"ครั้งแรกที่ได้ดูโดราเอม่อน... จอภาพขาวดำกับความตื่นเต้นในวัยเด็ก"
"ครั้งแรกที่ได้ดูโดราเอม่อน... จอภาพขาวดำกับความตื่นเต้นในวัยเด็ก"
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ดิฉันอยากจะมาเล่าเรื่องราวของ "โดราเอม่อน" การ์ตูนในดวงใจที่อยู่คู่กับคนไทยมาหลายยุคหลายสมัย แต่ที่สำคัญก็คือ ดิฉันเองก็เติบโตมากับเจ้าแมวหุ่นยนต์สีฟ้านี้เช่นกัน
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสมัยเด็ก ๆ จอทีวีบ้านดิฉันยังเป็นขาวดำอยู่เลยค่ะ ตอนนั้นรู้จักโดราเอม่อนครั้งแรกผ่านหน้าจอเล็ก ๆ ของทีวีที่ต้องหมุนปุ่มเปลี่ยนช่องเอง เพราะไม่มีรีโมทเหมือนทุกวันนี้ และถึงแม้ภาพที่ออกมาจะไม่มีสีสันสดใสแบบปัจจุบัน แต่บอกเลยว่า "ความสนุกและความตื่นเต้นไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว"
ใครที่เกิดทันยุคทีวีขาวดำ คงเข้าใจความรู้สึกดิฉันที่เวลานั่งจ้องหน้าจอทีวีและลุ้นไปกับการผจญภัยของ โนบิตะ และ โดราเอม่อน แม้ว่าภาพจะเป็นเพียงโทนขาว-เทา-ดำ แต่เด็ก ๆ อย่างพวกเรากลับสามารถ "จินตนาการ" สีของตัวละครได้เอง
ในใจดิฉันเชื่อว่า โดราเอม่อนต้องเป็นสีฟ้า (แม้จะเห็นเป็นสีเทาก็เถอะ!)
โนบิตะใส่เสื้อสีเหลืองแน่นอน (แม้จะออกมาเป็นสีขาว ๆ เทา ๆ)
ไจแอนท์ดูตัวใหญ่และน่ากลัว แม้ว่าภาพจะไม่ได้คมชัดเหมือนสมัยนี้
ส่วนชิซูกะ ถึงจะเห็นเป็นขาวดำ แต่ดิฉันก็นึกภาพว่าเธอต้องเป็นเด็กผู้หญิงที่สดใส ใส่กระโปรงชมพูสวย ๆ
ทุกอย่างถูกเติมเต็มด้วย "จินตนาการ" ค่ะ และนั่นคือเสน่ห์ของการ์ตูนในยุคนั้น
อีกสิ่งหนึ่งที่ดิฉันประทับใจมากก็คือ เสียงพากย์ไทยในยุคแรก ๆ เสียงพากย์ของโดราเอม่อนและพรรคพวกเป็นเอกลักษณ์มาก โดยเฉพาะเสียงของ โนบิตะ ที่ขี้แยสุด ๆ กับเสียงทุ้ม ๆ ของ ไจแอนท์ ที่แค่พูดก็รู้เลยว่าเป็นตัวป่วนของเรื่อง ยุคนั้นไม่มีเทคโนโลยี Dolby Surround หรือเสียงคมชัดแบบยุคนี้
เสียงบางครั้งก็ซ่า ๆ เพราะเป็นเทปวิดีโอ หรือสัญญาณทีวีไม่ดี
แต่ทุกคำพูดเต็มไปด้วยเสน่ห์ ฟังแล้วเพลินดี และบางครั้งเวลาทีวีบ้านไหนมีสัญญาณรบกวน ภาพเป็นเส้น ๆ บ้าง เสียงหายไปเป็นพัก ๆ บ้าง แต่เชื่อไหมคะว่า ดิฉันกับน้องก็ยังดูอย่างตั้งใจ เพราะแค่ได้เห็นโดราเอม่อนกับของวิเศษสุดเจ๋งก็ทำให้วันนั้นเป็นวันที่สนุกมากแล้ว
สิ่งที่ทำให้โดราเอม่อนเป็นการ์ตูนที่ตราตรึงใจเด็ก ๆ มาทุกยุคทุกสมัยก็คือ "ของวิเศษ" ที่ออกมาจากกระเป๋าหน้าท้องของเขาค่ะ
ตอนเด็ก ๆ ดิฉันเองก็เคยนั่งคิดเล่น ๆ ว่า ถ้ามีของวิเศษซักชิ้น เราอยากได้อะไร แน่นอนค่ะดิฉันอยากได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น
"คอปเตอร์ไม้ไผ่" จะบินไปโรงเรียนแบบไม่ต้องเดิน
"ประตูไปที่ไหนก็ได้" อยากเปิดปุ๊บก็บินไปตลาดหรือไปเที่ยวทะเล ไม่ต้องนั่งรถไกล ๆ
"เครื่องย้อนเวลา" ที่สามารถกลับไปแก้ไขข้อสอบที่ทำผิดได้ (เหมือนกับโนบิตะในเรื่องเลยค่ะ 😆)
ทุกครั้งที่เห็นของวิเศษออกมา ดิฉันจะตื่นเต้นจนเผลออุทานออกมาว่า "โอ้โห! ถ้ามีจริงคงดีเนอะ!" นี่แหละค่ะคือความมหัศจรรย์ของโดราเอม่อน ที่ไม่ใช่แค่ความสนุก แต่ยังเติมเต็ม "จินตนาการ" ให้เด็ก ๆ ทุกคน
แม้ว่าวันนี้ดิฉันจะ50แล้ว แต่ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเพลง "โดราเอม่อนอยู่ที่ไหน" ก็ยังอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มและรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป จากทีวีขาวดำเป็นทีวีสี และพัฒนาเป็นจอLED คมชัดระดับ 4K
จากการ์ตูนที่ต้องรอชมทุกเสาร์-อาทิตย์ กลายเป็นดูออนไลน์ที่สามารถดูเมื้อไหร่ก็ได้
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ "ความผูกพันของโดราเอม่อนกับเด็ก ๆ ในทุกยุค" ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ ทุกครั้งที่เห็นโดราเอม่อนโผล่ออกมาจากจอ ก็ทำให้เรายิ้มได้เสมอ
ดิฉันเชื่อว่าหลายคนที่อายุใกล้เคียงกับดิฉัน ต้องเคยผ่านช่วงเวลาการดูโดราเอม่อนแบบจอขาวดำเหมือนกันแน่นอน แล้วทุกคนล่ะคะ มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้ในวัยเด็กบ้าง มาเล่าให้ฟังกันหน่อยค่ะ 😊















