ตำนาน "ชายรักชาย 300 นาย" แห่งทหารกรีกโบราณ
ในสังคมกรีกโบราณนั้นค่อนข้างเปิดกว้าง ต่อความสัมพันธ์ทางเพศแบบ "ชายรักชาย" ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติมากๆ จะเห็นได้จากบันทึก ยุคคลาสสิคของกรีกหลายชิ้น ที่บรรยายเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างน่าชื่นชม
1. คู่ไบเซกชวล
ซึ่งหนึ่งในนั่นก็คือวีรบุรุษชาวกรีกโบราณนามว่า "เฮราคลีส" (Heracles) หรือ "เฮอร์คิวลีส" (Hercules) ตามชื่อในเทพปกรณัมโรมัน ที่มีพฤติกรรมที่เหมือนคนในยุคปัจจุบัน ที่เรียกว่าเป็น "ไบเซกชวล" (Bisexual) และคู่ขาของเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหลานของตนเองที่ชื่อ "ไอโอลอส" (Iolaus) นักบังคับม้าผู้เก่งกาจและเป็นคนสนิทของเขา
Hercules_and_Iolaus_mosaic_-_Anzio_Nymphaeum
2. คู่สหายรัก
เช่นเดียวกับ "อคิลลีส" (Achilles) กับ "เปโตรคลัส" (Patroclus) ตามบันทึกของโอเมอร์ กล่าวถึงความเสน่หาที่อคิลลีส มีต่อเปโตรคลัส ที่ทั้งคู่ผูกพันด้วยสัมพันธ์ทางเพส จนถึงขั้นยอมตายเพื่อล้างแค้นให้กับสหายรักของตน เป็นหนึ่งในตำนานที่มีอิทธิอย่างยิ่งต่อวัฒนธรรมกรีก
Achilles bandages the arm of Patroclus
3. การยกย่องคู่รัก
"เพลโต" (Plato) นักปรัชญาของกรีกโบราณ (อยู่ระหว่าง 428-348 ก่อนคริสตกาล) ก็เป็นผู้หนึ่งที่ยกย่องการต่อสู้ร่วมกันของคู่รัก และเห็นว่ากองทัพในอุดมคติคือ กองทัพที่สร้างขึ้นมาจากคู่รัก ที่เข้าร่วมรับกันอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ เพราะเมื่อต้องรบเคียงข้างกัน จะไม่มีใครคนใดคนหนึ่งทิ้งอีกคนไป ในช่วงเวลาแห่งอันตรายได้ลง และแม้ว่าคนที่ขี้ขลาดที่สุดถ้าต้องทำเพื่อคนรัก เขาก็อาจจะกลายเป็นวีรบุรุษได้พอๆกับผู้กล้า เพราะความรักจะเป็นแรงผลักดันให้กับเขา
4. กองทัพสัมพันธ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งธีบส์
ถ้าในปัจจุบันคงพูดถึงคู่รักแบบชาย-หญิง ที่เป็นภาพของทหารที่เป็นชาย 100% ที่ออกไปทำภารกิจเพื่อชาติ แต่สำหรับสังคมกรีกโบราณกลับมองว่า ความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างชาย-ชาย เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ และนั่นก็คือกองทัพชื่อว่า "Sacred Band of Thebes” (สัมพันธ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งธีบส์) พลูตาร์ช (Plutarch, ค.ศ. 49-119) ก่อตั้งขึ้นโดย "กอร์กิดัส" (Gorgidas) ผู้นำทหารแห่งธีบส์เมื่อปี 378 ก่อนคริสตกาล
5. คู่รักชายรักชาย 150 คู่ (300 นาย)
ในกองทัพนี้ประกอบด้วยคู่รักชายรักชาย 150 คู่ (300 นาย) จึงกลายมาเป็นกองทัพในอุดมคติของนักปรัชญาเพลโต แต่ก็เกิดขึ้นหลังจากเขาเสียชีวิตได้ไม่นาน
6. สาบานรักต่อกัน
มันเป็นความสัมพันธ์ที่สานไว้ด้วยมิตรภาพ ที่ไม่อาจจะลบล้างและทำลายได้ ซึ่งพวกเขาต่างละอายที่จะแสดงความขี้ขลาดต่อหน้าคนรัก และทั้งคู่จะยอมเคียงบ่าเคียงไหล่กันเมื่อตกอยู่ในอันตราย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ตำนานของเฮราคลีสกับไอโอลอสข้างต้น ในความสัมพันธ์ของทั้งคู่แบบนี้ อยู่ในสมัยของอริสโตเติล (384-322 ก่อนคริสตกาล) คู่รักจำนวนมากยังเดินทางมายังสุสานของไอโอลอส เพื่อสาบานรักต่อกันด้วย
7. ความยิ่งใหญ่ของกองทัพ 300 นาย
เป็นกองทัพแห่งคู่รักชายรักชาย ที่มีส่วนสำคัญในการทำศึก ที่ทำให้ธีบส์ได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาย เหนือกองทัพสปาร์ตาที่มีกำลังเหนือกว่า และได้ชื่อว่ามีอำนาจทางการทหารสูงสุดในนครรัฐของกรีก ในศึกแห่งลุกทรา (Battle of Leuctra) ในปี 371 ก่อนคริสตกาล
8. พล็อตเรื่องหนัง 300
ฟังดูคล้ายๆกับหนังเรื่อง "300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก" หนังอเมริกัน แต่กลับกันตรงที่หนังอเมริกัน เอาโครงเรื่องมาจาก "ศึกแห่งเธอร์โมพิเล" (Battle of Thermopylae) จะเป็นฝ่ายทหารสปาร์ตาแทนที่มี 300 นาย และไม่ได้บอกถึงเพศสภาพของเหล่านายทหารอย่างชัดเจน แต่เน้นการนำเสนอแบบความเป็นชาย และเปลี่ยนศัตรูเป็นพวกเปอร์เซียแทน
9. จุดจบกองทัพคู่รักชายรักชาย
กองทัพสัมพันธ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งธีบส์ คู่รักชายรักชายอยู่รอดมาได้ราว 4 ทศวรรษ ก่อนจะถูกบดขยี้โดยกองทัพของ "กษัตริย์ฟิลิปที่ 2" แห่งมาซิโดเนีย เมื่อราวปี 338 ก่อนคริสตกาล ในศึกแห่ง "คาโรเนีย" (Battle of Chaeronea) ตามบันทึกของพลูตาร์ช โดยนำทัพโดย "เจ้าชายอเล็กซานเดอร์" ที่ภายหลังได้เป็นกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช เป็นพระราชโอรสของกษัตริญฟิลิปเอง ที่สามารถเอาชนะกองทัพธีบส์ไปอย่างราบคาบเป็นคนแรก
รูปภาพ : google