ไมโครรีไทร์เมนต์ Micro-Retirement เทรนด์ใหม่ จาก Gen Z “ทำงานไปพักไป เพราะชีวิตดี ๆ มีได้ไม่ต้องรอ”
ไมโครรีไทร์เมนต์ Micro-Retirement คือ การหยุดพักจากงานชั่วคราว เป็นระยะเวลาหนึ่ง อย่างเช่น 3 เดือน 6 เดือน หรือเป็นปี เพื่อใช้เวลาไปกับกิจกรรมที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว พัฒนาทักษะใหม่ หรือเพียงพักผ่อนอยู่บ้าน ทำสิ่งที่ตัวเองรักระหว่างช่วงชีวิตการทำงาน แทนที่จะรอจนเกษียณอายุ
ทำไมไมโครรีไทร์เมนต์ Micro-Retirement ได้รับความนิยมในหมู่ Gen Z
- หนี Burnout Gen Z เติบโตมาในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจผันผวน ค่าครองชีพสูง และตลาดแรงงานไม่แน่นอน หลายคนรู้สึกเครียด และหมดไฟเร็วกว่ารุ่นก่อน ๆ โดยจากรายงานของ Mental Health UK ปี 2025 พบว่า 1 ใน 5 ของคนทำงานมักต้องการลางาน เนื่องจากภาวะหมดไฟ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากในกลุ่มแรงงานของสหราชอาณาจักร
- Work-Life Balance พวกเขาให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต ไม่ต้องการทำงานหนักไปจนแก่แล้วค่อยใช้ชีวิต แต่เลือกพักเป็นช่วง ๆ แล้วกลับมาทำงานใหม่ ผลสำรวจของธนาคาร ‘ซานตันเดอร์ (Santander)’ ในอังกฤษ ยังชี้ให้เห็นว่า คนรุ่น Gen Z ส่วนใหญ่ไม่คิดวางแผนที่จะทำงานแบบ 9-5 หรือ การทำงานตามออฟฟิศที่เริ่มทำงานตั้งแต่ 00-17.00 น. ตลอดชีวิตการทำงานอีกต่อไป แต่เลือกที่จะมองหาทางเลือกที่ยืดหยุ่นกว่า และให้ความสำคัญกับสมดุลชีวิตการทำงานมากขึ้น
- โอกาสที่เปิดกว้าง เทคโนโลยี และ Gig Economy ทำให้การหางานใหม่ง่ายขึ้น ประกอบกับการทำงานระยะไกล (Work from Home) ทำให้พวกเขาสามารถหารายได้เสริม หรือทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างพักงานได้
- มุมมองที่เปลี่ยนไปขององค์กร หลายบริษัทเริ่มเปิดรับแนวคิดนี้ อย่างเช่น Anaïs Felt ที่ใช้ Micro-Retirement แล้วกลับไปหางานใหม่ พบว่า องค์กรด้านเทคโนโลยีไม่ได้มองว่าการพักงานเป็นเรื่องเสียหาย แต่กลับชื่นชม และอยากทำตาม
Micro-Retirement ต่างจากการลาพักร้อนอย่างไร?
ดร.จอร์จ ซิค (Dr. George Sik) นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพ ได้อธิบายความแตกต่างระหว่าง Micro-Retirement กับการลาพักร้อนปกติว่า
Micro-Retirement แตกต่างจาก วันหยุดพักผ่อน หรือ แม้แต่การพักงานแบบมาตรฐาน เพราะ วันหยุดพักผ่อนมักเป็นการหลีกหนีระยะสั้น ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ แม้จะได้พักผ่อน แต่ไม่ช่วยให้เกิดการรีเซตสภาพร่างกาย และจิตใจอย่างลึกซึ้งพอที่จะต่อสู้กับภาวะหมดไฟได้ หลายคนแม้จะได้พักผ่อนในวันหยุดแล้ว ก็ยังคงรู้สึกเครียดในที่ทำงาน หรือกลับเข้าสู่วงจรความเครียดได้อย่างรวดเร็ว
Micro-Retirement เป็นวิธีเชิงรุกในการต่อสู้กับภาวะหมดไฟ ช่วยให้ทุกคนชาร์จพลังอย่างเต็มที่ เป็นการให้พื้นที่สำหรับการพักผ่อน การเติบโตส่วนบุคคล หรือการท่องเที่ยวที่ดี
เตรียมตัวอย่างไรหากอยากลอง Micro-Retirement?
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ‘อบิด ซาลาฮี (Abid Salahi)’ ผู้ร่วมก่อตั้ง FinlyWealth บริษัทให้ความรู้และการบริการด้านการเงิน ได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการลอง Micro-Retirement เอาไว้ดังนี้
1.สร้างฐานการเงินให้แข็งแกร่งก่อน Micro-Retirement ผู้ที่ต้องการหยุดพักงานชั่วคราว ควรมีเงินออมสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพอย่างน้อย 12 เดือน แยกจากเงินฉุกเฉิน เพราะคนที่ใช้ช่วงเวลาพักงานโดยมีเงินสำรองน้อย มักจะต้องกลับมาทำงานเร็วกว่ากำหนดถึง 82%
2.มีทักษะความสามารถที่ตลาดต้องการ คนที่ประสบความสำเร็จในการกลับเข้าสู่ตลาดงานหลัง Micro-Retirement มักใช้เวลา 5-10 ชั่วโมงต่อเดือนระหว่างที่หยุดพัก ในการฝึกฝนทักษะความสามารถให้ตรงความต้องการของตลาดอยู่เสมอ คนที่สนใจ Micro-Retirement ควรหมั่นเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะ ช่วยให้ลดระยะเวลาในการหางานลงได้เมื่อต้องการกลับเข้าสู่ตลาดงานอีกครั้ง
3.มีแผนสำหรับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ก่อนจะตัดสินใจพักงานชั่วคราว ควรกันเงิน 15,000-20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 5-7 แสนบาท ไว้เป็นค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพโดยเฉพาะระหว่างการพักงาน 1 ปี เพื่อไม่ให้ต้องลำบากในภายหลังเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย
แม้ Micro-Retirement จะไม่ใช่ทางเลือกสำหรับทุกคน แต่นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างสมดุลในชีวิต ลดความเครียดจากการทำงาน และมีเวลาทำสิ่งที่รักโดยไม่ต้องรอถึงวัยเกษียณ หากมีการวางแผนที่ดีทั้งในเรื่องการเงินและอาชีพ Micro-Retirement สามารถช่วยให้เรามีชีวิตการทำงานที่ยั่งยืน และมีความสุขมากขึ้นในระยะยาวได้


