ตำนานรัก ห้วยจิกเนิ้ง เรื่องราวความรัก ระหว่างคนธรรมดา กับชาวเมืองบังบด
ตำนานรักห้วยจิกเนิ้ง เป็นเรื่องเล่า ที่เกี่ยวข้องกับความรักต้องห้ามระหว่าง มนุษย์ธรรมดา กับ ชาวเมืองบังบด ซึ่งเป็นดินแดนลี้ลับ ที่ซ่อนอยู่ในอีกมิติหนึ่ง ตามตำนานพื้นบ้านของไทย โดยเฉพาะในภาคอีสาน เมืองบังบด มักถูกกล่าวถึงว่า เป็นเมืองของผู้วิเศษ หรือดวงวิญญาณ ที่ยังไม่ไปสู่ภพภูมิอื่น
ณ ท้ายหมู่บ้านมหาชัย มีห้วยจิกเนิ้ง ซึ่งเป็นหนองน้ำลึก ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ มาหลายชั่วอายุคน เล่าขานกันว่า หนองน้ำแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่สถิตของดวงวิญญาณ หรืออาจเป็นทางเชื่อมไปสู่ดินแดนลึกลับที่ ไม่ใช่โลกของมนุษย์
หญิงสาวปริศนาแห่งห้วยจิกเนิ้ง เป็นที่เล่าขานกันว่า ทุกวันพระ หรือวันศีล (วันพระขึ้น 8 ค่ำ, 15 ค่ำ และวันแรม 8 ค่ำ) จะมี กลุ่มหญิงสาวหน้าตางดงาม ผิวพรรณผ่องใส ราวกับนางฟ้า แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มาปรากฏตัวที่ตลาดเช้าของหมู่บ้าน
พวกเธอจะมาซื้อของ เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง ดอกไม้ และธูปเทียน เพื่อใช้ในการทำบุญใส่บาตรที่วัด ทุกครั้งที่พวกเธอเดินผ่าน จะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยตามลม และถึงแม้พวกเธอจะพูดจาไพเราะ และเป็นกันเอง แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเธอมาจากไหน
ความลึกลับที่ชาวบ้านรับรู้ สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้น่าขนลุกคือ...
ไม่มีใครเคยเห็นพวกเธอเดินออกจากหมู่บ้าน หรือกลับไปทางไหน
พวกเธอไม่เคยทานอาหาร หรือดื่มน้ำจากร้านค้า
เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นสูง หญิงสาวกลุ่มนี้ก็จะค่อย ๆ หายไป
ชาวบ้านหลายคนสงสัย และพยายามสืบหาว่าพวกเธอเป็นใคร แต่ทุกครั้งที่มีคนพยายามติดตาม หรือจับตาดูพวกเธออย่างใกล้ชิด พวกเธอก็จะค่อย ๆ เลือนหายไปต่อหน้าต่อตา
ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเชื่อว่า พวกเธอเป็นชาวเมืองบังบด ที่เดินทางมาทำบุญในโลกมนุษย์ เชื่อกันว่าเมืองบังบด เป็นเมืองของดวงวิญญาณ ที่ยังคงทำกรรมดี เพื่อรอการไปเกิดใหม่
บางคนบอกว่า หญิงสาวเหล่านี้ อาจเกี่ยวข้องกับคำแพง หญิงสาวในตำนานรักของห้วยจิกเนิ้ง และพวกเธอ อาจจะเป็นวิญญาณ ที่ยังคงทำบุญเพื่อไถ่บาป จากความรักต้องห้ามในอดีต
ตามตำนานแห่งความรักที่ไม่สมหวัง เล่าว่า กาลครั้งหนึ่ง มีชายหนุ่มชาวบ้านธรรมดานามว่า เคน ผู้มีอาชีพหาปลา เขามักจะมานั่งพักที่ห้วยจิกเนิ้งเป็นประจำ วันหนึ่ง เขาได้พบกับหญิงสาวลึกลับนามว่า คำแพง ซึ่งมีใบหน้างดงาม เกินกว่าหญิงสาวทั่วไป ผิวของเธอขาวนวลเปล่งประกาย ราวกับไม่ได้เป็นมนุษย์ธรรมดา
ทุกครั้งที่เคนไปหาปลา คำแพงจะมาปรากฏตัว และทั้งสองได้พูดคุยกัน จนเกิดเป็นความรักลึกซึ้ง แต่ คำแพงมีข้อห้ามสำคัญ ที่เธอเตือนชายหนุ่มเสมอว่า
“ห้ามถามว่าตนเป็นใคร มาจากไหน”
“ห้ามติดตามเธอไปหลังพระอาทิตย์ตก”
ความรักระหว่าง **เคน** และ **คำแพง** เติบโตขึ้นทุกวัน ราวกับโชคชะตาลิขิตให้พวกเขาพบกัน แต่กลับมีเส้นแบ่งบางอย่างที่ขวางกั้นเอาไว้ **กฎเกณฑ์ที่คำแพงตั้งไว้** ยิ่งนานวันก็ยิ่งกลายเป็นเงามืดในใจของเคน
"เหตุใดเธอจึงต้องเร่งจากไปทุกค่ำคืน?"
"เหตุใดเธอถึงไม่ให้เขารู้ว่าที่แท้เธอเป็นใคร?"
คำถามเหล่านี้ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในจิตใจของชายหนุ่ม จนในที่สุด ความรักก็พ่ายแพ้ให้กับความสงสัย คืนหนึ่ง แสงจันทร์สาดส่องลงบนผืนน้ำของห้วยจิกเนิ้ง เคนนั่งมองใบหน้าของคำแพง ขณะเธอพูดคุยกับเขา รอยยิ้มของเธอยังคงงดงาม แต่แววตากลับแฝงไปด้วยความเศร้า เขารู้ว่า เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เธอจะต้องจากไปอีกครั้ง
และในคืนนั้นเอง เคนตัดสินใจละเมิดคำสัญญา เมื่อคำแพงเอ่ยลา และหันหลังเดินจากไป เคนก็ตัดสินใจแอบติดตามเธอไปอย่างเงียบเชียบ หัวใจของเขาเต้นระรัว ไม่แน่ใจว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่นั้น ถูกต้องหรือไม่ แต่ความอยากรู้ ผลักดันให้เขาก้าวเดินต่อไป
ความจริงที่ถูกเปิดเผย เคนเดินตามคำแพงไปจนถึง ริมหนองน้ำห้วยจิกเนิ้งที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงลมพัด และเสียงน้ำกระเพื่อมเบา ๆ คำแพงยืนนิ่งอยู่ที่ขอบน้ำ ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ก้าวลงไปในหนองน้ำลึก
ทันใดนั้น หมอกสีขาวขุ่นลอยขึ้นจากผิวน้ำ และเผยให้เห็นเงาราง ๆ ของเมืองอีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ภายใต้ห้วงน้ำลึก เมืองที่ไม่ใช่ของมนุษย์ เมืองที่เร้นลับเกินกว่าคนธรรมดาจะเข้าถึง
เคนจ้องมองภาพตรงหน้า ร่างของคำแพงเริ่มเปล่งแสงเรืองรอง ผิวของเธอ ที่เคยงดงามยิ่งกว่าหญิงสาวทั่วไป เริ่มซีดจาง และเปลี่ยนไปเป็นรูปลักษณ์ ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เธอไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นชาวเมืองบังบด ดินแดนแห่งเงาและวิญญาณ ที่ซ่อนอยู่ในอีกมิติหนึ่งของโลก
เมื่อคำแพงรู้ว่า เคนแอบติดตามเธอ ดวงตาของเธอ เต็มไปด้วยความตกใจและความเจ็บปวด
"ทำไมท่านถึงทำเช่นนี้..." เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"เราสองคนต่างเกิดมาอยู่กันคนละโลก... เมื่อท่านละเมิดคำสัญญา ข้าก็ไม่มีสิทธิ์กลับมาพบเจอท่านอีกต่อไป..."
ทันใดนั้นเอง เสียงคำรามของกระแสน้ำวน ก็ดังกึกก้องขึ้น หนองน้ำที่เคยสงบนิ่งเริ่มไหวระริก ราวกับมีพลังบางอย่าง กำลังดึงคำแพงให้กลับไป เคนพยายามจะวิ่งเข้าไปหาเธอ แต่กลับถูกแรงลึกลับบางอย่างผลักกระเด็นออกมา คำแพงหันมามองเขาเป็นครั้งสุดท้าย ดวงตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
"ข้ารักท่าน... แต่ข้าไม่อาจอยู่กับท่านได้อีกแล้ว..."
เธอเอื้อมมือออกมา แต่ในพริบตา ร่างของเธอก็ถูกดูดลงไปในกระแสน้ำ ทิ้งไว้เพียงเสียงสะอื้นไห้ ที่ค่อย ๆ จางหายไปกับสายลม
หลังจากคืนอันเป็นโศกนาฏกรรม เคนไม่เคยกลับมาเป็นคนเดิมอีกเลย เขาใช้เวลาทุกค่ำคืน นั่งเฝ้าริมห้วยจิกเนิ้ง เฝ้ารอให้คำแพงกลับมา แม้จะรู้ว่ามันไม่มีวันเป็นไปได้
จนในที่สุด เขาก็ตรอมใจ และสิ้นลมหายใจตรงริมหนองน้ำแห่งนั้น และว่ากันว่า ในบางคืนที่พระจันทร์เต็มดวง เสียงสะอื้นของชายหนุ่ม ยังคงดังก้องมาจากห้วยจิกเนิ้ง ราวกับเฝ้ารอคอยคนรัก ที่ไม่มีวันหวนคืน...
หลังจากคืนที่เคนจากไป สิ่งแปลกประหลาดก็เกิดขึ้นกับหมู่บ้าน ชาวบ้านไม่เคยพบเห็นคำแพงอีกเลย กลุ่มหญิงสาวลึกลับ ที่เคยมาทำบุญในวันพระ ก็หายสาบสูญไปพร้อมกัน ตลาดเช้าในวันศีล ที่เคยมีเสียงพูดคุยของหญิงสาวเหล่านั้น กลับเงียบเหงาไร้เงาของพวกเธอ แม้แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ ที่เคยพูดคุยกับพวกเธอ ก็รู้สึกได้ว่า บางสิ่ง ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล
ห้วยจิกเนิ้ง ที่ไร้เงาแห่งความรัก หนองน้ำที่เคยเป็นที่พบรักของเคนและคำแพง กลับกลายเป็นสถานที่เงียบเหงา ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ในยามค่ำคืน บางครั้ง... ผู้คนที่เดินผ่านจะได้ยิน เสียงลมพัดแผ่วเบา คล้ายเสียงสะอื้นของหญิงสาว ว่ากันว่า คำแพงยังคงอยู่ที่นั่น รอคอยชายคนรักของเธอ แต่ในโลกที่ทั้งสอง ไม่อาจพบกันได้อีก









