Food Coma เจ้าหญิงนิทราบนโต๊ะอาหาร

โรค Food Coma

มีเรื่องมาแชร์ ความกะเทยรู้สึกว่ามีความผิดปรกติเกิดขึ้นกับตัวเองมาพักใหญ่ ๆ และ อยู่ ๆ มันก็มึน ๆ งง ๆ ซึม ง่วง ไม่สดชื่น แม้แต่เพิ่งจะตื่นนอนก็ยังง่วง หนักสุดเคยนั่งรอรถเมล์ที่หน้าโรงพยาบาลรามาแล้วเกิดมีอาการมึน งง เวียนหัว ตาไม่โฟกัส ทีแรกคิดว่าตัวเองเป็นลมแดด ฮีทสโตรก หรือความดันสูง แต่อยู่ดี ๆ กลับหาวออกมา ค่ะ! แค่ง่วง

วันก่อนพาย่าไปหาหมอตานัด ระหว่างรอเลยตัดสินใจตรวจเลย วัดความดัน เจาะเลือดตรวจเบาหวาน ทุกอย่างก็เป็นปกติ คุณหมอเขาก็บอกว่าจริง ๆ อาการแบบเนี้ยมันเกิดได้จากหลายสาเหตุ เราก็บอกไปนะว่า เราเคยเป็นซึมเศร้า หมอเขาก็ว่าอาจจะมีส่วน แนะนำให้พบแพทย์เฉพาะทาง หรือไม่ก็ลองติดต่อกับคุณหมอที่เคยรักษาดู เมื่อวานก็เลยโทรคุยกับคุณหมอที่เคยรักษาซึมเศร้า เล่าให้คุณหมอฟังว่าเรามีอาการง่วงนอนมากผิดจากปรกติ ไปตรวจความดันเบาหวานมาแล้วเป็นปรกติดี คุณหมอเขาว่ามาแบบนี้ ๆ เลยอยากจะนัดตรวจ

คุณหมอเขาก็ประเมินเบื้องต้น สรุปว่าเราเป็นปรกติ มันแทบจะไม่มีอาการซึมเศร้าเหลืออยู่แล้ว คุณหมอเขาก็เลยซักว่าไอ้อาการง่วง ซึม ไม่สดชื่นเนี่ย มักจะเป็นตอนไหนบ้าง นี่ก็บอกว่า ทั้งวันเลย มันง่วงอยากนอนมากผิดปรกติ แล้วคุณหมอก็ซักอีกว่า ที่ง่วงจัด ๆ จนอยากนอนเนี่ย มันเกิดขึ้นตอนกินข้าวไหม อาจจะไม่ได้กินหนัก ๆ แต่กินขนม กินของหวานเบา ๆ แล้วง่วงไหม นี่ก็คิดอยู่พักนึง เออ ใช่จริง ๆ พอกินเสร็จมันง่วงจริง ๆ ง่วงมากด้วย แม้จะไม่ได้กินหนัก

แล้วก็นึกออกอีกว่า เดือนที่แล้ว ไอ้ที่นั่งมึนงง เวียนหัว แต่อยู่ดี ๆ ก็หาวออกมาแล้วง่วงนอนน่ะ มันไม่ใช่แค่เพราะวันนั้นนอนผิดเวลา หรือใช้ร่างกายหนักไป แต่ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมงได้ นี่กินชานมไป ก็ถึงบางอ้อเลยค่ะ คุณหมอบอกว่า มันเป็นสภาวะ Postprandial somnolence ภาษาปากคือ Food Coma เป็นอาการง่วงนอนหลังมื้ออาหาร

คุณหมอบอกว่าช่วงนี้คนเป็นโรคนี้กันค่อนข้างเยอะ เพราะตอนโควิดมันทำให้เราทำกิจกรรมอะไรไม่ค่อยได้ ต้องนั่งอยู่กับที่ อยู่แต่กับบ้าน แดดตอนเช้าก็แทบไม่ค่อยโดน เพราะออกไปไหนไม่ค่อยได้ แถมเจอฝุ่น PM 2.5 ต้องงดกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อรักษาปอดกันอีก หรืออย่างตัวนี่เองที่เคยรำเคยเต้น ได้บริหารร่างกายตลอดเวลา แต่อยู่ดี ๆ กลับต้องมานั่งแหมะ ทำงานอยู่กับที่ มันก็เลยมีอาการนี้ ยิ่งอายุใกล้เลข 3 แล้วด้วย ร่างกายก็ถดถอยผิดไปจากตอนเราอายุน้อย ๆ

อย่างที่มึนงงง่วงนอนเพราะกินชานมน่ะ ตอนที่กินชานมนี่ยังเดินทำงานซื้อของอยู่มันเลยไม่รู้สึกง่วงเพลีย แต่พอเวลาผ่านไปสักระยะ ร่างกายเริ่มขบวนการย่อย แล้วนี่ก็มานั่งเฉย ๆ ได้อากาศเย็น ๆ อาการเลยออก 

คุณหมอบอกอีกว่า มันจะง่วงนอน อ่อนเพลีย หลังจากที่เรากินมื้อหนัก ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคาร์โบไฮเดรต ไขมัน มันจะยิ่งทำให้ง่วงเร็ว มันเป็นปรกติของขบวนการย่อยอาหาร พอระบบย่อยเริ่มทำงาน ร่างกายมันจะลดการใช้พลังงานส่วนอื่นลง ตอนเด็ก ๆ ตอนเรายังได้ทำนู่นทำนี่มันไม่รู้สึกหรอก มันมีพลังงานเหลือเฟือ มันมีกิจกรรมกระตุ้นให้ตื่นตัวตลอดเวลา แต่พอเราอายุมากขึ้น จากที่เคยทำงานใช้กำลังในการซ้อมทั้งวัน เราต้องมานั่งทำงานอยู่กับที่มันเลยรู้สึกง่วงเพลียได้ง่าย เพราะมันไม่มีอะไรมากระตุ้นให้ตื่นตัว ยิ่งถ้าเรากินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตหนัก ๆ ไม่ว่าจะข้าว ขนมปัง เส้น ของหวาน น้ำหวาน ร่างกายจะหลั่งอินซูลินออกมาเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ซึ่งกระบวนการนี้สมองหลั่งสาร เซโรโทนิน และ เมลาโทนิน ออกมาด้วย มันทำให้เราคลายกังวลและง่วงนอน

คุณหมอบอกด้วยว่า อาการนี้จริง ๆ มันก็ไม่ได้อันตรายร้ายแรง แต่การง่วง อ่อนเพลีย มันจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานเราลดลง ยิ่งเราต้องทำงานเขียนนิยาย ปักสะดึง มันต้องสมองคิด ใช้ทักษะฝีมือ สายตา งานออกมาไม่ดีหรอก ยิ่งถ้าต้องขับรถยิ่งอันตราย หรืออย่างเราเนี่ย ที่ไปนั่งเวียนวูบ มึนงงที่ป้ายรถเมล์ แบบนี้ก็จะเกิดอันตรายได้เช่นกัน 

คุณหมอได้แนะนำให้พักผ่อนให้พอ แต่ถ้าเราต้องเร่งทำงาน ต้องนอนน้อย แนะนำว่าช่วง 3 ทุ่ม ถึง ตี 2 นี่หลับให้สนิทเลย เพราะร่างกายมันจะหลั่ง โกรทฮอร์โมน และ เซโรโทนิน ซึ่งมันจะช่วยซ่อมแซมร่างกาย และทำให้สดชื่น ไม่อ่อนเพลีย พร้อมทำงานต่อ

ตอนเช้าหรือเย็น ควรให้ร่างกายได้โดนแสงอาทิตย์อย่างน้อย 15 นาที เพราะ UV ตอนเช้าหรือเย็นนั้นไม่แรง และ UVB ในแสงแดด ที่เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นสั้น เมื่อตกกระทบที่ผิวหนังชั้นหนังกำพร้า มันสังเคราะห์วิตามินดี ตัววิตามินดีนี้ มันช่วยดูดซึมแคลเซียมที่เรารับประทานเข้าไป ช่วยเสริมสร้างกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคกระดูกบาง นอกจากนี้ยังควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมความดันโลหิต ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ และยังคลายความเครียด ทำให้ร่างกายสดชื่น ไม่เฉื่อยชา ต้านอาการของโรคซึมเศร้า

อาหารควรจะรับประทานแต่พอดี กินช้า ๆ เคี้ยวให้ละเอียด ระบบการย่อยจะได้ทำงานน้อยลง 

ถ้าต้องใช้สมาธิทำงานหรือออกไปข้างนอก ควรงดมื้อหนัก ๆ ข้าว ขนมปัง อาหารมัน อาหารทอด ของหวาน เว้นการกินแบบนี้ไปก่อน ให้กินแต่น้อย หรือกินผลไม้ทดแทน

จิบน้ำบ่อย ๆ ร่างกายจะได้สดชื่น และจะได้รู้สึกปวดห้องน้ำ จะได้เคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ

แต่มันจะดีมากถ้าเรากลับไปทำงานที่ต้องใช้พลังงานและการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา อาการนี้มันก็จะเบาลง ไม่ง่วงเพลียแบบนี้