ภาพเก่าของเมืองลาสเวกัส เมืองแห่งความบันเทิงชื่อดังระดับโลก
ในปี 1947 ลาสเวกัสเป็นเมืองเล็กๆ ในทะเลทราย
ที่เริ่มเปลี่ยนโฉมเป็นเมืองหลวงแห่งความบันเทิงที่หรูหรา
ประชากรเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 24,000 คน
เนื่องมาจากชื่อเสียงของเมืองที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในด้านการพนันที่ถูกกฎหมาย
รีสอร์ทสุดหรู และสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่คึกคัก แม้จะเล็กเมื่อเทียบกับเขตมหานครใหญ่
แต่ลาสเวกัสก็กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เหมือนใคร
โดยมอบความบันเทิงและการหลีกหนีจากความวุ่นวายที่น่าดึงดูด
The Las Vegas Strip (ลาสเวกัสสตริป) แม้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
แต่ก็เริ่มกำหนดเอกลักษณ์ของเมือง รีสอร์ทในช่วงแรกๆ เช่น
เอล แรนโช เวกัส (เปิดในปี 1941) และ ลาสต์ ฟรอนเทียร์ ให้บริการลูกค้า
ที่มองหาความหรูหราและความบันเทิงที่เพิ่มมากขึ้น จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้น
เมื่อมีการเปิด โรงแรมฟลามิงโก ในช่วงปลายปี 1946 รีสอร์ทแห่งนี้
ได้รับเงินทุนจากแก๊งค์สเตอร์ชื่อดังอย่าง บักซี ซีเกล เป็นโรงแรมหรูหรา
ที่สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการต้อนรับแขกในลาสเวกัส
บรรยากาศหรูหราพร้อมอาหารชั้นดี การแสดงสด และพื้นที่คาสิโนที่กว้างขวาง
ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสมัยที่หรูหราและทะเยอทะยานยิ่งขึ้นของเดอะสตริป
แม้ว่าการมีส่วนร่วมของซีเกลจะนำเงาของอาชญากรรมที่ก่อขึ้น
มาสู่การพัฒนาเมือง แต่ภาพที่เขาเห็นลาสเวกัสในฐานะจุดหมายปลายทางที่หรูหรา
ได้กลายเป็นแม่แบบสำหรับโครงการในอนาคต
การเติบโตของเมืองในช่วงทศวรรษปี 1940 มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
กับทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ การก่อสร้างเขื่อนฮูเวอร์ในช่วงทศวรรษปี 1930
ทำให้ลาสเวกัสกลายเป็นศูนย์กลางสำคัญในภูมิภาคนี้ โดยดึงดูดคนงาน
และนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรม ฐานทัพอากาศเนลลิส
ซึ่งก่อตั้งขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่น
และดึงดูดบุคลากรทางทหารและครอบครัวของพวกเขาเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การเติบโตหลังสงครามยังส่งผลให้การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
เนื่องจากชาวอเมริกันแสวงหาโอกาสในการพักผ่อนหย่อนใจและความบันเทิง
ลาสเวกัสในปี 1947 เริ่มสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง
ในฐานะเมืองที่มีกลิ่นอายของตะวันตก แต่ผสมผสานความทันสมัย
และความซับซ้อนเข้าด้วยกัน ไฟนีออนประดับประดาถนนเดอะสตริป
สร้างบรรยากาศยามค่ำคืนอันตระการตาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ
เมืองนี้ยังคงมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับรากฐานของพรมแดน
แต่การพัฒนาด้านความบันเทิงและการต้อนรับทำให้เมืองนี้
กลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกสำหรับการพนัน การแสดงสด และการดื่มด่ำ
ในปี 1947 ลาสเวกัสได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะเมืองพักผ่อน
และความตื่นเต้นที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งแตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในอเมริกา
ลาสเวกัสไม่ได้เป็นเพียงจุดแวะพักระหว่างทางในทะเลทรายเนวาดาอีกต่อไป
แต่เป็นจุดหมายปลายทางในแบบของตัวเอง ซึ่งวางรากฐาน
สำหรับการก้าวขึ้นสู่ชื่อเสียงระดับนานาชาติในฐานะ
“เมืองหลวงแห่งความบันเทิงของโลก”













