สัตว์เลี้ยงมีพฤติกรรมเหมือนกับเจ้าของจริงหรือไม่?
การสังเกตว่าสุนัขหรือแมวของคุณมีพฤติกรรมคล้ายคุณไม่ใช่เรื่องบังเอิญ วิทยาศาสตร์เผยให้เห็นความจริงที่น่าทึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์พิเศษระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยง บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่าทำไมสัตว์เลี้ยงถึงมีพฤติกรรมคล้ายเจ้าของ ด้วยข้อมูลจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์
สัตว์เลี้ยงมีพฤติกรรมเหมือนกับเจ้าของหรือคิดไปเอง?
หลายคนสงสัยว่าการที่สัตว์เลี้ยงแสดงพฤติกรรมคล้ายเจ้าของเป็นเพียงความบังเอิญหรือมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ผลการวิจัยจาก Journal of Research in Personality (2019) โดย Turcsán และคณะ พบว่าเจ้าของและสุนัขของพวกเขามีลักษณะบุคลิกภาพที่คล้ายกันในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านความเปิดเผย การแสดงออก และความเป็นมิตร
การศึกษาในปี 2022 จาก University of Lincoln ในสหราชอาณาจักร ยังค้นพบว่า 80% ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงรายงานว่าสัตว์เลี้ยงของพวกเขาแสดงพฤติกรรมที่สะท้อนลักษณะของพวกเขาเอง งานวิจัยนี้เก็บข้อมูลจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงกว่า 2,500 คน และพบความเชื่อมโยงที่มีนัยสำคัญทางสถิติ
ศาสตราจารย์ ดร.แซมูเอล กอสลิง จากมหาวิทยาลัยเทกซัส อธิบายว่า: "พฤติกรรมที่คล้ายกันระหว่างสัตว์เลี้ยงและเจ้าของไม่ใช่แค่อคติในการรับรู้ แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงซึ่งมีหลายกลไกทั้งทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมเป็นตัวขับเคลื่อน"
กลไกหลักที่ทำให้เกิดความคล้ายคลึงทางพฤติกรรม
- การเลือกตั้งแต่แรก: มนุษย์มีแนวโน้มที่จะเลือกสัตว์เลี้ยงที่มีบุคลิกภาพคล้ายตัวเอง การศึกษาในวารสาร Anthrozoös พบว่าเมื่อให้ดูวิดีโอสุนัขที่มีบุคลิกแตกต่างกัน ผู้คนมักเลือกสุนัขที่มีลักษณะนิสัยคล้ายตนเอง
- การเรียนรู้ทางสังคม: สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข มีความสามารถในการเรียนรู้ผ่านการสังเกตและการเลียนแบบ งานวิจัยจาก Current Biology (2020) แสดงให้เห็นว่าสุนัขสามารถเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ได้แม้หลังจากเวลาผ่านไป 24 ชั่วโมง แสดงถึงความจำและความสามารถในการเลียนแบบที่ซับซ้อน
- ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมร่วม: เจ้าของและสัตว์เลี้ยงอาศัยในสภาพแวดล้อมเดียวกัน มีกิจวัตรคล้ายกัน และได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอกเหมือนกัน เช่น ระดับกิจกรรม อาหาร และเวลาพักผ่อน
- การพัฒนาร่วมกันทางวิวัฒนาการ: สุนัขโดยเฉพาะได้วิวัฒนาการมาเพื่อทำงานร่วมกับมนุษย์เป็นเวลาหลายพันปี การศึกษาในวารสาร Science (2018) พบว่าสุนัขมีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่เชื่อมโยงกับความสามารถในการตีความอารมณ์และพฤติกรรมของมนุษย์
สัตว์เลี้ยงเลียนแบบพฤติกรรมกิน นอน เจ้าของได้ไหม
การศึกษาในวารสาร Applied Animal Behaviour Science พบว่าสัตว์เลี้ยงสามารถเลียนแบบพฤติกรรมพื้นฐานประจำวันของเจ้าของได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในด้านการกินและการนอน
พฤติกรรมการกิน
ดร.เอลิซาเบธ โรเจอร์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์จากมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก อธิบายว่า: "สุนัขและแมวเรียนรู้ว่าเมื่อไหร่เป็นเวลาอาหารผ่านกิจวัตรของเจ้าของ เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาไม่เพียงคาดหวังอาหารในเวลาเดียวกันทุกวัน แต่ยังอาจพัฒนาความชอบอาหารที่คล้ายกับเจ้าของด้วย"
งานวิจัยในปี 2023 จาก University of Milan พบว่าสุนัขที่อยู่กับเจ้าของที่มีนิสัยการกินแบบช้าๆ และพิถีพิถัน มักจะแสดงพฤติกรรมการกินที่คล้ายกัน ในทางกลับกัน สุนัขที่อยู่กับเจ้าของที่กินเร็วและไม่เลือกอาหารมักจะมีวิธีการกินที่คล้ายกัน
ที่น่าสนใจคือ การศึกษาในวารสาร Veterinary Medicine พบความเชื่อมโยงระหว่างพฤติกรรมการกินของเจ้าของและอัตราโรคอ้วนในสัตว์เลี้ยง ครัวเรือนที่เจ้าของมีนิสัยการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพมีแนวโน้มที่จะมีสัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักเกินมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับครัวเรือนที่เน้นอาหารสุขภาพและการควบคุมปริมาณ
พฤติกรรมการนอน
การศึกษาในวารสาร Sleep Medicine ในปี 2021 ได้ติดตามรูปแบบการนอนของเจ้าของและสุนัขโดยใช้อุปกรณ์ติดตามการนอนหลับ ผลการวิจัยพบว่ามีการซิงโครไนซ์กันอย่างมีนัยสำคัญ โดยสุนัขมักเข้าสู่ช่วงการนอนลึกในเวลาใกล้เคียงกับเจ้าของ
ดร.ไมเคิล นิวเบิร์ก นักประสาทวิทยาศาสตร์ อธิบายว่า "สัตว์เลี้ยงไม่เพียงแต่ปรับตัวเข้ากับตารางการนอนของเจ้าของเท่านั้น แต่ยังดูเหมือนจะรับเอาคุณภาพการนอนบางอย่างด้วย เจ้าของที่นอนไม่หลับหรือนอนไม่สนิทมักจะมีสัตว์เลี้ยงที่แสดงรูปแบบการนอนที่ฟุ้งซ่านเช่นกัน"
นอกจากนี้ การศึกษาในประเทศญี่ปุ่นพบว่าแมวที่อาศัยอยู่กับเจ้าของที่ทำงานกลางคืนมีแนวโน้มที่จะพัฒนาวงจรการนอนกลางวันและตื่นตอนกลางคืนเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวที่น่าทึ่งของสัตว์เลี้ยง
อิทธิพลของบุคลิกภาพเจ้าของต่อพฤติกรรมสัตว์เลี้ยง
การศึกษาที่สำคัญในวารสาร PLOS ONE โดย Schöberl และคณะในปี 2020 ได้สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างบุคลิกภาพของเจ้าของและระดับฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) ในสุนัข ผลการศึกษาพบว่าสุนัขที่อยู่กับเจ้าของที่มีลักษณะประสาทสูงหรือวิตกกังวลมีแนวโน้มที่จะมีระดับคอร์ติซอลสูงเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าอารมณ์ของเจ้าของส่งผลโดยตรงต่อสภาวะทางสรีรวิทยาของสัตว์เลี้ยง
ผลกระทบของสไตล์การเลี้ยงดูต่อบุคลิกภาพสัตว์เลี้ยง
ดร.โรเบิร์ต ไฮนซ์ นักจิตวิทยาสัตว์ชั้นนำ กล่าวว่า: "เจ้าของที่มีสไตล์การเลี้ยงดูเข้มงวดมักจะมีสุนัขที่แสดงพฤติกรรมระมัดระวังและเป็นระเบียบมากกว่า ในขณะที่เจ้าของที่ผ่อนคลายและยืดหยุ่นมากกว่ามักจะมีสุนัขที่เป็นอิสระและกล้าแสดงออกมากกว่า"
การศึกษาจาก University of Vienna ได้สังเกตความสัมพันธ์ระหว่างสไตล์การเลี้ยงดูและพฤติกรรมการเล่นของสุนัข เจ้าของที่มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการเล่นและการฝึกสอนมีแนวโน้มที่จะมีสุนัขที่มีความมั่นใจทางสังคมมากกว่าและสามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่า
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าสไตล์การสื่อสารของเจ้าของมีผลต่อวิธีที่สัตว์เลี้ยงตอบสนองต่อคำสั่ง การศึกษาในวารสาร Animal Cognition พบว่าสุนัขที่อยู่กับเจ้าของที่ใช้น้ำเสียงสม่ำเสมอและชัดเจนมีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อคำสั่งอย่างแม่นยำมากกว่า
บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ สรุปคำถาม ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน? คำถามที่ถามง่ายแต่ตอบยาก
ปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
การอภิปรายเกี่ยวกับความคล้ายคลึงระหว่างสัตว์เลี้ยงและเจ้าของจะไม่สมบูรณ์หากไม่กล่าวถึงการมีส่วนร่วมของปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
ดร.เจน กู๊ดออล นักสัตววิทยาผู้มีชื่อเสียง อธิบายว่า: "ในขณะที่บุคลิกภาพพื้นฐานของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ถูกกำหนดโดยพันธุกรรม แต่สิ่งแวดล้อมที่พวกเขาเติบโตมีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอมว่าคุณลักษณะเหล่านี้จะแสดงออกอย่างไร"
การศึกษาในปี 2022 ในวารสาร Scientific Reports เปรียบเทียบพฤติกรรมของลูกสุนัขที่เลี้ยงโดยเจ้าของที่มีบุคลิกภาพแตกต่างกัน แม้จะมาจากพ่อแม่พันธุ์เดียวกัน ลูกสุนัขแสดงลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันอย่างมากหลังจากอาศัยอยู่กับเจ้าของที่ต่างกันเป็นเวลาเพียงหกเดือน สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมในการกำหนดพฤติกรรม
นักวิจัยยังพบว่าฮอร์โมนความผูกพัน เช่น ออกซิโตซิน มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความคล้ายคลึงทางพฤติกรรมระหว่างสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ การปฏิสัมพันธ์ที่เป็นบวกเพิ่มการหลั่งออกซิโตซินทั้งในมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ซึ่งเสริมสร้างพันธะและส่งเสริมการเลียนแบบพฤติกรรม
ความแตกต่างระหว่างสุนัขและแมวในการรับอิทธิพลจากเจ้าของ
ขณะที่ทั้งสุนัขและแมวแสดงให้เห็นถึงการรับอิทธิพลจากเจ้าของ แต่มีความแตกต่างที่สำคัญในวิธีและขอบเขตของอิทธิพลนี้
ศาสตราจารย์ ดร.เดนนิส เทอร์เนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมแมว อธิบายว่า: "สุนัขเป็นสัตว์สังคมโดยธรรมชาติและได้รับการเลี้ยงดูมาหลายพันปีเพื่อทำงานร่วมกับมนุษย์ ทำให้พวกเขาเข้าใจและเลียนแบบสัญญาณทางสังคมของมนุษย์ได้ดีกว่าแมว ในทางกลับกัน แมวมีแนวโน้มที่จะเลือกเฉพาะพฤติกรรมของเจ้าของที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขา"
การศึกษาเปรียบเทียบในวารสาร Behavioural Processes พบว่าสุนัขสามารถเลียนแบบการกระทำของมนุษย์ได้ถึง 53% ของกรณี เมื่อเทียบกับแมวที่ 28% เท่านั้น อย่างไรก็ตาม แมวแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เหนือกว่าในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น
ความน่าสนใจคือ แมวที่เลี้ยงโดยเจ้าของที่พูดคุยกับพวกเขามากมีแนวโน้มที่จะส่งเสียงร้องมากกว่าแมวที่เลี้ยงในบ้านที่เงียบสงบ แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถปรับรูปแบบการสื่อสารตามบริบทของมนุษย์ได้
ผลกระทบทางสุขภาพของความคล้ายคลึงทางพฤติกรรม
ความคล้ายคลึงระหว่างสัตว์เลี้ยงและเจ้าของไม่ได้จำกัดเฉพาะพฤติกรรม แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายด้วย การศึกษาในวารสาร British Journal of Health Psychology พบว่ารูปแบบกิจกรรมทางกายภาพของเจ้าของมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับระดับกิจกรรมของสุนัขของพวกเขา
ดร.คาเธอรีน แวน เดอร์ บอช นักระบาดวิทยา กล่าวว่า: "เราพบว่าเจ้าของที่ใช้ชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ มีแนวโน้มที่จะมีสุนัขที่มีน้ำหนักเกินและออกกำลังกายน้อย ในทางกลับกัน เจ้าของที่กระตือรือร้นมักจะมีสัตว์เลี้ยงที่มีสุขภาพดีและกระฉับกระเฉงมากกว่า"
การศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในปี 2023 พบความเชื่อมโยงระหว่างระดับความเครียดของเจ้าของและความผิดปกติทางพฤติกรรมในสัตว์เลี้ยง เจ้าของที่มีระดับความเครียดสูงมีสัตว์เลี้ยงที่แสดงพฤติกรรมวิตกกังวล เช่น การเลียตัวเองมากเกินไป การกัดเล็บ หรือกัดทำลายข้าวของมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับเจ้าของที่มีระดับความเครียดต่ำกว่า
ปรับปรุงความสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงด้วยความเข้าใจพฤติกรรม
การตระหนักถึงอิทธิพลของคุณต่อพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของคุณและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของทั้งคุณและสัตว์เลี้ยงของคุณ
ดร.แคเรน โอเวอร์ออล สัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ เสนอแนะว่า: "การสังเกตพฤติกรรมที่เป็นปัญหาในสัตว์เลี้ยงของคุณอาจเป็นโอกาสให้ตรวจสอบพฤติกรรมของตัวคุณเอง หากสุนัขของคุณดูเหมือนจะวิตกกังวลมากเกินไป คุณอาจต้องพิจารณาว่าคุณกำลังส่งสัญญาณความเครียดออกไปหรือไม่"
เทคนิคที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมทางบวกในสัตว์เลี้ยง
- ความสม่ำเสมอในกิจวัตร: การรักษากำหนดการที่แน่นอนสำหรับการให้อาหาร การเล่น และการนอนช่วยให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง
- การสื่อสารที่ชัดเจน: การใช้สัญญาณที่สม่ำเสมอและชัดเจนช่วยลดความสับสนและส่งเสริมการเชื่อฟัง
- การฝึกเชิงบวก: การให้รางวัลสำหรับพฤติกรรมที่ดีจะสร้างความมั่นใจและความไว้วางใจ
- การจัดการความเครียดของตัวคุณเอง: เทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึกๆ การทำสมาธิ และการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อคุณเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสัตว์เลี้ยงของคุณด้วย
- การเอาใจใส่คุณภาพการมีปฏิสัมพันธ์: การใช้เวลาคุณภาพกับสัตว์เลี้ยงของคุณทุกวันสร้างความผูกพันและสนับสนุนสุขภาพทางอารมณ์
งานวิจัยจาก Journal of Veterinary Behavior ชี้ให้เห็นว่าเจ้าของที่ใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีต่อวันในการมีปฏิสัมพันธ์อย่างมีส่วนร่วมกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขารายงานถึงปัญหาพฤติกรรมน้อยลงและความพึงพอใจในความสัมพันธ์มากขึ้น
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ
1. สัตว์เลี้ยงเกิดมาพร้อมกับบุคลิกภาพที่ตายตัว หรือพัฒนาขึ้นตามเวลา?
สัตว์เลี้ยงเกิดมาพร้อมกับแนวโน้มทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพ แต่สิ่งแวดล้อมมีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอมว่าลักษณะเหล่านี้จะแสดงออกอย่างไร การศึกษาในวารสาร Animal Behaviour พบว่าประมาณ 35-40% ของบุคลิกภาพของสุนัขเป็นผลมาจากพันธุกรรม ส่วนที่เหลือได้รับอิทธิพลจากประสบการณ์ สภาพแวดล้อม และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
2. ทำไมสัตว์เลี้ยงของฉันถึงมีพฤติกรรมเหมือนฉันในบางเรื่อง แต่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงในเรื่องอื่น
ดร.เอมิลี่ ลีแวนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ อธิบายว่า: "สัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มที่จะรับเอาพฤติกรรมที่พวกเขาได้รับการเสริมแรงมากที่สุด ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ แต่ละสายพันธุ์มีแนวโน้มทางพันธุกรรมบางอย่างที่อาจเข้ากันไม่ได้กับบุคลิกภาพของเจ้าของ" งานวิจัยจาก Animal Cognition (2021) พบว่าสัตว์เลี้ยงมักจะแสดงพฤติกรรมที่คล้ายเจ้าของในสถานการณ์ทางสังคม แต่อาจแสดงลักษณะเฉพาะตัวในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณตามสายพันธุ์
3. ฉันสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของสัตว์เลี้ยงโดยการเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองได้หรือไม่?
ใช่ การศึกษาในวารสาร Journal of Veterinary Behavior (2022) แสดงให้เห็นว่าเมื่อเจ้าของปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง (เช่น ระดับพลังงาน ระดับความเครียด หรือรูปแบบการสื่อสาร) สัตว์เลี้ยงของพวกเขามักจะตอบสนองด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่สอดคล้องกัน ดร.แซมูเอล ริชาร์ดสัน นักพฤติกรรมสัตว์ แนะนำว่า: "ลองคิดถึงตัวคุณเองว่าเป็นกระจกสำหรับสัตว์เลี้ยง หากคุณต้องการเห็นสัตว์เลี้ยงที่สงบและมั่นใจมากขึ้น ให้เริ่มต้นด้วยการแสดงพฤติกรรมเหล่านั้นในตัวคุณเอง"
4. มีความแตกต่างในการรับอิทธิพลจากเจ้าของระหว่างสุนัขและแมวหรือไม่?
มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ การศึกษาในวารสาร Applied Animal Behaviour Science พบว่าสุนัขมีแนวโน้มที่จะรับเอาพฤติกรรมทางสังคมจากเจ้าของมากกว่า ในขณะที่แมวมีแนวโน้มที่จะรับเอาพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจวัตรประจำวัน เช่น รูปแบบการกินและการนอน ศาสตราจารย์ ดร.โจนาธาน บาลคอมบ์ อธิบายว่า: "สุนัขวิวัฒนาการมาเพื่อทำงานร่วมกับมนุษย์ ทำให้พวกเขาไวต่อการเรียนรู้ทางสังคมมากกว่า ในขณะที่แมวรับเอาพฤติกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อความอยู่รอดและความสะดวกสบายของพวกเขามากกว่า"
5. อายุของสัตว์เลี้ยงมีผลต่อความสามารถในการรับอิทธิพลจากเจ้าของหรือไม่?
ใช่ อย่างมีนัยสำคัญ การศึกษาในปี 2023 จาก University of Pennsylvania School of Veterinary Medicine พบว่าสัตว์เลี้ยงที่อายุน้อยกว่า (โดยเฉพาะในช่วงพัฒนาการสำคัญ) มีความไวต่อการรับอิทธิพลจากพฤติกรรมของเจ้าของมากกว่า ดร.ซาราห์ ไวท์เฮด กล่าวว่า: "ช่วงเวลาสำคัญสำหรับการพัฒนาบุคลิกภาพในสุนัขคือช่วง 3-14 สัปดาห์ แต่สัตว์เลี้ยงยังคงสามารถปรับตัวและเรียนรู้จากเจ้าของได้ตลอดชีวิต แม้ว่าความยืดหยุ่นจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น"
6. สัตว์เลี้ยงสามารถรับความชอบและความไม่ชอบเฉพาะตัวจากเจ้าของได้หรือไม่?
มีหลักฐานที่น่าสนใจที่สนับสนุนแนวคิดนี้ งานวิจัยจาก Animal Cognition (2022) พบว่าสุนัขที่อาศัยอยู่กับเจ้าของที่ชอบฟังดนตรีมีแนวโน้มที่จะแสดงการตอบสนองในเชิงบวกต่อดนตรีมากกว่าสุนัขที่อาศัยอยู่ในบ้านที่เงียบสงบ การศึกษาอีกชิ้นในวารสาร Physiology & Behavior พบว่าสัตว์เลี้ยงมักรับเอาความชอบทางอาหารจากเจ้าของ ดร.เจมส์ เซอร์เพล กล่าวว่า: "เรามักเห็นสัตว์เลี้ยงที่ชอบอาหารที่คล้ายกับรสชาติที่เจ้าของชื่นชอบ โดยเฉพาะในแง่ของความเค็ม หวาน หรือรสจัด ซึ่งอาจเป็นผลมาจากทั้งการเรียนรู้ทางสังคมและการเข้าถึงอาหารที่คล้ายกัน"
7. สัตว์เลี้ยงที่มีหลายคนเลี้ยงจะมีพฤติกรรมเหมือนใคร?
งานวิจัยในวารสาร Anthrozoös พบว่าในบ้านที่มีหลายคน สัตว์เลี้ยงมักจะรับเอาพฤติกรรมของคนที่ใช้เวลากับพวกเขามากที่สุดหรือมีความผูกพันทางอารมณ์แน่นแฟ้นที่สุด ดร.ลอเรน ฟอลก์ อธิบายว่า: "สัตว์เลี้ยงมักจะสร้างความผูกพันหลักกับสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่ง แม้ว่าพวกเขาจะรักทุกคน อิทธิพลของบุคคลนั้นต่อพฤติกรรมของพวกเขามักจะเด่นชัดกว่า อย่างไรก็ตาม เราเห็นบางกรณีที่สัตว์เลี้ยงแสดงพฤติกรรมที่แตกต่างกันกับสมาชิกในครอบครัวแต่ละคน แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวทางสังคมที่น่าทึ่ง"
8. การแยกวิตกกังวลในสัตว์เลี้ยงเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของเจ้าของอย่างไร?
การศึกษาในวารสาร Veterinary Medicine (2023) พบความเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างสไตล์การผูกพันของเจ้าของและความชุกของความวิตกกังวลจากการแยกในสัตว์เลี้ยง เจ้าของที่แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการจากลาหรือแสดงพฤติกรรมเกาะติดมากเกินไปมีแนวโน้มที่จะมีสัตว์เลี้ยงที่พัฒนาการแยกวิตกกังวลมากกว่า 3 เท่า ดร.มาร์คัส โบเวน นักจิตวิทยาสัตว์ แนะนำว่า: "การสร้างความเป็นอิสระในสัตว์เลี้ยงของคุณเริ่มต้นด้วยการแสดงความมั่นใจเมื่อคุณออกจากบ้าน เจ้าของที่ทำให้การจากลาเป็นเรื่องใหญ่โดยไม่รู้ตัวกำลังส่งสัญญาณไปยังสัตว์เลี้ยงของพวกเขาว่าการแยกจากกันเป็นสิ่งที่น่ากลัว"
9. สัตว์เลี้ยงที่รับมาเมื่อโตแล้วสามารถรับอิทธิพลจากเจ้าของใหม่ได้มากแค่ไหน?
แม้ว่าความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลงอาจลดลงเมื่ออายุมากขึ้น แต่การศึกษาในวารสาร Applied Animal Behaviour Science พบว่าสัตว์เลี้ยงที่รับมาเมื่อโตแล้วยังคงแสดงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่มีนัยสำคัญเพื่อสะท้อนเจ้าของใหม่ภายใน 3-6 เดือน ดร.เรเชล คาซี อธิบายว่า: "สัตว์เลี้ยงมีความสามารถอันน่าทึ่งในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขารู้สึกปลอดภัยและได้รับความรัก เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าทึ่งในสุนัขและแมวที่รับมาจากศูนย์พักพิงหลังจากปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ของพวกเขาได้"
หลักฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่
ขณะที่การวิจัยพฤติกรรมสัตว์ก้าวหน้าขึ้น นักวิทยาศาสตร์กำลังใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์เลี้ยงและเจ้าของลึกซึ้งยิ่งขึ้น
มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดได้ดำเนินการศึกษาโดยใช้อุปกรณ์ติดตามการเคลื่อนไหวขั้นสูงเพื่อวิเคราะห์รูปแบบการเคลื่อนไหวของเจ้าของและสุนัขของพวกเขา ผลลัพธ์พบว่ามีการซิงโครไนซ์กันอย่างน่าทึ่ง โดยสุนัขมักเคลื่อนไหวด้วยจังหวะและความเร็วที่สอดคล้องกับเจ้าของของพวกเขา แม้กระทั่งเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย
ดร.เอลีน เฮิร์สต์ นักวิทยาศาสตร์ด้านประสาทวิทยา กล่าวว่า: "เรากำลังเห็นการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นในการศึกษาการเชื่อมโยงระหว่างสมองของสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ การศึกษาเบื้องต้นใช้ fMRI (การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของสมอง) กับสุนัขที่ผ่านการฝึกฝนพบว่ารูปแบบการทำงานของสมองของสุนัขมีการเปลี่ยนแปลงตามสัญญาณทางอารมณ์จากเจ้าของของพวกเขา แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงทางประสาทวิทยาที่ลึกซึ้ง"
เทคโนโลยีการวิเคราะห์ฮอร์โมนที่ก้าวหน้าได้ช่วยให้นักวิจัยสามารถตรวจวัดระดับฮอร์โมนความเครียดและฮอร์โมนความผูกพัน เช่น คอร์ติซอลและออกซิโตซิน ในทั้งมนุษย์และสัตว์เลี้ยงได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น การศึกษาในวารสาร Hormones and Behavior พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นพร้อมกันในเจ้าของและสัตว์เลี้ยงเมื่อพวกเขามีปฏิสัมพันธ์กันเชิงบวก ซึ่งอธิบายกลไกทางชีววิทยาที่อยู่เบื้องหลังความผูกพันและการเลียนแบบทางอารมณ์
สรุปบทความ ความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างมนุษย์และสัตว์เลี้ยง
จากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่นำเสนอในบทความนี้ เห็นได้ชัดว่าความคล้ายคลึงทางพฤติกรรมระหว่างสัตว์เลี้ยงและเจ้าของไม่ใช่เพียงความบังเอิญหรือเป็นเพียงการตีความของมนุษย์ แต่เป็นปรากฏการณ์ที่มีหลักฐานสนับสนุนอย่างชัดเจน
ความคล้ายคลึงนี้เกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่:
- กระบวนการคัดเลือกเบื้องต้น: เรามักเลือกสัตว์เลี้ยงที่มีบุคลิกภาพคล้ายเรา
- การเรียนรู้ทางสังคม: สัตว์เลี้ยงสังเกตและเลียนแบบพฤติกรรมของเรา
- สภาพแวดล้อมร่วม: เราแบ่งปันพื้นที่ กิจวัตร และประสบการณ์เดียวกัน
- พันธะทางชีวเคมี: ฮอร์โมนที่เหมือนกัน เช่น ออกซิโตซิน ส่งเสริมการเชื่อมโยงและการทำพฤติกรรมคล้ายกัน
ความเข้าใจถึงอิทธิพลของเราที่มีต่อพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงเปิดโอกาสให้เราสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นและส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทั้งสองฝ่าย
ดร.จอห์น แบรดชอว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ชั้นนำ สรุปว่า: "ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์เลี้ยงเป็นการเต้นรำที่ซับซ้อนของอิทธิพลร่วมกัน เมื่อเราเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราและสัตว์เลี้ยงของเราหล่อหลอมพฤติกรรมซึ่งกันและกัน เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ และเพิ่มพูนความเชื่อมโยงที่พิเศษซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์เลี้ยงเป็นหนึ่งในความผูกพันที่มีค่าที่สุดในชีวิตเรา"
งานวิจัยในอนาคตในด้านนี้มีแนวโน้มที่จะเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เกี่ยวกับวิธีที่เราและสัตว์เลี้ยงของเราสื่อสาร เรียนรู้จากกันและกัน และสร้างพันธะที่มีความหมาย เพิ่มความเข้าใจของเราเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เก่าแก่และมีความสำคัญทางวัฒนธรรมนี้ยิ่งขึ้น
ครั้งต่อไปที่คุณสังเกตเห็นสุนัขหรือแมวของคุณทำท่าทางหรือมีนิสัยที่คุ้นเคย อย่าแปลกใจ – วิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่า "เหมือนเจ้าของ เหมือนสัตว์เลี้ยง" เป็นมากกว่าแค่สำนวน แต่เป็นปรากฏการณ์ทางชีววิทยาและพฤติกรรมที่แท้จริง
บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ ทำไม หมาแมว ดมฝุ่นตลอดถึงไม่เป็นอะไรเหมือนคน?
✪ ทานเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ไหม?
✪ ยาปฏิชีวนะ มรดกจากสงครามโลกที่มีค่ากับมวลมนุษยชาติ
หากอ่านแล้วบทความมีประโยชน์ กดโหวต ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ให้ด้วยนะคะ












