ตำนาน หนองงาช้าง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีชายชราผู้ใจดีชื่อว่า "ตาขุน" เขาเป็นผู้มีคาถาอาคมแก่กล้าและจิตใจดีงาม ชอบช่วยเหลือผู้คน ไม่ว่าจะเป็นการรักษาผู้ป่วย การช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน หรือแม้แต่การปกป้องหมู่บ้านจากภัยร้าย ด้วยความเมตตาของเขา ผู้คนต่างเคารพรักและนับถือ ตาขุนมีช้างคู่ใจตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นช้างเผือกที่หายากยิ่งและเป็นมงคลสำหรับบ้านเมือง ตามตำราคชศาสตร์ ช้างเผือกเป็นช้างศักดิ์สิทธิ์ มีลักษณะพิเศษคือผิวสีขาวนวล ดวงตาเป็นประกาย และมีพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ เจ้าช้างตัวนี้ยังมีงาสีทองคำส่องประกายเป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า เศรษฐี หรือแม้แต่ขุนนาง ต่างต้องการได้งาทองคำของมันมาไว้ในครอบครอง แต่ตาขุนรักช้างของเขาเสมือนลูก ไม่ยอมขายให้ผู้ใด
ข่าวลือเรื่องช้างงาทองคำแพร่กระจายไปไกล จนไปถึงหูของกลุ่มโจรที่หมายจะชิงงาทองคำให้ได้ พวกมันวางแผนปล้นในคืนวันพระใหญ่ หวังใช้ความมืดและความเงียบเป็นโอกาสลงมือ
คืนวันพระใหญ่มาถึง ขณะที่ตาขุนและช้างกำลังพักผ่อน กลุ่มโจรจำนวนมากบุกเข้าปล้น เสียงปืนดังสนั่นไปทั่ว ตาขุนพยายามใช้คาถาอาคมปกป้องช้างและบ้านของตน แต่พวกโจรมีจำนวนมากเกินไป ช้างตกใจและเกิดอาการตกมัน มันออกแรงสะบัดจนโซ่ที่ล่ามอยู่ขาดสะบั้น จากนั้นก็พุ่งเข้าทำร้ายเหล่าโจรที่บุกเข้ามา ส่งผลให้พวกมันแตกกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง บ้างก็ล้มลุกคลุกคลาน บ้างก็กระโดดลงหนองน้ำเพื่อหนีเอาตัวรอด
ตาขุนตกใจและหวาดกลัว เมื่อเห็นช้างของตนคลุ้มคลั่ง จึงรีบวิ่งตามไปเพื่อปลอบโยน แต่ช้างที่กำลังตกมันเข้าใจผิด คิดว่าตาขุนเป็นหนึ่งในคนร้าย จึงใช้เท้ากระทืบตาขุนจนสิ้นใจริมหนองน้ำ
พอช้างหายตกมัน มันได้สติและรู้ตัวว่าเผลอทำร้ายผู้เป็นที่รักที่สุดไปแล้ว มันคุกเข่าลงหมอบกราบร่างไร้วิญญาณของตาขุนด้วยความเศร้าเสียใจ จากนั้นมันเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ริมหนองน้ำ ใช้งาทองคำกระแทกกับต้นไม้อย่างแรงจนงาหัก จากนั้นมันใช้เท้าเตะงาทองคำทั้งสองข้างให้กระเด็นตกลงไปกลางหนองน้ำ
ตามโบราณที่กล่าวกันมา การนำงาช้างที่หลุดออกมาโดยธรรมชาตินั้น จะต้องประกอบพิธีพลีขอต่อเทวดาเจ้าป่าเจ้าเขา โดยมีการตั้งเครื่องบัตรพลีบวงสรวงตามแต่จะหาของเซ่นไหว้ได้ จากนั้นจึงสามารถนำมาครอบครองหรือเก็บรักษาไว้ได้ บางคนเมื่อได้งาทองคำมาแล้วก็จะนำไปแกะเป็นพระเครื่องหรือรูปเคารพอื่น ๆ ตามความเชื่อ หากเน้นพุทธคุณไปทางคงกระพันชาตรีและมหาอุด ก็มักจะนิยมแกะเป็น “หนุมาน องคต พาลี” ตัวละครเอกในรามเกียรติ์ หรือหากเน้นทางโชคลาภ ก็มักจะนิยมแกะเป็นรูป “นางกวัก” หรือ “พระสิวลี” จากนั้นจึงนำไปให้พระเกจิผู้เชี่ยวชาญด้านอาคมลงอักขระ และประกอบพิธีปลุกเสก เพื่อเพิ่มอิทธิฤทธิ์และพุทธคุณให้แก่เครื่องรางนั้น ๆ
จากตำนานดังกล่าว หนองน้ำที่งาทองคำตกลงไปจึงถูกเรียกขานกันว่า "หนองงาช้าง" สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนองน้ำธรรมดา แต่เป็นหนองน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อกันว่าเป็นที่สิงสถิตของสิ่งลี้ลับและอำนาจเหนือธรรมชาติ ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเล่าว่า บางคืนจะมีแสงเรืองรองลอยขึ้นมาจากกลางหนองน้ำ และเสียงร้องโหยหวนของช้างดังก้องไปทั่ว ผู้อาวุโสเชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของช้างเผือกที่ยังคงเฝ้ารักษาสถานที่แห่งนี้ และคอยคุ้มครองงาทองคำที่จมอยู่เบื้องล่าง ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของผู้ที่มีใจโลภและไม่บริสุทธิ์


















