโรมา (ยิปซี), ผู้พิการ, นักโทษการเมือง และรวมไปถึง "กลุ่มชายรักร่วมเพศ" ซึ่งนาซีมองว่าเป็นภัยคุกคาม ทั้งกักกันและกระทำความทารุณโหดร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ
1. สาเหตุมาจากอะไร ?
สาเหตุที่นาซีรังเกียจกลุ่มรักร่วมเพศ เพราะมองว่าเป็นสัญลักษณ์ความเสื่อมทรามของสังคมเยอรมัน และขัดกับแนวคิดความเป็นชาติพันธุ์ ที่ต้องการให้ผู้คนมีความรักต่างเพศเพื่อสร้างครอบครัว ให้ผลิตประชากรออกมาเพื่อเสิรมสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่รัฐ จึงมีการรณรงค์ต่อต้านการรักร่วมเพศในเยอรมนี
2. เข้มงวดและทำลาย
นาซีมีอำนาจในวันที่ 30 มค. ปี 1933 ก็เริ่มทำลายวัฒนธรรม และเครือข่ายของเกย์ในเยอรมนี ด้วยการสั่งปิดบาร์เกย์, จุดนัดพบต่างๆของเกย์ทั่วประเทศ, สั่งให้ตำรวจเฝ้าระวังพื้นที่นัดพบมากขึ้น ทำให้เกย์ติดต่อกันยากขึ้น และสั่งปิดหนังสือพิมพ์, วารสาร, สำนักพิมพ์ของชาวเกย์ด้วย
3. บัญชีสีชมพู
ต่อมาได้เพิ่มมาตรการต่อต้านกลุ่มรักร่วมเพศอย่างเข้มข้น ให้อำนาจตำรวจสามารถจับกุม และกักขังได้โดยไม่ต้องมีการพิจารณาคดี ตั้งแต่ปลายปี 1933 กลุ่มรักร่วมเพศก็ถูกคุมขังในค่ายกักกัน พอถึงปี 1934 "เกสตาโป" (Gestapo) ตำรวจลับก็สั่งให้กองกำลังตำรวจท้องที่ ส่งรายชื่อผู้ชายทุกคนที่เชื่อว่ามีพฤติกรรมรักร่วมเพศ ให้อยู่ภายใต้ชื่อว่า "บัญชีสีชมพู" และจะถูกจับตามองเป็นพิเศษ (เหมือนการขึ้นบัญชีดำ)
4. แก้ไขข้อกฎหมาย
พอช่วงปี 1934-1936 นาซีก็ยกระดับการต่อต้านกลุ่มรักร่วมเพศมากขึ้น มีการแก้ไขกฎหมายให้ผู้ชายรักร่วมเพศเป็น "อาชญากรรมร้ายแรง" กลายเป็นเครื่องมือในการดำเนินคดี และประหารผู้ชายที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศเป็นจำนวนมาก
5. ปราบปรามรักร่วมเพศและการทำแท้ง
คนสนิทของฮิตเลอร์ "ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์" (Heinrich Himmler) ก็ได้ก่อตั้งสำนักงานกลางแห่งไรช์ เพื่อต่อต้านการรักร่วมเพศและการทำแท้ง (Reichszentrale zur Bekämpfung der Homosexualität und der Abtreibung) เมื่อปี 1936 เพื่อปราบปรามรักร่วมเพศและการทำแท้ง
ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่ออัตราการเกิดของชาวเยอรมัน จึงทำให้สังคมเยอรมันมีอคติที่เกลียดชังต่อคนรักร่วมเพศ และส่งผลให้นาซีจับกุมชายรัก
ร่วมเพศได้ง่ายขึ้น เพราะตำรวจสามารถได้ข้อมูลมาจาก เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว เพื่อนบ้าน, คนรู้จัก, หรือเพื่อนร่วมงาน เป็นหูเป็นตาให้
Heinrich Himmler and Hermann Göring at the meeting
to formally hand over control of the Gestapo (Berlin, 1934)
6. ต้องแอบจิตซ่อนเร้นรสนิยม
จึงทำให้เกย์บางคนโดยเฉพาะคนที่มีฐานะร่ำรวย ต้องพยายามซ่อนเร้นรสนิยมทางเพศของตน บางคนเลิกติดต่อกับเพื่อน, บางคนย้ายไปอยู่ชนบท หรือไปต่างประเทศ หรือบางส่วนก็ตัดสินใจแต่งงานบังหน้าเพื่อเอาตัวรอด จึงทำให้การจับกุมลดน้อยลง
7. การแยกประเภทนักโทษ
นักวิชาการประเมินว่าน่าจะมีการจับกุมชายรักร่วมเพศราว 100,000 ราย ในช่วงที่นาซีปกครอง และประมาณ 53,400 รายถูกตัดสินว่ามีความผิด รวมถึงนักโทษชายประมาณ 5,000-15,000 ราย ถูกคุมขังในค่ายกักกัน ในฐาน "ความผิดรักร่วมเพศ" โดยนักโทษชายเหล่านี้จะต้องใส่ชุดนักโทษที่ติด "รูปสามเหลี่ยมสีชมพู" เพื่อเป็นการจำแนกประเภทนักโทษปกติ
The Nazi Persecution of Homosexuals.
8. การทารุณกรรม
นักโทษที่มีสัญลักษณ์ "รูปสามเหลี่ยมสีชมพู" จะเป็นกลุ่มที่ถูกทารุณกรรมมากที่สุดในค่าย ให้ทำงานหนักที่สุดในระบบแรงงาน และมักถูกผู้คุมและผู้ต้องขังคนอื่นล่วงละเมิดทางเพศ หรือบางรายถูกเฆี่ยนตีทำให้อับอายต่อหน้านักโทษคนอื่น รวมถึงเพื่อนนักโทษที่มีอคติก็จะไม่คบหาด้วย นักโทษรักร่วมเพศจึงอยู่อย่างโดดเดี่ยว หรือมีการทดลองทางการแพทย์อย่างไร้มนุษยธรรม เช่น การตอนอวัยวะเพศ ในค่ายกักกัน "บูเคนวัลด์" (Buchenwald) ซึ่งเริ่มการทดลองตั้งแต่เดือน พย. ปี 1942
Buchenwald concentration camp. Courtesy Elly Brooks 2014.
Badge worn by political prisoners in Buchenwald.
9. การปลดปล่อยอิสระ
พอสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ชายรักร่วมเพศในค่ายกักกันของนาซี ก็ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ แต่ในสังคมเยอรมันกลับยังมีความคิดในกรอบแบบเดิม พวกเขาก็ยังคงถูกตัดสินจำคุกและลงโทษอยู่ดี เพราะสังคมเยอรมันยังไม่ยอมรับความหลากหลายทางเพศ จึงทำให้เกือบตลอดศตวรรษที่ 20 ทำให้เกย์หลายคนไม่กล้าเปิดเผยประวัติของตนเอง ในขณะเดียวกันคนที่มีอคติทางเพศ ก็จะไม่ค่อยเอ่ยถึงกลุ่มรักร่วมเพศในยุคนั้น
10. ยกเลิกบทลงโทษ
ความพยายามของนักวิชาการ และองค์กรเพื่อสิทธิของชาวเกย์ในเยอรมนี ที่ต้องการให้โลกได้เห็นถึงความโหดร้ายของนาซี ที่กระทำต่อกลุ่มรักร่วมเพศ ก็ประสบความสำเร็จในปี 1990 เมื่อรัฐบาลเยอรมนีได้ยอมรับว่า "กลุ่มรักร่วมเพศที่ถูกข่มเหง" เป็นเหยื่อของระบอบนาซี จากนั้นในปี 2002 รัฐบาลก็ได้ยกเลิกบทลงโทษที่นาซีเคยบัญญัติไว้ และมีผลบังคับใช้มาอย่างยาวนาน ทำให้เกย์ที่ได้รับความเดือดร้อนได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาล
Memorial to Homosexuals Persecuted Under Nazism_01
11. เปิดตัวอนุสรณ์
ในเดือน พค. ปี 2008 ได้มีการเปิดตัว "อนุสรณ์สถานคนรักร่วมเพศที่ถูกข่มเหงภายใต้ลัทธินาซี" (Memorial to Homosexuals Persecuted Under Nazism หรือ Denkmal für die im Nationalsozialismus verfolgten Homosexuellen) ในสวนสาธารณะ ณ สวนสาธารณะ "เทียร์การ์เทิน" (Tiergarten) ใจกลางกรุงเบอร์ลิน เพื่อเตือนให้สังคมตระหนักถึงผลลัพธ์ของความเกลียดชังที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ ที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่แตกต่างกัน
"เพราะทุกคนล้วนเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อเช่นเดียวกัน จึงไม่สมควรที่จะมีใครต้องมาถูกกระทำอย่างโหดร้ายและทารุณเช่นนั้นอีก"
Memorial to Homosexuals Persecuted Under Nazism_02
ขอบคุณภาพ : google