ผาวิ่งชู้ ตำนานรักอมตะ ของหนุ่มสาวต่างฐานันดร😭😭😭
ผาวิ่งชู้ เป็นผาหินทรายขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง และมีเสาดินขนาดเรียวเล็ก รูปทรงสวยงาม เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ซึ่งเป็นไปอย่างไม่ต่อเนื่อง ปรากฏเป็นชั้นหิน ที่มีอายุแตกต่างกัน มากกว่าสิบล้านปี และมีการกัดเซาะโดยลม ฝน น้ำ ทำให้ตะกอนที่จับตัวเป็นหินหลุดแยกออกจากกันไป ตามวันเวลา และแฝงไปด้วยตำนานแห่งความรัก ของหญิงชายต่างฐานันดร ซึ่งพร้อมใจกันกระโดดหน้าผาอันสูงชัน เพื่อจบชีวิตสู่แม่น้ำปิงเบื้องล่าง
ในตำนานพิสดารนคร ยังได้กล่าวถึง ผาวิ่งชู้ (ปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่บ้านดงดำ ตำบลฮอด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ และกลายเป็นจุดชมวิวที่งดงามแห่งหนึ่ง ของอำเภอฮอด)
“ผาวิ่งชู้” เรื่องราวของความรักต่างฐานันดร ซึ่งเป็นตำนานรันทดที่เก่าแก่ มาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล “ผาวิ่งชู้” เป็นตำนานพื้นบ้าน ที่เกิดขึ้นมานานนับพันปี
โดยในตำนานพิสดารนคร ตอนหนึ่งระบุไว้ว่า พระนางจามเทวี เมื่อสร้างเมืองพิสดารนครแล้ว ได้มอบหมายให้พระยาแสนโท ปกครองเมืองพิสดารนคร พระยาแสนโท มีธิดาชื่อ พระนางแอ่นฟ้า กับบุตรชื่อ พระนาย สองคนพี่น้อง เมื่อโตเป็นสาวพระนางแอ่นฟ้า ได้เกิดความรักกับ น้อยสิงห์คำ ลูกของเสนาคนหนึ่ง จึงเกิดเป็นปัญหารักต่างฐานันดรขึ้น พระยาแสนโท ได้เรียกคนทั้งสองไปตักเตือนว่า เป็นเรื่องผิดกฎมณเฑียรบาล มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต แต่ด้วยความรัก ที่หนุ่มสาวทั้งสองมีต่อกัน จึงตัดสินใจหนีออกจากเมือง โดยควบม้าสีขาวไปกลางดึก เมื่อพระยาแสนโททราบเรื่อง จึงส่งคนออกติดตามด้วยความกริ้ว และสั่งว่า ถ้าเจอคนทั้งสอง ก็ให้ประหารชีวิตเสีย
เมื่อหนุ่มสาวทั้งสอง ออกจากเมืองไปได้ระยะหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้ากลุ่มใหญ่ ควบตามมาจนแผ่นดินสะเทือน คิดว่าหนีก็คงไม่พ้น ถ้าถูกจับไป ก็ต้องถูกประหารชีวิตแน่ เผอิญตรงนั้น มีหน้าผาสูงชันอยู่ริมแม่น้ำ จึงตัดสินใจที่จะตายด้วยกัน โดยควบม้าโดดลงหน้าผานั้น แต่เมื่อขึ้นไปถึงหน้าผา น้อยคำสิงห์กลับไม่กล้าที่จะควบม้า พาคนรักไปสู่ความตาย พระนางแอ่นฟ้า เห็นจวนตัวแล้ว จึงให้เข้าบังคับม้าเอง ให้น้อยคำสิงห์ซ้อน หลังจากนั้น ก็เอาผ้าขาวผูกตาม้า กระตุ้นให้ทะยานไปข้างหน้าอย่างสุดแรง เมื่อไปสุดหน้าผา ทั้งม้าและคน จึงลอยลิ่วลงสู่แม่น้ำปิงจมหายไป
พระนาย ผู้เป็นน้องชาย ที่ร่วมติดตามมากับทหาร เห็นความตายของพี่สาว อย่างน่าเวทนาเช่นนั้นก็โศกเศร้าเสียใจอย่างหนัก พอกลับลงมาถึงลำห้วย ก็ตรอมใจตายอยู่ตรงนั้น ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ ต้องเสียใจขึ้นไปอีก ที่ต้องเสียลูกรักทั้งสองไปแบบนี้ แต่ก็ทำได้แค่ มาทำบุญทิ้งสิ่งของ ลงไปในสายน้ำ หวังจะให้ไปถึงลูก
ร่างของน้อยคำสิงห์ ลอยไปติดท่าน้ำแห่งหนึ่ง ที่นั้นจึงเรียกกันว่า “บ้านน้อย” ส่วนร่างของพระนางแอ่นฟ้า ลอยไปติดอีกท่าหนึ่ง เรียกกันว่า “บ้านแอ่น” ร่างของม้าที่ลอยไปติด ก็เรียกว่า “ท่าม้า” ทั้งผ้าขาวที่ปิดตาม้า ไปจมที่วังน้ำ ก็ได้ชื่อว่า “วังผ้าขาว” อีกทั้งสิ่งของที่พ่อแม่ทำบุญ ลอยไปตามตามสายน้ำนั้น ก็ทำให้กลายเป็นชื่อหมู่บ้านอีกหลายแห่ง เช่น ข้าวแต๋น เป็น “บ้านผาแตน” หม้อเป็น “บ้านวังหม้อ” สลุง เป็น “บ้านวังสลุง” หรือ “วังลุง” มาจนถึงทุกวันนี้
นี่เป็นตำนานของผาวิ่งชู้ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหน้าผาสูงชันกว่า ๕๐ เมตร อยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง มีลานกว้างประมาณ ๑๐๐ เมตร เป็นจุดชมวิวที่งดงามแห่งหนึ่ง ของนักท่องเที่ยว และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ในปี ๒๕๐๑ โดยผู้กำกับชั้นครู “มารุต” นำแสดงโดยแชมป์มวยไทยคนดัง สุรชัย ลูกสุรินทร์ และเรวดี ศิริวิไล
อ้างอิงจาก:
https://youtu.be/eoHfWkpG9ds?si=lGcz7BJAfX6nQz94
แหล่งที่มาของข้อมูล