ตำนาน-นิทานพื้นบ้าน ภูเขาไฟเมอราปิ (ยอกยาการ์ตา จังหวัดชวากลาง ประเทศอินโดนีเซีย)
ภูเขาไฟเมอราปิ อยู่ที่เมืองยอคยาการ์ตา เป็นภูเขาไฟลูกใหญ่ และมีการระเบิดรุนแรงที่สุด ในประเทศอินโดนีเซีย ผลจากการระเบิดในอดีต ส่งผลให้บุโรพุทโธ และเจดีย์ปรัมบานัน เกิดความเสียหาย จนปัจจุบันมีบางส่วน ที่ยังไม่สามารถประกอบกลับสู่สภาพเดิมได้
เกี่ยวกับภูเขาไฟลูกนี้ ตามตำนานนิทานพื้นบ้าน เล่าว่า แต่ก่อนกาล บนดินแดนแห่งเกาะชวา ยังไม่มีผู้คนอาศัยอยู่มากนัก พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นป่า ซึ่งเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่า และเหล่าวิทยาธรต่างๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง แผ่นดินบนเกาะ ก็เกิดการทรุดเอียง จนน่าเป็นห่วงต่อชีวิตของสรรพสัตว์บนเกาะ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีมนุษย์บางกลุ่ม ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ อย่างไม่เป็นหลักแหล่ง เพื่อหลบหนีภัยจากศัตรู คนกลุ่มนี้ไม่รู้ตัวเลยว่า พื้นดินที่ตนอาศัยอยู่นั้น ทรุดเอียง จนแทบจะจมทะเลทางด้านทิศใต้
ผู้ที่รู้ซึ้งถึงสถานการณ์นี้ดี มีเพียงเหล่าเทวดา ผู้ดูแลสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ ซึ่งอยู่บนสวรรค์เท่านั้น ดังนั้นเหล่าเทวดาดังกล่าว ได้ตกลงใจร่วมกัน ที่จะแก้ปัญหาเกาะที่ทรุดเอียงอย่างไม่รอช้า เพื่อให้สิ่งมีชีวิตบนเกาะ ดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ต่อไปได้ จึงตัดสินใจที่จะถ่วงน้ำหนักของเกาะ ให้มีความสมดุล โดยย้ายเอาภูเขาจามรทวีป (Jamurdwipa) ซึ่งเป็นเขาสูงใหญ่ ที่อยู่ใกล้ทะเลทางตอนใต้ของเกาะ มาไว้บริเวณกลางเกาะเหล่าเทวดา จึงได้แจ้งให้เหล่าวิทยาธร ที่อาศัยอยู่บนภูเขา ทราบถึงการย้ายที่อยู่ครั้งนี้
เหตุการณ์น่าจะจบลงด้วยดี แต่ปรากฏว่า บริเวณป่า ที่จะย้ายภูเขามานั้น มีวิทยาธรสองตน กำลังทำพิธีกรรมสร้างกริชวิเศษอยู่ เหล่าเทวดา จึงให้เทพปัญญริกัณฑ์ และภัทรนารถเป็นเทวฑูต ไปแจ้งวิทยาธรทั้งสอง ให้ย้ายออกจากพื้นที่ไป เมื่อเทวดาทั้งสองเดินทางไปถึง ก็เห็นวิทยาธรสองตน กำลังสร้างกริชด้วยมือเปล่า โดยใช้มือผสมโลหะต่างๆ จนหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งพิธีกรรมในขั้นตอนนี้ ต้องใช้สมาธิอย่างสูง เทวฑูตทั้งสอง จึงยังไม่เข้าไปรบกวน พลางมองดูด้วยความประหลาดใจ หลังจากเหล็กหลอมรวมกัน วิทยาธรทั้งสอง ตีแท่งโลหะให้เป็นกริชด้วยมือเปล่า แท่งเหล็กลุกเป็นไฟแดงวาบ แต่มือของผู้ตี กลับไม่มีรอยไหม้แม้แต่น้อย
วิทยาธรทั้งสอง เมื่อเห็นว่ามีเทวฑูตมาหา จึงหยุดพิธีกรรมลงชั่วคราว เทวฑูตทั้งสอง จึงแจ้งถึงสาเหตุที่มาพบ พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ย้ายออกไป เพื่อเห็นแก่มวลมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตบนเกาะชวาแห่งนี้ วิทยาธรทั้งสองตกตะลึง และหันมามองหน้ากัน ใบหน้าของทั้งสอง แสดงออกอย่างชัดเจน ว่าไม่พอใจต่อคำร้องขอของเหล่าเทวฑูตนัก เนื่องจากพวกตน ยังสร้างกริชวิเศษไม่สำเร็จ จึงไม่สามารถย้ายที่ประกอบพิธีได้ อีกทั้งหากล้มเลิกพิธี จะก่อให้เกิดเหตุร้ายแก่มวลมนุษย์เช่นกัน จึงขอให้เทวฑูต รอให้พวกตนสร้างกริชวิเศษ จนเสร็จสิ้นเสียก่อน
เทวฑูตจึงตอบกลับไปว่า เหตุการณ์ของตนนั้นเป็นเรื่องเร่งด่วน มีผลต่อชีวิตของผู้ที่อยู่บนเกาะนี้ทั้งหมด จึงไม่อาจรอช้าได้ หากวิทยาธรทั้งสองไม่ปฏิบัติตามแล้ว ก็คงต้องใช้กำลังเข้าบังคับ แต่วิทยาธรทั้งสองตน ก็ยังยืนยันความจำเป็นของตน จนเกิดการโต้เถียงกัน
เหตุการณ์ตึงเครียดขึ้น เมื่อเหล่าเทวฑูต เรียกระดมเหล่าทหารเทวดา มาเพื่อขับไล่วิทยาธรทั้งสองออกไป ฝ่ายวิทยาธรทั้งสอง ก็ควบม้าเข้าต่อสู้ และสามารถเอาชนะกองทหารเทวดาได้อย่างรวดเร็ว เทวฑูตทั้งสอง จึงเข้าต่อสู้กับวิทยาธร แบบตัวต่อตัว ด้วยเหตุที่ต่างฝ่ายต่างมีอำนาจใกล้เคียงกัน
การต่อสู้ จึงไม่ปรากฏผลแพ้ชนะ พื้นที่บริเวณโดยรอบ ทั้งต้นไม้และภูเขา พังราบเป็นบริเวณกว้าง เมื่อเหตุการณ์ทำท่าว่าจะไม่จบสิ้น ภัทรคุรุ ผู้ปกครองเหล่าเทวดา จึงให้เทวฑูตกลับมา แล้วสั่งเทพวายุเคลื่อนย้ายภูเขาจามรทวีปโดยทันที เพื่อเป็นการสั่งสอนเหล่าวิทยาธรที่ขัดโองการ เมื่อสิ้นคำสั่ง เทพวายุก็เหาะไปยังทะเลใต้ แล้วเป่าลมออกจากปาก ไปยังภูเขาจามรทวีปครั้งหนึ่ง ฉับพลัน ก็เกิดภายุหมุนขนาดใหญ่ พัดเอาภูเขาทั้งลูก ไปยังจุดที่กำหนดไว้ พร้อมกับทับร่างของวิทยาธรทั้งคู่ จนเสียชีวิตทันที แต่ฤทธิเดชของทั้งคู่ ยังคงไม่หมดไป แถมกริชวิเศษที่ยังสร้างไม่เสร็จ ก็ยังคงแผดรังสีความร้อนอยู่ใต้ภูเขา และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีใครสามารถหยุดได้ นอกจากผู้สร้าง ที่ได้ตายไปแล้ว ยิ่งนานวัน ความร้อนก็ยิ่งเพิ่มขึ้น จนประทุพ่นหินและดิน หลอมละลายออกทางยอดเขา จนกลายเป็นปากปล่องภูเขาไฟ
เขาเมอราปี (อินโดนีเซียและชวา: Gunung Merapi, แปลว่า ภูเขาไฟ) เป็นภูเขาไฟในจังหวัดชวากลาง ประเทศอินโดนีเซีย สูง 2,914 เมตร ชื่อ "เมอราปี" มาจากคำสองคำคือ คำว่า "เมอรู" ซึ่งยืมจากภาษาสันสกฤต หมายถึง "ภูเขา" คือภูเขากลางจักรวาล ตามคติฮินดู กับคำว่า "อาปี" ที่แปลว่า "ไฟ" รวมกันมีความหมายว่า "ภูเขาไฟ"
เขาเมอราปี เป็นหนึ่งในจำนวนภูเขาไฟ 129 ลูก ในอินโดนิเชีย ที่ยังคุกรุ่นอยู่ การระเบิดของมัน เมื่อ พ.ศ. 2537 ได้คร่าชีวิตผู้คนไป 70 ราย ขณะที่การระเบิดใน พ.ศ. 2473 มีผู้เสียชีวิตถึง 1,300 ราย จากนั้นระเบิดเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 เมื่อเวลา 05.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น
เขาเมอราปี กลับมาปะทุอีกครั้ง เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ก่อให้เกิดเถ้าถ่านและกลุ่มควันสูงขึ้นไปในอาอาศ 1.5 กิโลเมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 304 คน ทำให้ทางการ สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ 50,000 คน ก่อนหน้านี้ เกิดแผ่นดินไหวจากภูเขาไฟกว่า 500 ครั้ง และการปะทุของลาวา ที่เพิ่มความถี่มากขึ้น จากเมื่อการประทุ เมื่อ พ.ศ. 2549