ลุงวัย 55 อ้างแค้น ถูกตบหน้า ปืนจ่อเพื่อนยิง 4 นัดซ้อนดับ
ลุงวัย 55 อ้างแค้น ถูกตบหน้า ปืนจ่อเพื่อนยิง 4 นัดซ้อนดับ
กรณีเวลา 15.30 น.วันที่ 17 มีนาคม 2568 ร.ต.อ.ประสาน ทองฉิม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านท้องที่หมู่ 4 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวขม
ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์,พ.ต.ท.ดุษฎี อู่วงศ์ รอง ผกก (สอบสวน),พ.ต.ท.วินัย รัตนจิตร์ รอง ผกก.ป,และกำลังตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจดดินทางทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบ้านปูนชั้นเดียว ในบ้านพบเพียงกองเลือดหลายจุดเกลื่อน และยังพบปลอกกระสุน 9 มม.ตกอยู่จำนวน 4 ปลอก และหัวกระสุน 3 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำส่ง โรงพยาบาลร่อนพิบูลย์ ก่อนหน้านี้ แต่บาดแผลถูกจุดสำคัญ จึงเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปชันสูตรพลิกศพ ทราบผู้เสียชีวิตชื่อนายประสิทธิ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านหมู่ 4 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ ศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.เข้าลำตัว 2 รู และท้ายทอย 1 รู ส่วนคนก่อเหตุเป็นเพื่อนผู้ตาย ชื่อนายมนตรี หรือ”ลุงตุก”อายุ 55 ปี อยู่บ้านหมู่ 5 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ หลังก่อเหตุถืออาวุธปืนพกสั้น 9 มม.ขับรถยนกระบะยี่ห้อ มิตซูบิซิ สีน้ำตาล ทะเบียนนครศรีธรรมราช หลบหนีมุ่งหน้าไปหาลูกสาว ที่ จ.พังงา
หลังทราบเส้นทางหลบหนี พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ประสานตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ นำโดย พ.ต.อ.สุทธิภัค คมสาคร ผกก.สภ.เมืองกระบี่ นำกำลังตำรวจตั้งจุดสกัดบริเวณถนนสายเพชรเกษม หน้าสนามบินจังหวัดกระบี่ ไม่นานมีนายมนตรีหรือลุงตุก ผู้ก่อเหตุขับรถกระบะผ่านมาจึงส่งสัญญาณให้หยุดรถก่อนปิดล้อมจับกุมนายมนตรีหรือลุงตุกลงได้โดยละม่อม ตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุขนาด 9 มม. พร้อมกับกระสุนในรังเพลิง 2 นัด จึงคุมตัวนายมนตรีหรือลุงตุก ไปสอบสวนที่ สภ.เมืองกระบี่ และประสานตำรวจ สภ.ร่อนพิบูลย์ เดินทางมารับตัวนายมนตรี ผู้ต้องหา กลับดำเนินคดีที่ท้องที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาอ้างว่า ใช้ปืนยิงนายประสิทธิ์ ที่บ้านพัก ท้องที่รับผิดชอบ สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนขับรถกระบะหลบหนีข้ามจังหวัด เพื่อไปหาลูกสาวที่ จ.พังงา แต่ถูกตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ ตั้งด่านสกัดจับระหว่างทางเสียก่อน
นายมนตรี ผู้ต้องหา ให้การกับตำรวจ อ้างว่า ตนก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายประสิทธิ์ ผู้ตายจริง ชนวนเหตุจากเล่นพนันวัวชนตู้(วัวชนทีวี) โดยมีเดิมพันนับแสนบาท ตนอยู่ฝ่ายวัวชนที่ชนะ ส่วนผู้ตายอยู่ฝ่ายวัวชนที่แพ้ หลังผลวัวออกผู้ตายแพ้พนันจำนวนมาก และเกิดไม่พอใจที่ตนที่ไปอยู่ฝ่ายวัวชนที่ชนะ
โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี นายประสิทธิ์ ตบหน้าตนหลายครั้ง และใช้มือทั้งสองข้างจับล็อคคอตีเข่าเ แต่ตนไม่ต่อสู้ตอบโต้ เพราะคนตาย ตัวใหญ่กว่า จึงเก็บความแค้น กลับบ้านไปเอาอาวุธปืน 9 มม.มีทะเบียนถูกต้องจากบ้านบุกกระหน่ำยิงนายประสิทธิ์ 4 นัดซ้อน เสียชีวิตดังกล่าว
เช้าวันที่ 18 มีนาคม 2568 ร.ต.อ.ประสาน ทองฉิม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เบิกตัวนายมนตรี ออกห้องขัง ไปสอบสวนเพิ่มเติม มีภรรยาและลูกสาว 2 คน พร้อมกับทนายความ เดินทางมาเยี่ยมและติดต่อขอประกันตัว แต่ตำรวจคัดค้านการประกันตัว จึงควบคุมตัวนายมนตรี ฝากขังศาลจังหวัดทุ่งสง ในวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค.) ญาติจะไปยื่นประกันตัวชั้นศาลต่อไป โดยทางตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืน โดยดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน
นางสาวแดง (นามสมมุติ) ลูกสาวผู้ก่อเหตุ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะบิดาของของตนสุดทนจริง เพราะถูกผู้ตาย รังแกหลายครั้ง ล่าสุดถูกผู้ตายตบและจับล็อคคอตีเข่า พ่อสุดทนจริงๆจึงตัดสินใจก่อเหตุใช้ปืนยิงแบบโกรธแค้นเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามตนและครอบครัวก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในครั้งนี้
พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวขมผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์ คดีนี้ตำรวจมีพยานหลักฐานมัดตัวผู้ต้องหาพร้อมจนศาลจังหวัดทุ่งสงอนุมัติออกหมายจับ ซึ่งคดีนี้ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าก่อเหตุจริง จึงคุมดำเนินคดีและฝากขังศาลในวันพรุ่งนี้ ในเบื้องต้นตำรวจคัดค้านการประกันตัว และจากการตรวจสอบประวัติ นายมนตรี ผู้ต้องหา เคยต้องหาคดีอาญาที่ สภ.ร่อนพิบูลย์ ที่ ๔๔/๒๕๖๑ ข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

















