หญ้าหวาน ทานเยอะเสี่ยงอะไรบ้าง?
ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น "หญ้าหวาน" หรือ "สตีเวีย" (Stevia) ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในฐานะสารให้ความหวานทางเลือกที่ดีกว่าน้ำตาล โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือผู้ที่ต้องการลดการบริโภคน้ำตาล แต่ยังอยากได้รสชาติหวานในอาหารและเครื่องดื่ม
หญ้าหวานมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Stevia rebaudiana Bertoni เป็นพืชล้มลุกที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในประเทศบราซิลและปารากวัย มีลักษณะเป็นพุ่มเตี้ยคล้ายต้นโหระพา สูงประมาณ 30-90 เซนติเมตร มีดอกช่อสีขาว และใบมีรสหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 10-15 เท่า ในขณะที่สารสกัดจากหญ้าหวานที่เรียกว่าสตีวิโอไซด์ (Stevioside) มีความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 200-300 เท่า
ด้วยคุณสมบัติให้ความหวานโดยมีแคลอรี่ต่ำและไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้หญ้าหวานเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรักสุขภาพ แต่การบริโภคหญ้าหวานในปริมาณมากเกินไปอาจมีความเสี่ยงที่ควรทราบ บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการบริโภคหญ้าหวานในปริมาณมาก
ความปลอดภัยในการทานหญ้าหวาน
หญ้าหวานได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกาว่าเป็นสารที่ "โดยทั่วไปรับรู้ว่าปลอดภัย" (Generally Recognized As Safe หรือ GRAS) สำหรับการใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหาร ในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็ได้อนุญาตให้ใช้สารสตีวิออลไกลโคไซด์ (สารสกัดจากหญ้าหวาน) เพื่อการบริโภคได้
การศึกษาวิจัยหลายชิ้นได้สนับสนุนความปลอดภัยของหญ้าหวาน ตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ผ่านคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญร่วมว่าด้วยวัตถุเจือปนอาหาร (Joint FAO/WHO Expert Committee on Food Additives หรือ JECFA) ได้กำหนดค่าการบริโภคที่ปลอดภัยต่อวัน (Acceptable Daily Intake หรือ ADI) ของสารสตีวิออลไกลโคไซด์ไว้ที่ 4 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 12 มิลลิกรัมของสารสกัดหญ้าหวานบริสุทธิ์
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้สรุปว่า สารสกัดจากหญ้าหวานมีความปลอดภัยในทุกกรณี โดยค่าสูงสุดที่บริโภคได้อย่างปลอดภัยคือ 7,938 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับการดื่มเครื่องดื่มที่ผสมหญ้าหวานถึง 73 ถ้วยต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมากและเป็นไปได้ยากในการบริโภคจริง
อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังสำหรับผู้บริโภคหญ้าหวาน โดยเฉพาะเมื่อบริโภคในปริมาณมาก ดังนี้
ข้อควรระวังจากการรับประทานหญ้าหวาน
แม้ว่าการศึกษาส่วนใหญ่ระบุว่าหญ้าหวานปลอดภัยสำหรับการบริโภค แต่การบริโภคในปริมาณมากเกินไปอาจมีผลข้างเคียงที่ควรระวัง ดังนี้
1. ผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร
หญ้าหวานอาจก่อให้เกิดอาการทางระบบย่อยอาหารในบางคน โดยเฉพาะเมื่อบริโภคร่วมกับน้ำตาลแอลกอฮอล์ ซึ่งมักพบในผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของหญ้าหวาน อาการที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:
- อาการท้องอืด
- ท้องเสีย
- ปวดท้อง
การศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของหญ้าหวานต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ยังมีผลที่ไม่ชัดเจน บางการศึกษาพบว่าอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร แต่การศึกษาล่าสุดในปี 2024 ระบุว่าไม่พบผลเสียต่อสุขภาพลำไส้อย่างมีนัยสำคัญในระยะเวลาการศึกษา 12 สัปดาห์
2. ผลต่อความดันโลหิต
หญ้าหวานมีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง แต่อาจเป็นอันตรายสำหรับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำอยู่แล้ว หรือผู้ที่กำลังใช้ยาลดความดันโลหิต เนื่องจากอาจทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลงมากเกินไป
การวิจัยเกี่ยวกับผลของหญ้าหวานต่อความดันโลหิตยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน บางการศึกษาระบุว่าไม่พบผลกระทบต่อระดับความดันโลหิตในคนปกติ แต่ก็ยังต้องระมัดระวังสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านความดันโลหิตอยู่แล้ว
บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ จริงๆ แล้วคนจีนกินเจเยอะไหม? แล้วกินเจเป็นความเชื่อมาจากไหน?
✪ เข้าหน้าร้อนแล้ว ไม่ล้างแอร์นาน เสี่ยงเกิดโรคปอดอักเสบ
3. ผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
แม้ว่าหญ้าหวานจะไม่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แต่การบริโภคในปริมาณมากอาจส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินได้ โดยอาจมีผลกระทบต่อการตอบสนองของร่างกายต่อน้ำตาลในเลือด
นอกจากนี้ ผู้ที่ใช้ยาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอยู่แล้ว ควรระมัดระวังการใช้หญ้าหวานเนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยากับยา ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงมากเกินไป
4. ผลกระทบต่อไตและระบบขับถ่าย
หญ้าหวานมีคุณสมบัติเป็นยาขับปัสสาวะ (diuretic) ทำให้ร่างกายขับน้ำและอิเล็กโทรไลต์ออกทางปัสสาวะเร็วขึ้น การบริโภคหญ้าหวานในปริมาณมากอาจส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อไตและระบบขับถ่าย
บางการศึกษาได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของหญ้าหวานดิบต่อไตในระยะยาว แต่ในสารสกัดบริสุทธิ์ที่ผ่านการรับรองยังไม่พบความเสี่ยงที่ชัดเจน
5. ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ
มีการศึกษาบางชิ้นที่แสดงความกังวลว่าสตีวิออลไกลโคไซด์มีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายกับฮอร์โมนสเตียรอยด์ จึงอาจรบกวนการผลิตฮอร์โมนในร่างกายได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปว่าหญ้าหวานเป็นสารรบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อในมนุษย์
6. อาการแพ้
แม้ว่าจะพบได้ไม่บ่อย แต่บางคนอาจเกิดอาการแพ้หญ้าหวานได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการแพ้พืชในตระกูลเดียวกัน (วงศ์ Asteraceae หรือ Compositae) เช่น ดอกทานตะวัน ดอกเบญจมาศ หรือโสม
อาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ผื่นคัน หอบหืด คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ หรือปวดกล้ามเนื้อ
แนวทางการบริโภคหญ้าหวานอย่างปลอดภัย
เพื่อให้การบริโภคหญ้าหวานเกิดประโยชน์สูงสุดและปลอดภัย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:
- ควบคุมปริมาณการบริโภค: ไม่ควรบริโภคเกินปริมาณที่แนะนำ ซึ่งโดยทั่วไปคือประมาณ 1-2 ใบต่อเครื่องดื่ม 1 ถ้วย หรือตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน: ควรเลือกผลิตภัณฑ์หญ้าหวานที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อย. และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์หญ้าหวานที่ไม่ได้ระบุแหล่งที่มาหรือไม่มีฉลากชัดเจน
- ปรึกษาแพทย์: ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงหรือต่ำ โรคไต หรือผู้ที่กำลังใช้ยาประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้หญ้าหวานเป็นประจำ
- สังเกตอาการผิดปกติ: หากพบอาการผิดปกติหลังจากบริโภคหญ้าหวาน เช่น ผื่นคัน คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย ควรหยุดบริโภคและปรึกษาแพทย์
- หลีกเลี่ยงการใช้ในกลุ่มเสี่ยง: สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ควรระมัดระวังการใช้หญ้าหวาน แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นอันตราย แต่แนวทางโภชนาการสำหรับชาวอเมริกัน 2020-2025 ไม่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีบริโภคสารให้ความหวานชนิดแคลอรี่ต่ำ
บทสรุปข้อควรระวังต้องรู้ในการบริโภคหญ้าหวานอย่างปลอดภัย
หญ้าหวานเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดการบริโภคน้ำตาล แต่ยังคงต้องการรสชาติหวานในอาหารและเครื่องดื่ม การศึกษาส่วนใหญ่สนับสนุนว่าหญ้าหวานมีความปลอดภัยสำหรับการบริโภคในปริมาณที่แนะนำ แต่การบริโภคในปริมาณมากเกินไปอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้ที่ใช้ยาเป็นประจำ
เช่นเดียวกับอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด การบริโภคหญ้าหวานควรอยู่ในความพอดี และควรเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่สมดุลและหลากหลาย เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดโดยไม่เกิดผลเสียต่อสุขภาพ
หากท่านมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับการบริโภคหญ้าหวาน โดยเฉพาะหากท่านมีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยาเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสุขภาพของท่าน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ หญ้าหวาน (FAQ)
1. หญ้าหวานปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือไม่?
หญ้าหวานโดยทั่วไปปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และเป็นทางเลือกที่ดีในการทดแทนน้ำตาล เนื่องจากไม่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยเบาหวานที่ใช้ยาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้หญ้าหวานเป็นประจำ เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยากับยาที่อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงมากเกินไป
2. หญ้าหวานช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่?
หญ้าหวานอาจช่วยลดน้ำหนักได้ในทางอ้อม เนื่องจากมีแคลอรี่ต่ำกว่าน้ำตาลมาก การเปลี่ยนจากการใช้น้ำตาลมาใช้หญ้าหวานอาจช่วยลดปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับโดยรวม อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าหญ้าหวานมีผลโดยตรงต่อการลดน้ำหนัก และบางการศึกษาพบว่าสารให้ความหวานที่ไม่ให้พลังงานอาจส่งผลต่อความอยากอาหารและการบริโภคในมื้อต่อไป
3. ความแตกต่างระหว่างหญ้าหวานกับน้ำตาลเทียมชนิดอื่นคืออะไร?
หญ้าหวานเป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติ ในขณะที่น้ำตาลเทียมส่วนใหญ่ เช่น แอสปาร์เทม (Aspartame), ซูคราโลส (Sucralose), ซัคคาริน (Saccharin) เป็นสารสังเคราะห์ หญ้าหวานมักได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยมากกว่าน้ำตาลเทียมบางชนิดที่อาจมีข้อกังวลด้านความปลอดภัยในระยะยาว
4. เด็กสามารถบริโภคหญ้าหวานได้หรือไม่?
เด็กอายุมากกว่า 2 ปีสามารถบริโภคหญ้าหวานได้ภายในปริมาณที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม แนวทางโภชนาการสำหรับชาวอเมริกัน 2020-2025 ไม่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีบริโภคสารให้ความหวานชนิดแคลอรี่ต่ำ รวมถึงหญ้าหวาน เพื่อไม่ให้เด็กเล็กพัฒนาความชอบรสหวานจัดในช่วงวัยที่สำคัญต่อการพัฒนา
5. หญ้าหวานมีผลข้างเคียงระยะยาวหรือไม่?
จากการศึกษาที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยังไม่พบผลข้างเคียงระยะยาวที่ชัดเจนจากการบริโภคหญ้าหวานในปริมาณที่แนะนำ อย่างไรก็ตาม การวิจัยเกี่ยวกับผลระยะยาวของการบริโภคหญ้าหวานต่อสุขภาพยังคงดำเนินอยู่ และอาจมีข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคต
6. สารสกัดจากหญ้าหวานและใบหญ้าหวานสดมีความปลอดภัยเท่ากันหรือไม่?
สารสกัดบริสุทธิ์จากหญ้าหวาน (สตีวิออลไกลโคไซด์) ที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความปลอดภัยสูงกว่าใบหญ้าหวานสดหรือสารสกัดหยาบ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ไม่อนุญาตให้นำเข้าใบหญ้าหวานและสารสกัดหยาบจากหญ้าหวานเพื่อใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหาร เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ
บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ เคยสงสัยกันไหม ผลไม้รถเข็นถึงหวานฉ่ำจัง? ความลับการเพิ่มความหวานผลไม้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ
✪ ผลไม้บ่มสุก ดีจริงเหมือนผลไม้ที่สุกเองตามธรรมชาติหรือไม่?
✪ 5 ประโยชน์ผงกล้วยดิบ ที่ช่วยได้มากกว่าลดกรดไหลย้อน
หากอ่านแล้วบทความมีประโยชน์ กดโหวต ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ให้ด้วยนะคะ













