Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เปิดตำนาน 10 คลื่นปีศาจสุดโหดแห่งท้องทะเล

เนื้อหาโดย teetete

 

        สวัสดีค่ะทุกคน! เคยไหมคะที่จู่ๆ ทะเลที่ดูเหมือนจะสงบ กลับกลายร่างเป็นอสูรร้าย สร้างคลื่นสูงเสียดฟ้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว? นั่นแหละค่ะคือสิ่งที่เรียกว่า "คลื่นยักษ์" หรือ "คลื่นปีศาจ" (rogue waves) ที่นักเดินเรือต่างหวาดกลัวกันนัก วันนี้ในฐานะนักเขียนสายผจญภัยทางทะเล (ในจินตนาการ! 😊) จะพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 คลื่นยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่บางทีคุณอาจจะยังไม่เคยได้ยินเรื่องราวของพวกมันมาก่อน เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเรื่องราวที่จะเล่านี้ทั้งน่าทึ่งและน่าหวาดเสียวในเวลาเดียวกันเลยค่ะ!

1. คลื่นร็อกกอลล์ (Rockall Wave), ปี 1943: ย้อนกลับไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีรายงานว่าเกิดคลื่นยักษ์สูงประมาณ 34 เมตร (112 ฟุต) บริเวณใกล้กับเกาะร็อกกอลล์ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ คลื่นลูกนี้ซัดเข้าใส่เรือดำน้ำของอังกฤษอย่างจัง โชคดีที่เรือไม่ได้รับความเสียหายร้ายแรง แต่ก็เป็นเครื่องเตือนใจถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของท้องทะเล

2. คลื่นอ่าวลิตูยา (Lituya Bay Megatsunami), ปี 1958: ถึงแม้จะไม่ใช่คลื่นยักษ์ที่เกิดจากลมและทะเลโดยตรง แต่เหตุการณ์นี้ก็ต้องถูกบันทึกไว้ เมื่อเกิดแผ่นดินถล่มครั้งใหญ่ในอ่าวลิตูยา รัฐอะแลสกา ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สูงถึง 524 เมตร (1,720 ฟุต) ซึ่งถือว่าเป็นคลื่นที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา! คลื่นนี้กวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าไปจนหมด

3. คลื่นที่ประภาคารฟาสต์เน็ต (Fastnet Lighthouse Wave), ปี 1985: ประภาคารที่ตั้งอยู่บนโขดหินกลางทะเลนอกชายฝั่งไอร์แลนด์แห่งนี้ ต้องเผชิญกับคลื่นยักษ์สูงประมาณ 48 เมตร (157 ฟุต) ในปี 1985 คลื่นลูกนี้ซัดเข้าใส่ประภาคารอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างอย่างมาก

4. คลื่นดรอปเนอร์ (Draupner Wave), ปี 1995: คลื่นลูกนี้ถือเป็นคลื่นยักษ์ลูกแรกที่ได้รับการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ เกิดขึ้นที่แท่นขุดเจาะน้ำมันดรอปเนอร์ในทะเลเหนือ วัดความสูงได้ถึง 26 เมตร (85 ฟุต) ในขณะที่คลื่นโดยรอบมีความสูงเพียง 12 เมตร การปรากฏตัวของคลื่นดรอปเนอร์ทำให้ความเชื่อเรื่องคลื่นปีศาจที่เคยเป็นเพียงตำนาน เริ่มได้รับการยอมรับในวงการวิทยาศาสตร์

5. คลื่นควีนเอลิซาเบธ 2 (Queen Elizabeth 2 Wave), ปี 1995: ในปีเดียวกันนั้นเอง เรือสำราญสุดหรูควีนเอลิซาเบธ 2 ก็ต้องเผชิญหน้ากับคลื่นยักษ์ที่มีความสูงถึง 29 เมตร (95 ฟุต) ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ระหว่างที่เรือกำลังเผชิญกับพายุเฮอริเคนหลุยส์ กัปตันเรือในขณะนั้นเล่าว่าคลื่นลูกนี้สูงเท่าตึก 9 ชั้นเลยทีเดียว!

6. คลื่นที่บันทึกโดยดาวเทียม (Satellite-Detected Waves), ปี 2001: ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ดาวเทียมได้ตรวจพบคลื่นยักษ์จำนวนมากทั่วโลก บางลูกมีความสูงกว่า 30 เมตร (100 ฟุต) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่เราเคยคิด

7. คลื่นบาเลียริก (Baleric Wave), ปี 2006: ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ขึ้นชื่อเรื่องความสงบ ก็เคยมีรายงานการพบคลื่นยักษ์สูงถึง 25.6 เมตร (84 ฟุต) ใกล้กับหมู่เกาะแบลีแอริก คลื่นลูกนี้สร้างความประหลาดใจให้กับนักวิทยาศาสตร์อย่างมาก เพราะโดยปกติแล้วคลื่นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจะไม่สูงขนาดนี้

8. คลื่นไอเฟลเบิร์ก (Eiffelberg Wave), ปี 2020: นอกชายฝั่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ มีการบันทึกคลื่นยักษ์ที่มีความสูงประมาณ 30 เมตร (100 ฟุต) โดยเครื่องมือวัดที่ติดตั้งอยู่บนแพลตฟอร์มไอเฟลเบิร์ก คลื่นลูกนี้เกิดขึ้นในระหว่างพายุใหญ่

9. คลื่นยูคลีท (Ucluelet Wave), ปี 2020: คลื่นลูกนี้ถูกบันทึกได้โดยทุ่นลอยน้ำนอกชายฝั่งรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา มีความสูงถึง 17.6 เมตร (58 ฟุต) ถึงแม้ความสูงอาจจะไม่มากที่สุด แต่สิ่งที่น่าสนใจคือคลื่นลูกนี้มีความสูงเกือบสามเท่าของคลื่นโดยรอบ ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นคลื่นยักษ์ที่ "สุดขั้ว" ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมาในเชิงสัดส่วน

10. คลื่นที่แอนตาร์กติกา (Antarctic Wave), ปี 2023: เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ได้บันทึกคลื่นยักษ์ที่มีความสูงถึง 22 เมตร (72 ฟุต) ในมหาสมุทรใต้ที่หนาวเย็น ใกล้กับทวีปแอนตาร์กติกา การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าคลื่นยักษ์สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสภาพแวดล้อมทางทะเล

แล้วคลื่นยักษ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

        ถึงแม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะยังศึกษาปรากฏการณ์คลื่นยักษ์กันอยู่ แต่ก็มีหลายทฤษฎีที่อธิบายถึงการก่อตัวของพวกมัน หนึ่งในทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับคือ "การรวมตัวของคลื่น" (constructive interference) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อคลื่นหลายลูกเคลื่อนที่มาเจอกันและซ้อนทับกัน ทำให้ความสูงของคลื่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น กระแสลมแรง การเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำ และลักษณะเฉพาะของพื้นทะเล

        เรื่องราวของ 10 คลื่นยักษ์ที่เราได้เล่ามานี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งและยังคงเป็นปริศนาสำหรับมนุษย์ คลื่นเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงพลังอันมหาศาลและความไม่แน่นอนของท้องทะเล ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเดินเรือและนักวิทยาศาสตร์ยังคงต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจต่อไป หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกคนได้รู้จักกับคลื่นยักษ์มากขึ้น และตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่เราอาศัยอยู่ร่วมกันนะคะ ไว้เจอกันใหม่ในเรื่องราวทะเลครั้งหน้าค่ะ! 😊

เนื้อหาโดย: teetete
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
teetete's profile


โพสท์โดย: teetete
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: phenpiram, teetete
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ทึ่งทั่วโลก : มหัศจรรย์ แห่งความงดงามของนาขั้นบันได แห่ง บาหลี สวยจริงๆเน่อลิซ่าปรากฏตัวกับลุคสุดแซ่บในงานมินิแฟนมีต POP UP ที่ญี่ปุ่นนักร้องสาวร้องไห้ถึง 4 วัน หลังทราบความลับสามีชาวฝรั่ง !!ชายหนุ่มวัย 25 ปี เกิดภาวะไตวาย หลังจากฝึกฟิตเนสแบบสุดๆ เป็นเวลา 6 เดือน และกิน "สิ่งนี้" ทุกวัน!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ดราม่าที่ภูเก็ต! ซิสเตอร์แจง เด็กพม่าเรียนติดแอร์เย็นฉ่ำ – เหตุผลจริงเพราะเสียงดังรบกวนชุมชนSolo Leveling ยังคงทำการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ให้กับมังงะอยู่เรื่อยๆ แต่จะส่งผลเสียต่ออนิเมะหรือเปล่านะ?นักร้องสาวร้องไห้ถึง 4 วัน หลังทราบความลับสามีชาวฝรั่ง !!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ทำไมใช้ Internet บ้านความเร็วสูงแต่ใช้งานจริงแล้วช้า ?คนฉลาดเค้าฝึก 10 สิ่งนี้ทุกวันโอละพ่อ เครื่องบิน F-16 ของไทย บินโชว์ดอนเมือง แต่เขมรดันหลอนไปเองจากรักเป็นแค้น "ไอ โมกามิ" ดาวสตรีมเมอร์ กับโศกนาฏกรรมสายเปย์
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง