เชื่อหรือไม่ หนูนั้นเป็นสัตว์ที่นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าเป็นสัตว์ที่แสดงอาการเพลิดเพลินและอารมณ์ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจได้
ในช่วงทศวรรษ 1990 นักวิทยาศาสตร์ค้นพบความจริงที่น่าทึ่งเกี่ยวกับหนู นั่นคือ พวกมันสามารถหัวเราะได้ เมื่อเล่นสนุกหรือถูกจั๊กจี้ หนูจะส่งเสียงหัวเราะในช่วงความถี่อัลตราโซนิก เป็นสัญญาณของความสุขที่พวกมันรู้สึก เช่นเดียวกับมนุษย์ หนูแสดงออกถึงความเพลิดเพลินผ่านเสียงหัวเราะ และที่น่าประหลาดใจกว่านั้น พวกมันยังสามารถสร้างสายสัมพันธ์กับเพื่อนของมันได้จากประสบการณ์เหล่านี้ หนูที่เคยเล่นด้วยกันมักแสวงหากันและกันอีกครั้ง เพื่อแบ่งปันช่วงเวลาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หนูไม่ได้ใช้ชีวิตเพียงแค่ในปัจจุบัน หากแต่มันยังสามารถย้อนคิดถึงอดีตและวางแผนสำหรับอนาคตได้ งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าพวกมันสามารถจำเส้นทางที่เคยเดินผ่าน วางแผนว่าจะไปที่ไหนต่อ และแม้กระทั่งแสดงอาการคล้ายกับความรู้สึกเสียใจเมื่อทำสิ่งผิดพลาด ความสามารถนี้สะท้อนถึงระบบความคิดที่ซับซ้อนเกินกว่าที่เคยมีใครคาดคิดไว้มากนัก
แต่สิ่งที่ทำให้หนูโดดเด่นเหนือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ความสามารถด้านการจดจำหรือการวางแผนเท่านั้น ทว่าเป็นความเห็นอกเห็นใจที่พวกมันมีต่อกัน ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950 เป็นต้นมา นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมที่น่าประทับใจของพวกมัน ในการทดลองหนึ่ง หนูถูกสอนให้กดคันโยกเพื่อรับอาหาร แต่หากคันโยกนั้นทำให้หนูอีกตัวที่อยู่ในกรงข้าง ๆ ถูกไฟฟ้าช็อต หนูหลายตัวเลือกที่จะไม่กดคันโยก และยอมอดอาหารแทนที่จะต้องเห็นเพื่อนของมันเจ็บปวด อีกการทดลองหนึ่งพบว่า หนูที่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เฉียดตาย เช่น การเกือบจมน้ำ จะช่วยเหลือเพื่อนที่กำลังตกอยู่ในอันตรายเช่นเดียวกันอย่างรวดเร็ว พวกมันรีบกระโจนเข้าไปช่วยอย่างไม่ลังเล เหมือนเข้าใจถึงความหวาดกลัวที่เพื่อนของมันกำลังเผชิญ
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าหนูเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถรู้สึกถึงความทุกข์ของผู้อื่นและเลือกที่จะช่วยเหลือกัน แม้ว่าจะไม่ได้มีผลประโยชน์โดยตรงต่อตัวมันเองก็ตาม แต่ขณะที่พวกมันแสดงความเมตตาต่อกัน มนุษย์กลับจับพวกมันมาเป็นเครื่องมือในการทดลอง ทำให้พวกมันเผชิญกับความกลัว ความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมาน เราสร้างประชากรของหนูที่มีภาวะทางจิต บอบช้ำทางอารมณ์ และหวาดผวา เพื่อใช้เป็นแบบจำลองศึกษาความผิดปกติทางจิตของมนุษย์ นี่เป็นความย้อนแย้งที่น่าขบคิด เพราะหากหนูมีความคล้ายคลึงกับมนุษย์มากพอที่จะใช้ศึกษาสภาวะทางจิตของเรา ทำไมเราจึงละเลยที่จะคำนึงถึงจริยธรรมและความรู้สึกของพวกมัน
บางที สิ่งที่หนูสอนเรา อาจไม่ใช่แค่เรื่องของความสามารถทางปัญญาหรือพฤติกรรมทางสังคม หากแต่เป็นคำถามที่สะท้อนกลับมายังตัวเราเอง—เรามีความเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตอื่นมากเท่ากับที่พวกมันมีต่อกันหรือไม่?









