วิหารมงต์ แซงต์ มิเชล (Mont Saint Michel) สิ่งมหัศจรรย์แห่งแคว้นนอร์มังดี
มง-แซ็ง-มีแชล (ฝรั่งเศส: Mont-Saint-Michel \[lə mɔ̃ sɛ̃ miʃɛl]; ภาษานอร์มังดี: Mont Saint Miché; อังกฤษ: Saint Michael's Mount) เป็นเกาะน้ำขึ้นน้ำลง และเทศบาลบนแผ่นดินใหญ่ ตั้งอยู่ในแคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส
เกาะนี้ ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสราว 1 กิโลเมตร (ครึ่งไมล์ทะเล) ที่ปากแม่น้ำกูเอส์นง ใกล้เมืองอาฟร็องช์ มีพื้นที่ประมาณ 7 เฮกตาร์ (17 เอเคอร์) ส่วนพื้นที่บนแผ่นดินใหญ่ของเทศบาลนี้มีขนาด 393 เฮกตาร์ (971 เอเคอร์) รวมพื้นที่ทั้งหมดของเทศบาลเป็น 400 เฮกตาร์ (990 เอเคอร์) ณ ปี 2019 มีประชากรบนเกาะเพียง 29 คน
ตำแหน่งของเทศบาลที่ตั้งอยู่บนเกาะ ห่างจากฝั่งเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ทำให้สามารถเข้าถึงได้ในช่วงน้ำลงสำหรับผู้แสวงบุญที่มุ่งหน้าไปยังอารามบนเกาะ อีกทั้งยังสามารถป้องกันการรุกรานได้ดี เนื่องจากน้ำขึ้นสามารถทำให้ผู้รุกรานติดอยู่กลางทะเล บังคับให้ล่าถอย หรือแม้แต่จมน้ำเสียชีวิต เกาะแห่งนี้ไม่เคยถูกยึดได้เลยในช่วงสงครามร้อยปี โดยในปี ค.ศ. 1433 กองทหารรักษาการณ์ขนาดเล็กสามารถป้องกันการโจมตีใหญ่ของอังกฤษไว้ได้ หลุยส์ที่ 11 ตระหนักถึงประโยชน์จากลักษณะป้องกันตามธรรมชาตินี้และเปลี่ยนเกาะให้กลายเป็นคุก อารามแห่งนี้ถูกใช้เป็นเรือนจำอย่างต่อเนื่องในช่วงระบอบโบราณ (Ancien Régime)
มง-แซ็ง-มีแชลและอ่าวโดยรอบ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโกในปี 1979 เนื่องจากมีความงดงามทางทัศนียภาพ และความสำคัญทางศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากกว่า 3 ล้านคนต่อปี และเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีผู้มาเยือนมากที่สุด ในฝรั่งเศสนอกกรุงปารีส มีอาคารภายในเทศบาลมากกว่า 60 หลัง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์
ภูมิศาสตร์
การก่อตัว เดิมทีมง-แซ็ง-มีแชล เคยเป็นส่วนหนึ่งของผืนดินแห้ง ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ แต่เมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ก็ทำให้ภูมิประเทศเปลี่ยนไป โดยมีหินแกรนิตบางส่วนที่ต้านทานการกัดเซาะของน้ำทะเลได้ดีกว่าหินโดยรอบ และยื่นขึ้นมาเป็นเกาะในอ่าว เช่น ลีลแมร์ (Lillemer), มง ดอล (Mont Dol), ตอมเบอลีน (Tombelaine – เกาะทางเหนือของมง-แซ็ง-มีแชล) และมง ตอมบ์ (Mont Tombe) ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นมง-แซ็ง-มีแชล
ภูเขาแห่งนี้ ประกอบด้วยหินแกรนิตชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า "ลูโคแกรนิต" (leucogranite) ซึ่งเกิดจากแมกมาใต้ดินแข็งตัวเมื่อราว 525 ล้านปีก่อน ในยุคแคมเบรียน และเป็นส่วนหนึ่งของมวลหินแกรนิตแมนเซลเลียน (Mancellian batholith) ในการศึกษายุคแรก ๆ นักธรณีวิทยาฝรั่งเศสบางคนเรียกหินชนิดนี้ว่า "กรานูไลต์" (granulite) แต่ปัจจุบัน คำนี้ไม่ใช้ในความหมายแบบหินแกรนิตอีกต่อไป เกาะมีเส้นรอบวงประมาณ 960 เมตร และจุดที่สูงที่สุดอยู่ที่ 92 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
น้ำขึ้นน้ำลง
ระดับน้ำขึ้นน้ำลงบริเวณนี้แตกต่างกันมาก โดยมีความสูงระหว่างระดับต่ำสุดและสูงสุดประมาณ 14 เมตร ชาวยุคกลางที่เดินทางแสวงบุญข้ามพื้นทรายมักเรียกเกาะนี้ว่า "นักบุญมีแชลในภยันตรายแห่งท้องทะเล" (St. Michael in peril of the sea) แม้ในปัจจุบัน หากหลีกเลี่ยงเส้นทางที่กำหนด การเดินข้ามพื้นที่ทรายอาจยังเป็นอันตรายอยู่
การพัฒนาพื้นที่หนองน้ำเค็มเพื่อใช้เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงแกะ ส่งผลให้เนื้อแกะที่ได้จากบริเวณนี้มีรสชาติเฉพาะ เรียกว่า *agneau de pré-salé* (แกะจากทุ่งหญ้าเค็ม) ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นยอดนิยมในร้านอาหารแถบนี้
เกาะน้ำขึ้นน้ำลง
การเชื่อมต่อระหว่างมง-แซ็ง-มีแชลกับแผ่นดินใหญ่ เปลี่ยนแปลงไปหลายครั้ง เดิมทีเชื่อมด้วยถนนที่โผล่พ้นน้ำเฉพาะช่วงน้ำลง แต่ในปี 1879 ได้สร้างถนนยกระดับ ซึ่งขัดขวางการไหลเวียนของน้ำและทำให้ตะกอนทรายสะสมมากขึ้น พื้นที่ชายฝั่งบางส่วนถูกปรับเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ทำให้ระยะทางระหว่างฝั่งกับเกาะสั้นลง อีกทั้งแม่น้ำกูเอส์นงก็ถูกปรับให้ไหลเป็นทางตรงมากขึ้น ซึ่งล้วนส่งผลให้การสะสมของตะกอนเกิดมากขึ้น
ในเดือนมิถุนายน 2006 นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสโดมินิก เดอ วิลแพ็ง และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ได้ประกาศโครงการมูลค่า 200 ล้านยูโร (Projet Mont-Saint-Michel) เพื่อสร้างเขื่อนควบคุมน้ำ โดยใช้กระแสน้ำและน้ำจากแม่น้ำกูเอส์นงช่วยพัดพาตะกอนออกไป เพื่อให้เกาะกลับมาเป็นเกาะจริง ๆ การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี 2009 รวมถึงการรื้อถนนเก่าและลานจอดรถนักท่องเที่ยว
ตั้งแต่เดือนเมษายน 2012 ที่จอดรถใหม่ถูกย้ายไปยังฝั่งแผ่นดินใหญ่ ห่างจากเกาะ 2.5 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินหรือใช้บริการรถรับส่งข้ามสะพานไปยังเกาะได้
ในเดือนกรกฎาคม 2014 สะพานใหม่ที่ออกแบบโดยสถาปนิก ดีทมาร์ ไฟช์ติงเงอร์ เปิดให้สาธารณชนใช้งาน โดยออกแบบให้กระแสน้ำไหลเวียนได้สะดวก และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเขื่อนใหม่ สะพานนี้มีมูลค่า 209 ล้านยูโร และเปิดใช้อย่างเป็นทางการ โดยประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์
ในบางโอกาสระดับน้ำทะเลอาจสูงผิดปกติ เช่น เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2015 ที่เกิด "คลื่นน้ำขึ้นพิเศษ" (supertide) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุก 18 ปี สะพานใหม่นี้ถูกน้ำท่วมอย่างสมบูรณ์ ท่ามกลางผู้คนที่มารอชมและถ่ายภาพ
ประวัติศาสตร์
ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 เป็นต้นมา ก่อนจะมีการก่อสร้างวัดแห่งแรก ในคริสต์ศตวรรษที่ 8 เกาะแห่งนี้มีชื่อว่า “มง ตอมบ์” (Mont Tombe) มาจากภาษาละติน *tumba* ตามตำนานกล่าวว่า เทวทูตมีแชลปรากฏตัวต่อออแบร์แห่งอาฟร็องช์ พระสังฆราชของอาฟร็องช์ในปี 708 และสั่งให้สร้างโบสถ์บนเกาะแห่งนี้
เมื่อกษัตริย์แห่งแฟรงค์ ไม่สามารถต้านทานการรุกรานของไวกิ้งได้ จึงตกลงให้แคว้นโกต็องแต็งและอาฟร็องช์รวมถึงมง-แซ็ง-มีแชลแก่ชาวเบรอตงตามสนธิสัญญากงเปีญญ์ แต่ในความเป็นจริง ดินแดนเหล่านี้รวมถึงมง-แซ็ง-มีแชลไม่เคยรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดัชชีเบรอตาญอย่างแท้จริง ราวปี 989–990 เขตสังฆมณฑลที่เคยว่างเว้นเพราะการรุกรานของไวกิ้งจึงเริ่มมีบิชอปกลับมาประจำการอีกครั้ง
ในปี 933 วิลเลียมที่ 1 แห่งนอร์ม็องดี ได้ผนวกแคว้นโกต็องแต็งจากดัชชีเบรอตาญ ทำให้มง-แซ็ง-มีแชลกลายเป็นส่วนหนึ่งของนอร์ม็องดีโดยสมบูรณ์ เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้ในพรมบาเยอ (Bayeux Tapestry) ที่แสดงฉากแฮโรลด์ กอดวินสัน ช่วยเหลืออัศวินนอร์มันสองคนที่ติดอยู่ในโคลนในช่วงสงครามเบรอตง-นอร์มัน
ในปี 1067 วัดมง-แซ็ง-มีแชล ให้การสนับสนุนวิลเลียม ผู้พิชิตในการอ้างสิทธิ์ราชบัลลังก์อังกฤษ เขาจึงตอบแทนด้วยที่ดินฝั่งอังกฤษ รวมถึงเกาะเล็ก ๆ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของคอร์นวอลล์ ซึ่งจำลองมาจากมง-แซ็ง-มีแชล และกลายเป็นวัดนอร์มันชื่อ *St Michael’s Mount of Penzance*
สงครามร้อยปี
ในช่วงสงครามร้อยปี กองทัพอังกฤษพยายามล้อมมง-แซ็ง-มีแชลสองครั้งแต่ไม่สำเร็จ การล้อมครั้งแรกเริ่มในปี 1423 และยุติในปีถัดมา ส่วนการล้อมครั้งที่สองเกิดขึ้นในปี 1433 โดยโธมัส สเกลส์ (Thomas Scales) ที่นำกองทัพติดตั้งปืนใหญ่เหล็กหล่อมาโจมตี แต่ก็ล้มเหลวเช่นกัน ในวันที่ 17 มิถุนายน 1434 กองทัพอังกฤษได้ทิ้งปืนใหญ่สองกระบอกไว้ ปัจจุบันปืนใหญ่ทั้งสองกระบอกนี้ จัดแสดงอยู่บนเกาะ
การแสวงบุญสมัยใหม่
ในยุคกลาง ผู้แสวงบุญเดินทางจากอิตาลี เยอรมนี และอังกฤษ รวมทั้งจากพื้นที่ต่าง ๆ ของฝรั่งเศสเพื่อมายังมง-แซ็งมีแชล โดยผู้จงรักภักดีเหล่านี้รู้จักกันในชื่อว่า “มิเกอลอ” (Miquelots) ในปัจจุบัน ผู้แสวงบุญยังคงสามารถเดินตามเส้นทางโบราณเหล่านี้ได้ มีเส้นทางเดินเท้าราวสิบเส้นทางที่ได้รับการจัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้แสวงบุญจากประเทศต่าง ๆ ในยุโรปสามารถรำลึกและเดินทางตามรอยเส้นทางที่บรรพบุรุษของตนอาจเคยใช้ในช่วงการแสวงบุญยุคกลาง
ในวัฒนธรรมสมัยนิยม
**ภาพยนตร์**
ส่วนหนึ่งของฉากในภาพยนตร์แนวทริลเลอร์ *Assignment in Brittany* ของเฮเลน แมคอินเนส (Helen MacInnes) ที่ออกฉายในปี 1943 ได้เกิดขึ้นที่มง-แซ็งมีแชล รวมถึงฉากการไล่ล่ากลางคืนที่ตื่นเต้นเร้าใจผ่านผืนทราย ปีเตอร์ แจ็กสัน ได้รับแรงบันดาลใจจากมง-แซ็งมีแชลในการออกแบบเมืองหลวงของกอนดอร์ “มีนัสทิริธ” (Minas Tirith) ในภาพยนตร์ *The Lord of the Rings: The Return of the King* ในปี 2003
ราชอาณาจักรโคโรนา ในภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง *Tangled* (2010) ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากมง-แซ็งมีแชลเช่นกัน
มง-แซ็งมีแชล ยังถูกนำเสนอในตอนสุดท้ายของซีซันแรก ของซีรีส์ *The Walking Dead: Daryl Dixon* รวมทั้งในซีซันที่สอง
















