มาตรการลงโทษศิลปินจีนที่ละเมิดกฎหมาย____แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งกฎหมายแดนมังกร

        อาชีพศิลปินดาราทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น นักแสดง นักร้อง นางแบบ หรืออาชีพที่เกี่ยวข้องกับวงการสื่อ ถือเป็นอาชีพที่สร้างอิทธิพลต่อความรู้สึกของประชาชน นำความคิด นำกระแสที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม จึงเป็นธรรมดาที่สังคมจะให้ความยำเกรงต่อกลุ่มอาชีพเหล่านี้ “ศิลปินดารา” เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มชนชั้นสูงทางสังคม (Elite Group) ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดี มีการศึกษาสูง และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่หรูหรา มีความอภิสิทธิ์ (Privilege) ได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่นๆ ในสังคม แต่สำหรับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน กลุ่มอาชีพศิลปินดารา ไม่ได้รับการยกเว้นให้อยู่เหนือกฎหมาย

        สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มีนโยบายกระจายความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองภายในประเทศจีนและได้ให้คำมั่นว่าจะกระจายความร่ำรวยให้ทั่วถึง ส่งผลให้ศิลปินดารานักแสดงถูกเพ่งเล็งจากทางการ เนื่องจากรายได้ของดารานักแสดงที่สูงกว่าผู้คนส่วนมากในประเทศทำให้เกิดช่องว่างระหว่างรายได้ที่กว้างมาก รัฐบาลจีนจึงได้จัดระเบียบกฎหมายการแสดงศิลปะ ความบันเทิง และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ด้วยวิธีการกำกับดูแลบุคลากรในวงการบันเทิงให้ตั้งอยู่ในกรอบศีลธรรมและการปฏิบัติตนตามกฎหมาย ยกตัวอย่างคดีของศิลปินดาราชื่อดังที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายและมาตรการทางกระบวนการยุติรรมของภาครัฐ

คดีหลบเลี่ยงภาษีของฟ่านปิงปิง

        ฟ่านปิงปิงทำสัญญาจ้างงานแบบหยิน - หยาง กล่าวคือ สัญญาที่ทำปลอมขึ้นมา โดยใส่รายรับที่น้อยกว่าความเป็นจริงเพื่อการหลีกเลี่ยงภาษี โดยในสัญญาฉบับแรกจะเป็นค่าตัวที่มีจำนวนน้อยกว่าเพื่อใช้ในการยื่นให้กับทางการจีนหรือสรรพากรของจีน ส่วนอีกฉบับนึงจะเป็นจำนวนเงินที่เหลือและไม่ได้นำไปยื่นภาษี ทำให้เสียภาษีเป็นจำนวนที่น้อยกว่าความเป็นจริงอย่างมาก นักแสดงที่ค่าตัวสูงมาก ๆ จะใช้ สัญญาหยิน - หยาง เพื่อให้สามารถเลือกยื่นรายได้เฉพาะส่วนใดส่วนนึงเท่านั้น ซึ่งการที่ยื่นรายได้จริงไม่ครบแบบนี้ถือว่าผิดกฏหมายภาษีจีน ดังนั้นแล้ว สำนักงานสรรพากรของจีนได้มีคำสั่งปรับฟ่านปิงปิงเป็นเงินมากเกือบ 884 ล้านหยวน (ประมาณ 4.2 พันล้านบาท) ในความผิดฐานหลบเลี่ยงภาษีและความผิดอื่น ๆ พร้อมเสียภาษีย้อนหลังอีกกว่า 288 ล้านหยวน (ประมาณ 1.2 พันล้านบาท) พร้อมกับโพสต์จดหมายขอโทษต่อสาธารณะชนผ่าน Weibo โซเชียลมีเดียของจีน นอกจากฟ่านปิงปิงได้รับมาตรการลงโทษทางกฎหมายแล้ว ยังได้รับผลกระทบทางการงานอีก กล่าวคือ ผลงานภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ถูกระงับการออกอากาศ รวมทั้งยังถูกยกเลิกสัญญาว่าจ้างกับแบรนด์สินค้าชั้นนำมากมาย อาทิ Montblanc, De Beers, Guerlain, King Power เป็นต้น

(ฟ่านปิงปิง ซีรีย์ The Empress Of China บูเช็คเทียน 2014)

คดีล่วงละเมิดทางเพศของคริส อู๋

        คริส อู๋/ อู๋อี้ฝาน นักแสดงเชื้อชาติจีน สัญชาติแคนาดา ถูกหญิงสาวรายหนึ่งกล่าวหาผ่านทางโลกออนไลน์ว่า เธอชื่อ“ตู้เหม่ยจู” อายุ 17 ปี ได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ที่บ้านของคริส ซึ่งเธอถูกคริสกดดันให้ดื่มแอลกอฮอล์และโดนล่วงละเมิดทางเพศ ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนพบว่าคริสกระทำผิดจริง ศาลอาญาจีนได้มีคำพิพากษาตัดสินจำคุกคริสในความผิดฐานกระทำชำเรา พร้อมออกคำสั่งเนรเทศออกจากประเทศจีนหลังพ้นโทษ นอกจากคริส อู๋ ได้รับมาตรการลงโทษทางกฎหมายแล้ว ยังได้รับผลกระทบทางการงานอีก กล่าวคือ ช่องทางติดต่อและผลงานบันเทิงต่างๆ ในประเทศจีนถูกลบและยกเลิก บัญชีโซเชียลมีเดียของคริสและสตูดิโอของเขาทั้งหมดถูกปิดตัวลง ผลงานเพลงต่าง ๆ ของเขาก็ถูกลบออกจากแพลตฟอร์มสตรีมมิง ผลงานภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ก็ถูกระงับการออกอากาศ รวมทั้งยังถูกยกเลิกสัญญาว่าจ้างกับแบรนด์สินค้าชั้นนำมากมาย อาทิ LOUIS VUITION, LANCÔME, BVLGARI เป็นต้น

(คริส อู๋ The 2015 Met Gala)

คดีอุ้มบุญของเจิ้งส่วง

        เรื่องราวเริ่มต้นจาก “จางเหิง” อดีตสามีของนางเอกสาว “เจิ้งส่วง” ได้ออกมาเปิดเผยว่าระหว่างที่ใช้ชีวิตสมรสกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งสองได้ว่าจ้างการอุ้มบุญ เนื่องจากในประเทศจีนการอุ้มบุญยังผิดกฎหมาย จึงต้องทำการอุ้มบุญในอเมริกาเพราะสามารถทำได้ในบางมลรัฐ จางเหิงยังเปิดเผยอีกว่า ครรภ์แรกคลอดออกมาเป็นทารกน้อยที่สมบูรณ์ ต่อมาช่วงการอุ้มบุญครรภ์ที่สอง จางเหิงกับเจิ้งส่วงมีปัญหากันจนถึงขั้นต้องเลิกรา เจิ้งส่วงจึงให้แม่อุ้มบุญทำแท้งในขณะที่มีอายุครรภ์ได้ 7 เดือน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ ทารกคนที่สองก็คลอดออกมาตามปกติ อย่างไรก็ตามแม้เจิ้งส่วงจะทำทุกอย่างโดยเคารพกฎหมาย เพราะการอุ้มบุญที่ต่างประเทศไม่ถือว่าผิดกฎหมาย แต่เมื่อสำนักงานบริหารวิทยุและโทรทัศน์ของจีนทราบเรื่องทั้งหมด ก็ได้ออกมาประณามการกระทำของเธอ และได้ตัดสินลงโทษขับไล่เธอออกจากวงการบันเทิงจีน และจะไม่ยินยอมให้มีใบหน้าของเธอในแพลตฟอร์มใดๆ ของสื่อจีน เพราะไม่พอใจเรื่องการอุ้มบุญ รวมถึงการสั่งทำแท้งเมื่อไม่ต้องการเด็ก ถือเป็นการกระทำที่ไร้ศีลธรรมอย่างมากด้วย นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ยังประกาศยกเลิกการเผยแพร่ผลงานของเจิ้งส่วงอีก ยิ่งไปกว่านั้นเจิ้งส่วงยังถูกคณะกรรมการของ Huading Awards ยกเลิกรางวัลที่เจิ้งส่วงเคยได้รับไปก่อนหน้านี้คืน โดยมี 2 รางวัลคือ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมสาขาซีรี่ย์จีนแนวสมัยใหม่ และรางวัลดาราโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมมากที่สุด รวมถึงถูกยกเลิกสัญญาว่าจ้างกับแบรนด์สินค้าชั้นนำยี่ห้อ PRADA

(เจิ้งส่วง ซีรีย์ Love O2O 2016 เวยเวย ยิ้มนี้โลกละลาย)

        จากกรณีตัวอย่างวิเคราะห์ได้ว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ผู้นำรัฐบาลจีน มีวัตถุประสงค์ควบคุมความโด่งดังเป็นพลุแตกของเหล่าดารานักแสดงให้ประพฤติตนอยู่ในกรอบของศีลธรรมอันดีงามและเคารพต่อกฎหมายของประเทศจีน ซึ่งหากศิลปินดารามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกระทำการละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมืองจะส่งผลให้ประชาชนถือเป็นพฤติกรรมเลียนแบบหรือเอาเป็นเยี่ยงอย่าง คาดได้ว่าจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศจีน เพราะรัฐบาลจีนมองว่าบุคคลากรวงการบันเทิงไม่ควรใช้อาชีพและชื่อเสียงของตนเพื่อแสวงหาผลกำไร แต่ต้องส่งเสริมวิชาชีพศิลปินอย่างมืออาชีพ เพื่อให้ดารานักแสดงเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม

*ฟ่านปิงปิงรับโทษพร้อมจ่ายค่าปรับ คดีจบแล้ว ปัจจุบันจึงสามารถกลับมารับงานบันเทิงได้*