ไขความลับมะม่วง 5 สายพันธุ์ยอดฮิต คนไทยกินมากที่สุด
ผลไม้คู่ครัวไทยที่มากกว่าความอร่อย ไขความลับมะม่วง 5 สายพันธุ์ยอดฮิต
ถ้าพูดถึงผลไม้ที่อยู่คู่คนไทยมานาน กินได้ทุกวัย และไม่มีวันตกเทรนด์ ชื่อของ “มะม่วง” คงติดอันดับต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งกินดิบกินสุก จิ้มพริกเกลือ หรือคลุกข้าวเหนียวมูน ทุกคำที่ลิ้มลองคือความสุขที่แสนเรียบง่าย
แต่มะม่วงไม่ได้มีดีแค่ความอร่อยเท่านั้น เพราะยังซ่อนคุณค่าทางอาหารไว้อย่างไม่น่าเชื่อ และเชื่อหรือไม่—ในบรรดามะม่วงนับร้อยสายพันธุ์ มีอยู่เพียงไม่กี่ชนิดที่ครองใจคนไทยอย่างเหนียวแน่น มาดูกันว่า สายพันธุ์ไหนคือ “ตัวจริงเสียงจริง” ในใจของคนไทย
มะม่วงน้ำดอกไม้
ขวัญใจข้าวเหนียวมะม่วงตัวจริง น้ำดอกไม้มีรสหวานจัด เนื้อละเอียด นุ่ม ไม่มีเสี้ยน ไม่มียาง จุดเด่นของพันธุ์นี้คือผลยาวรี ผิวเปลือกสีเหลืองทองนวลเมื่อสุก เหมาะกับการกินสดหรือใช้ในของหวาน ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวมูนหรือพุดดิ้งมะม่วงก็เข้ากันอย่างลงตัว จึงไม่น่าแปลกใจที่เป็นสายพันธุ์ยอดนิยมในการส่งออกไปทั่วโลก
มะม่วงเขียวเสวย
กรอบนอก นุ่มใน รสหวานอมเปรี้ยวที่กินได้เพลินแบบไม่ต้องจิ้มอะไรเพิ่ม มะม่วงเขียวเสวยเป็นหนึ่งในมะม่วงดิบที่หลายคนหลงรัก ด้วยเนื้อแน่น กรอบพอดีคำ และกลิ่นหอมเบา ๆ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่ชอบรสจัดเกินไป นิยมกินกับน้ำปลาหวานหรือพริกเกลือเบา ๆ และยังจัดว่าเป็นของโปรดของสาว ๆ ที่อยากได้รสเปรี้ยวพอดี ๆ ไม่จี๊ดเกินไป
มะม่วงฟ้าลั่น
ถ้าพูดถึงสายพันธุ์ที่เปรี้ยวจัดจ้าน มะม่วงฟ้าลั่นคือตัวแม่แห่งวงการ เปลือกหนา เนื้อแน่น กรอบสะใจ รสชาติเปรี้ยวจี๊ดจนสะดุ้ง มะม่วงชนิดนี้ถูกใจสายแซ่บ กินสดกับพริกเกลือก็เด็ด ทำยำก็แซ่บ หรือจะจิ้มน้ำปลาหวานก็กลมกล่อม ไม่แปลกใจเลยที่ตามตลาดจะขายดีตลอดทั้งปี
มะม่วงแรด
ผลใหญ่สะดุดตา เนื้อกรอบหนา และเปลือกเขียวเข้มเป็นเอกลักษณ์ จุดเด่นของมะม่วงแรดคือความเปรี้ยวถึงใจ พร้อมกลิ่นเฉพาะตัวที่คอมะม่วงตัวจริงรู้ดี เหมาะสำหรับการกินดิบแบบจิ้มเกลือแซ่บ ๆ หรือทำมะม่วงดองก็อร่อยไปอีกแบบ
มะม่วงแก้ว
แม้จะดูเรียบง่ายและไม่หวานจัด แต่มะม่วงแก้วคือพันธุ์บ้าน ๆ ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว กินได้ทั้งดิบและสุก ดิบจะออกเปรี้ยว สุกแล้วจะหวานอมเปรี้ยว เนื้อไม่แน่นมาก และมีเสี้ยนเล็กน้อย จุดเด่นคือนำไปแปรรูปได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทำมะม่วงแช่อิ่ม มะม่วงกวน หรือดองก็รสชาติดีไม่แพ้ใคร
มะม่วง: ผลไม้ที่มีมากกว่ารสชาติ
นอกจากความอร่อยแล้ว มะม่วงยังเป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ดีต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงผิว เสริมภูมิคุ้มกัน และส่งเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
คุณค่าทางโภชนาการในมะม่วงสุก 100 กรัม:
-
พลังงาน: 60–70 กิโลแคลอรี
-
น้ำตาลธรรมชาติ: 13–14 กรัม
-
วิตามินซี: สูงมาก ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
-
วิตามินเอ: บำรุงสายตา ผิวพรรณ
-
ไฟเบอร์: ช่วยเรื่องขับถ่าย ลดคอเลสเตอรอล
-
โพแทสเซียม: ควบคุมความดันโลหิต
-
สารต้านอนุมูลอิสระ: ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและมะเร็ง
เมื่อความอร่อยอาจมากเกินไป
แม้มะม่วงจะเต็มไปด้วยประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะถ้ากินในปริมาณมากหรือมีโรคประจำตัวบางอย่าง
-
น้ำตาลสูง: โดยเฉพาะในมะม่วงสุก ผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยงหรือบริโภคอย่างจำกัด
-
ร้อนใน: การกินมะม่วงมากเกินไป โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน อาจทำให้ร้อนในหรือเจ็บคอ
-
กระเพาะระคายเคือง: มะม่วงดิบมีกรดมาก กินตอนท้องว่างอาจทำให้ปวดท้อง
-
แพ้ยางมะม่วง: ผู้ที่แพ้อาจมีอาการคันหรือผื่นรอบปากหลังสัมผัสเปลือก
มะม่วงไม่ใช่แค่ผลไม้ประจำบ้านของคนไทย แต่คือผลไม้มหัศจรรย์ที่รวมทั้งรสชาติและคุณประโยชน์ไว้ในผลเดียว ไม่ว่าจะเป็นสายเปรี้ยวจัดจ้าน สายหวานละมุน หรือสายสุขภาพ มะม่วงก็มีตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณได้เสมอ
เพียงกินในปริมาณที่พอดี เลือกสายพันธุ์ที่ถูกใจ และดูแลเรื่องความสะอาดขณะกิน คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับ “ราชาแห่งผลไม้เมืองร้อน” นี้ได้อย่างเต็มอิ่ม ทั้งอร่อย ทั้งดีต่อสุขภาพในทุกคำ

















