ไทยเราก็มีแม่น้ำสองสีนะ อยู่ที่ "โขงสีปูน มูลสีคราม" อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
ท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติในจังหวัดอุบลราชธานี มีสถานที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของสายน้ำและทิวทัศน์อันงดงาม นั่นคือ จุดชมวิวแม่น้ำสองสี วัดโขงเจียม ที่ซึ่งแม่น้ำสองสายอันยิ่งใหญ่ของแผ่นดินไทยได้ไหลมาบรรจบกัน เกิดเป็นภาพที่ธรรมชาติรังสรรค์ไว้อย่างน่าทึ่ง เมื่อแม่น้ำโขงอันกว้างใหญ่พาสายน้ำสีปูนแดงจากผืนดินสูงของทิเบต ไหลเคลื่อนมาประสานกับแม่น้ำมูลที่ไหลจากป่าดิบของดงพญาเย็น สีของน้ำทั้งสองแตกต่างกันอย่างชัดเจน จนเกิดเป็นเส้นแบ่งสีที่ชาวบ้านขนานนามว่า "โขงสีปูน มูลสีคราม" ภาพนี้ราวกับเป็นผลงานศิลปะที่ธรรมชาติบรรจงวาดไว้ให้มนุษย์ได้ชื่นชม
ยามเมื่อสายลมพัดผ่าน ผืนน้ำเบื้องล่างสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ เสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ ผสานกับเสียงนกร้องจากแมกไม้ริมฝั่ง ทำให้บรรยากาศที่นี่เต็มไปด้วยความสงบและความรื่นรมย์ ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ รอบด้านเป็นแนวเกาะแก่งกลางแม่น้ำที่เผยตัวขึ้นตามฤดูกาล ไกลออกไปคือเส้นขอบฟ้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยภูเขาสูงทอดตัวเป็นฉากหลัง เมื่อรวมกับสีสันของแม่น้ำสองสายที่ไหลมาบรรจบกัน ภาพที่ปรากฏจึงเป็นเหมือนบทกวีแห่งสายน้ำที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
เสน่ห์ของที่นี่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ในช่วงฤดูฝน ผืนป่ารอบด้านเปลี่ยนเป็นสีเขียวชอุ่ม ปริมาณน้ำหลากทำให้สีของแม่น้ำทั้งสองขับเน้นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน บรรยากาศเย็นสบาย ละอองฝนบางเบาที่โปรยลงมาเป็นระยะช่วยเติมเต็มความสดชื่นให้กับทุกชีวิตที่มาเยือน แต่เมื่อฤดูแล้งมาเยือน สายน้ำที่เคยท่วมท้นกลับลดระดับลง เผยให้เห็นแนวสันทรายและแก่งหินกลางลำน้ำ ภาพที่เคยเต็มไปด้วยสายน้ำกลับเผยเสน่ห์ในอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นความงามที่แตกต่างแต่ยังคงน่าหลงใหลไม่แพ้กัน
ที่นี่ไม่ใช่เพียงจุดชมวิวธรรมดา แต่เป็นเสี้ยวหนึ่งของเรื่องราวที่ธรรมชาติบรรจงแต่งขึ้น เป็นพื้นที่ที่สะท้อนให้เห็นถึงการไหลเวียนของเวลาและความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล การได้มายืน ณ จุดนี้ มองดูสายน้ำสองสีไหลเคียงคู่กันไป ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของความแตกต่างที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างงดงาม หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่เชื้อเชิญให้เราหยุดนิ่งและดื่มด่ำกับความงามของโลกใบนี้ จุดชมวิวแม่น้ำสองสีแห่งโขงเจียมคือหนึ่งในสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด มันคือฉากหนึ่งของธรรมชาติที่รอให้คุณมาสัมผัสด้วยสายตาและหัวใจของคุณเอง




