เท่าทัน “ความเครียด” ก่อนจะสายเกินแก้
ความเครียด คือ ภาวะของอารมณ์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น เมื่อบุคคลต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ทำให้รู้สึกถูกกดดัน ไม่สบายใจ วุ่นวายใจ กลัว วิตกกังวล ตลอดจนถูกบีบคั้น เมื่อบุคคลรับรู้ หรือ ประเมินว่าปัญหาเหล่านั้นเป็นสิ่งที่คุกคามจิตใจ อาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จะส่งผลให้สภาวะสมดุลของร่างกายกับจิตใจเสียไป
ความเครียดเกิดจาก
ภาวะที่ร่างกายเกิดการปรับตัวไม่ได้โดยจะเกิดขึ้นหลังจากเจอกับความขัดแย้ง หรือ มีสิ่งที่มากระทบกับร่างกายและจิตใจ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน สาเหตุของความเครียดเกิดขึ้นได้จากหลายเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน การเรียน ปัญหาครอบครัว
ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียด
1.ปัจจัยภายใน เกิดจากความรู้สึกภายในร่างกาย และ จิตใจ ของตัวเอง อย่างการมีโรคประจำตัว เช่น โรคซึมเศร้าหรือโรคทางจิตเวช ผู้ที่มีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจมาเป็นเวลานาน หรือ บุคลิกภาพบางอย่าง เช่น มีความวิตกกังวลมาก
2.ปัจจัยภายนอก เกิดจากสภาพแวดล้อมรอบตัว แบ่งออกได้ 4 เรื่องหลัก ๆ
-การทำงาน เกิดความกดดันในการทำงานที่มาจากหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน การแข่งขันในการทำงานที่สูง ทั้งในเรื่องเวลาที่เร่งรีบ การเข้ากันไม่ได้กับเพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงแนวทางในการปฏิบัติงานที่ไม่เหมาะกับตัวบุคคล
-ความสัมพันธ์ ความเครียดจากความสัมพันธ์ทั้งคนรัก คู่ชีวิต ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว อาจจะเป็นปัญหาเล็ก ๆ แต่เรื้อรังกันมานาน เป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถหาทางออกได้ รวมถึงความกดดันในเรื่องการเงินในครอบครัว อาจนำไปสู่ความแตกแยกของความสัมพันธ์ได้
-ปัญหาสุขภาพ ความเครียดที่เกิดจากโรคประจำตัวที่รักษาไม่หาย หรือ รักษามานานแล้วไม่ดีขึ้น ทำให้เกิดความวิตกกังวล คิดมาก อาการต่าง ๆ ที่รบกวนชีวิตประจำวัน อาการที่นอนไม่หลับ หลับ ๆ ตื่น ๆ ทำให้ร่างกายพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ จนเกิดปัญหาต่อเนื่อง
-การเปลี่ยนแปลงในชีวิต เกิดจากการเจอเหตุการณ์ในชีวิตที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน ไม่ทันได้ตั้งตัว เช่น โดนไล่ออกจากงาน คนในครอบครัวเจ็บป่วย คนในครอบครัวหรือคนรักเสียชีวิต
ผลกระทบที่เกิดจากความเครียด
1.ด้านร่างกาย ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน โรคกระเพาะ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ปวดกล้ามเนื้อ ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดในสมองแตก ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง ทำให้เกิดปัญหาการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อได้ง่าย
2.ด้านจิตใจและอารมณ์ ทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน อารมณ์ร้าย มีอาการซึมเศร้า โดยในจิตใจเต็มไปด้วยความวิตกกังวล หดหู่ ซึมเศร้า หงุดหงิดง่าย รวมไปถึงความรู้สึกขาดความภูมิใจในตนเอง ขาดสมาธิ
3.ด้านพฤติกรรมในการใช้ชีวิต เช่น เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ร้องไห้ง่าย ไม่อยากทำอะไร ขาดความอดทน เบื่อง่าย ประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลง เริ่มปลีกตัวจากสังคม ไม่ดูแลตัวเอง บางคนอาจใช้ความรุนแรงทำร้ายผู้อื่น หากเกิดอาการเหล่านี้หลายคนจะใช้วิธีระบายความเครียดด้วยการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ใช้ยานอนหลับ ใช้สารเสพติด ซึ่งส่งผลให้สุขภาพแย่ลงในระยะยาวได้
วิธีการรักษาอาการที่เกิดจากความเครียด
1.ปรับเปลี่ยนความคิด ปล่อยวางในเรื่องที่ต้องเจอ ให้รู้ตัวว่าคิดว่าเรื่องอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจ จากนั้นให้กลับมามีสมาธิอยู่กับสิ่งที่กำลังทำอยู่ตรงหน้าก่อน
ขั้นตอนสู่การควบคุมความเครียด
-คิดในแง่ดี
-มีปัญหาเล่าสู่กันฟังกับคนที่ไว้ใจ คนใกล้ตัว เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน คนในครอบครัว
-สร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัว เพื่อเป็นกำลังใจ และ แรงผลักดันในการแก้ไขปัญหา
-จัดการสิ่งที่จัดการได้ก่อน เลือกทำในสิ่งที่เป็นไปได้จริง
2.ดูแลรักษาสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30 นาที ทำให้ช่วยบรรเทาอาการเครียดสะสมได้
3.หลีกเลี่ยงสารเสพติด การเสพสิ่งเสพติดในขณะที่เกิดความเครียด อาจจะช่วยบรรเทาได้ช่วงขณะหนึ่ง แต่ส่งผลเสียต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เช่น เหล้า บุหรี่ หรือ สารเสพติดอื่น ๆ เช่น ยาบ้า กัญชา
4.นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการ ทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายความเครียดและอารมณ์แจ่มใสขึ้น
5.กินอาหารมีประโยชน์ นอกจากจะช่วยทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ยังช่วยเสริมให้สภาพจิตใจดีขึ้น
อ้างอิงจาก: https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/ควา�%
b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%94-
%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%97%e0%b8%
b1%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%ad/
https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/47/ควา%E
0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94-
%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%
84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B
8%A2%E0%B8%94/
















