'จอร์จผู้เดียวดาย' เต่าเกาะปินตาตัวสุดท้ายที่เคยเหลืออยู่ในโลก
Lonesome George (จอร์จผู้เดียวดาย)
เป็นชื่อของเต่ายักษ์สายพันธุ์ Chelonoidis abingdonii ที่มีถิ่นกำเนิด
บนเกาะปินตา ในหมู่เกาะกาลาปากอส มันถูกค้นพบในปี 1971
เป็นเต่าสายพันธุ์ย่อยชนิดสุดท้ายที่ค้นพบ และกลายมาเป็นสัญลักษณ์
ที่ทรงพลังของความท้าทายที่เผชิญในการอนุรักษ์สัตว์ป่า
เรื่องราวของจอร์จผู้เดียวดาย เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักวิทยาศาสตร์ชาวฮังการี
ชื่อ József Vágvölgyi ค้นพบมันบนเกาะปินตา การค้นพบนี้มีความสำคัญ
เพราะเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าเต่าสายพันธุ์นี้สูญพันธุ์ไปหลายปีแล้ว
เนื่องจากถูกล่ามากเกินไป โดยลูกเรือและถูกสัตว์ต่างถิ่นเข้ามารุกราน
เช่น แพะ ซึ่งทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมัน
จอร์จได้รับการยอมรับในทันทีว่าเป็นเต่าหายาก และถูกส่งไปที่
สถานีวิจัยชาร์ลส์ ดาร์วินบนเกาะซานตาครูซ ในหมู่เกาะกาลาปากอส
ซึ่งนักอนุรักษ์หวังว่าจะหาทางรักษาสายพันธุ์ของมันไว้ได้
ในช่วงหลายทศวรรษต่อมา มีความพยายามหลายครั้งที่จะผสมพันธุ์จอร์จ
กับเต่าตัวเมียจากสายพันธุ์ย่อยที่เกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด เพื่อผลิตลูกผสม
และรักษาพันธุกรรมของจอร์จไว้ จอร์จถูกจับคู่กับเต่าตัวเมียจากเกาะเอสปาโญลา
ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยที่เกี่ยวข้องกัน แต่ความพยายามเหล่านี้
ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากไข่ที่วางนั้นไม่สามารถสืบพันธุ์ได้
ความหวังที่จะหาเต่าเกาะปินตาแท้หรือคู่ที่เข้ากันได้
เพื่อช่วยชีวิตสายพันธุ์ย่อยของจอร์จค่อยๆ ลดน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป
จอร์จผู้เดียวดาย ซึ่งเป็นเต่าตัวสุดท้ายในสายพันธุ์นี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์
ของความพยายามในการอนุรักษ์ระดับนานาชาติ เขาดึงความสนใจ
ไปที่สถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ทั่วโลก และความสำคัญ
ของการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ เรื่องราวของมัน
เน้นถึงผลกระทบอันรุนแรงของกิจกรรมของมนุษย์ รวมถึงการทำลายถิ่นที่อยู่อาศัย
การนำสัตว์พันธุ์ต่างถิ่นเข้ามา และการแสวงประโยชน์ต่อระบบนิเวศและประชากรสัตว์ป่า
การปรากฏตัวของจอร์จดึงดูดผู้เยี่ยมชมจำนวนนับไม่ถ้วน
และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดแคมเปญอนุรักษ์มากมาย แม้จะดำรงอยู่โดดเดี่ยว
แต่มันก็กลายเป็นสัตว์ป่าอันเป็นที่รัก เป็นตัวแทนของความเร่งด่วนของงานอนุรักษ์
และความเป็นจริงอันน่าเศร้าของการสูญพันธุ์ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2012
Lonesome George ได้ตายลง ซึ่งถือเป็นการสูญพันธุ์
อย่างเป็นทางการของสายพันธุ์ย่อยของมัน เชื่อกันว่ามีอายุมากกว่า 100 ปี
ในตอนที่มันตาย แม้ว่าจะไม่สามารถระบุอายุที่แน่นอนได้ก็ตาม
การตายของ Lonesome George ถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญ
ของชุมชนนักอนุรักษ์ และเป็นเครื่องเตือนใจถึงความเปราะบางของชีวิตบนโลก
ร่างของมันได้รับการเก็บรักษาและจัดแสดงอยู่ที่สถานีวิจัย Charles Darwin
ในปัจจุบัน เป็นเครื่องเตือนใจอันน่าสะเทือนใจถึงผลที่ไม่อาจย้อนคืนได้
ของผลกระทบของมนุษย์ต่อธรรมชาติ