ชุดไปรเวท แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนได้จริงหรือไม่?
ประเด็นเรื่องชุดนักเรียนและความเหลื่อมล้ำในระบบการศึกษาเป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานในสังคมไทย หลายฝ่ายมองว่าการใส่ชุดไปรเวทอาจเป็นทางออกที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในโรงเรียน แต่อีกฝ่ายกลับเห็นว่าชุดนักเรียนคือตัวช่วยที่ทำให้เด็กทุกคนเท่าเทียมกัน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจข้อเท็จจริง ข้อมูลเชิงลึก และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ เพื่อตอบคำถามว่า "ชุดไปรเวทแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนได้จริงหรือไม่"
ความเหลื่อมล้ำการใส่ชุดนักเรียน
ชุดนักเรียนเป็นอัตลักษณ์อย่างหนึ่งของระบบการศึกษาไทยมาอย่างยาวนาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้จะมีเครื่องแบบเดียวกัน ความเหลื่อมล้ำก็ยังคงปรากฏอยู่ในหลายมิติ
ปัญหาความเหลื่อมล้ำในระบบเครื่องแบบนักเรียน
จากการศึกษา 2566 จากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าแม้นักเรียนจะสวมใส่ชุดนักเรียนเหมือนกัน แต่ความเหลื่อมล้ำยังคงปรากฏผ่าน:
- คุณภาพของเครื่องแบบ - นักเรียนจากครอบครัวที่มีฐานะดีมักสวมใส่ชุดนักเรียนที่มีคุณภาพดีกว่า ตัดเย็บพิเศษ ในขณะที่นักเรียนจากครอบครัวรายได้น้อยอาจต้องใช้ชุดนักเรียนเก่าหรือชุดมือสอง
- อุปกรณ์เสริม - กระเป๋านักเรียน รองเท้า ถุงเท้า และเครื่องประดับอื่นๆ กลายเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม
- การบำรุงรักษา - ความสามารถในการดูแลรักษาชุดให้สะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอขึ้นอยู่กับสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัว
งานวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ในปี 2565 พบว่า นักเรียนกว่า 30% รู้สึกมีปมด้อยเมื่อชุดนักเรียนของตนเองมีสภาพไม่ดีเท่าเพื่อน ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจและการเรียนรู้
มุมมองเชิงสังคมวิทยา
ศาสตราจารย์ ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ได้วิเคราะห์ว่า เครื่องแบบนักเรียนเป็นเครื่องมือควบคุมทางสังคมรูปแบบหนึ่ง ที่แม้จะมีวัตถุประสงค์ในการสร้างความเท่าเทียม แต่ในทางปฏิบัติกลับกลายเป็นพื้นที่แสดงความแตกต่างทางชนชั้นในรูปแบบที่ละเอียดอ่อนกว่า
ข้อดี-ข้อเสีย ชุดนักเรียน และชุดไปรเวท
การถกเถียงเรื่องชุดนักเรียนและชุดไปรเวทมีประเด็นที่น่าสนใจหลายแง่มุม งานวิจัยจากหลายแหล่งได้ชี้ให้เห็นข้อดีและข้อเสียของทั้งสองฝั่ง
ข้อดีของชุดนักเรียน
- สร้างความเท่าเทียมเบื้องต้น - การศึกษาโดย Craik (2018) พบว่าชุดนักเรียนช่วยลดการเปรียบเทียบฐานะทางเศรษฐกิจอย่างโจ่งแจ้ง
- ลดภาระการตัดสินใจ - งานวิจัยด้านจิตวิทยาโดย Dr. Martin และคณะ (2019) พบว่าการมีชุดนักเรียนช่วยลด "decision fatigue" หรือความเหนื่อยล้าจากการตัดสินใจในแต่ละวัน
- สร้างอัตลักษณ์และความภาคภูมิใจ - การศึกษาของ สุพัตรา โกศัยกานนท์ (2564) พบว่านักเรียนไทยกว่า 65% รู้สึกภาคภูมิใจในการสวมใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนตนเอง
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว - สำหรับครอบครัวรายได้น้อย การซื้อชุดนักเรียนจำนวนจำกัดและใช้ซ้ำประหยัดกว่าการต้องซื้อเสื้อผ้าหลากหลายชุด
ข้อเสียของชุดนักเรียน
- ไม่ส่งเสริมความเป็นตัวเอง - งานวิจัยของ Wilson และ Beech (2020) พบว่าเครื่องแบบอาจจำกัดการแสดงออกถึงตัวตนของเด็กและเยาวชน
- ค่าใช้จ่ายสูงสำหรับครอบครัวบางกลุ่ม - การศึกษาเชิงเศรษฐศาสตร์โดยธนาคารโลก (2563) พบว่าค่าชุดนักเรียนคิดเป็น 8-12% ของค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาทั้งหมดของครอบครัวไทยที่มีรายได้น้อย
- ไม่สอดคล้องกับสภาพอากาศ - ชุดนักเรียนไทยที่ออกแบบมานานหลายทศวรรษอาจไม่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ สัตว์เลี้ยงมีพฤติกรรมเหมือนกับเจ้าของจริงหรือไม่?
✪ ต่อยท้องเล่นๆ ลำไส้ทะลุ-ตับแตก เสี่ยงตาย และมีปัญหาช่องท้องระยะยาว อย่าเล่นพิเรนทร์! มีลูกเตือนลูก!
ข้อดีของชุดไปรเวท
- ส่งเสริมความเป็นตัวเอง - การศึกษาของ ดร.วิทยา ชินบุตร (2565) พบว่าการแต่งกายตามความชอบช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและการแสดงออกทางอัตลักษณ์ของเยาวชน
- ความยืดหยุ่นและความสบาย - นักเรียนสามารถเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศและการเคลื่อนไหวได้ดีกว่า
- ฝึกทักษะการตัดสินใจ - งานวิจัยของ Thompson (2021) พบว่าการให้นักเรียนเลือกเสื้อผ้าเองช่วยฝึกทักษะการตัดสินใจและการจัดการตนเอง
ข้อเสียของชุดไปรเวท
- เพิ่มความเหลื่อมล้ำที่มองเห็นได้ชัด - งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (2564) พบว่าการแต่งกายด้วยชุดส่วนตัวอาจทำให้ความแตกต่างทางเศรษฐฐานะปรากฏชัดขึ้น
- แรงกดดันทางสังคมและการบูลลี่ - การศึกษาโดย Johnson และคณะ (2022) พบว่าโรงเรียนที่ไม่มีเครื่องแบบมีอัตราการรังแกกันในประเด็นเกี่ยวกับการแต่งกายสูงกว่า 15%
- ค่าใช้จ่ายที่อาจสูงขึ้น - สำหรับครอบครัวบางกลุ่ม การซื้อเสื้อผ้าหลากหลายชุดเพื่อหมุนเวียนอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการซื้อชุดนักเรียนไม่กี่ชุด
ค่าใช้จ่ายการซื้อชุดนักเรียน VS ความเหลื่อมล้ำ แฟชั่นชุดไปรเวท
การเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างชุดนักเรียนและชุดไปรเวทเป็นประเด็นสำคัญในการพิจารณาความเหลื่อมล้ำ
ค่าใช้จ่ายชุดนักเรียน
จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2567 พบว่า:
| รายการ | ราคาเฉลี่ย (บาท) |
|---|---|
| เสื้อนักเรียน | 250-450 |
| กางเกง/กระโปรง | 300-600 |
| รองเท้า | 350-800 |
| ถุงเท้า | 80-150 |
| เข็มขัด | 150-300 |
| เนคไท/โบว์ | 100-200 |
| รวมต่อชุด | 1,230-2,500 |
ครอบครัวไทยที่มีอันจะกินโดยเฉลี่ยจำเป็นต้องซื้อชุดนักเรียนประมาณ 2-3 ชุดต่อปี รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 2,500-7,500 บาทต่อนักเรียนหนึ่งคน ส่วนครอบครัวที่มีรายได้น้อย และอยู่โรงเรียนต่างจังหวัดส่วนมากจะซื้อชุดนักเรียนใหม่ 2-3 ชุดต่อชั้นการศึกษา (ประถม, มัธยม เป็นต้น)
ค่าใช้จ่ายชุดไปรเวท
การศึกษาโดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (2566) พบว่าค่าใช้จ่ายของชุดไปรเวทมีความหลากหลายมาก:
- กลุ่มรายได้น้อย: ใช้จ่ายประมาณ 1,000-8,000 บาทต่อปีสำหรับเสื้อผ้านักเรียนหนึ่งคน
- กลุ่มรายได้ปานกลาง: ใช้จ่ายประมาณ 8,000-15,000 บาทต่อปี
- กลุ่มรายได้สูง: อาจใช้จ่ายมากกว่า 15,000 บาทขึ้นไปต่อปี
ผลสำรวจจาก 2567 สะท้อนให้เห็นว่าในโรงเรียนที่อนุญาตให้แต่งกายด้วยชุดไปรเวท นักเรียนร้อยละ 42 รู้สึกกดดันที่ต้องแต่งตัวให้ทันสมัยและไม่ซ้ำกับวันก่อนหน้า โดยเฉพาะในยุคโซเชียลมีเดียที่มีการแชร์รูปอย่างต่อเนื่อง
ผลกระทบทางจิตวิทยาและสังคม
งานวิจัยจาก Prof. Emma Davies แห่งมหาวิทยาลัย Oxford (2023) พบว่า:
- นักเรียนในโรงเรียนที่ใช้ชุดไปรเวทรายงานความกังวลเกี่ยวกับการแต่งกายสูงกว่า 37% เมื่อเทียบกับโรงเรียนที่ใช้เครื่องแบบ
- เด็กจากครอบครัวรายได้น้อยมีความเสี่ยงต่อการถูกล้อเลียนหรือแบ่งแยกเพราะไม่สามารถตามเทรนด์แฟชั่นได้
- นักเรียนหญิงมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากประเด็นนี้มากกว่านักเรียนชาย
กรณีศึกษาจากต่างประเทศ
ประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีแนวทางที่หลากหลายในการจัดการกับประเด็นชุดนักเรียนและความเหลื่อมล้ำ
สหราชอาณาจักร: การยึดมั่นในเครื่องแบบ
สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในการใช้ชุดนักเรียน การศึกษาโดย London School of Economics (2022) พบว่า:
- 98% ของโรงเรียนรัฐบาลในอังกฤษบังคับใช้ชุดนักเรียน
- รัฐบาลมีโครงการสนับสนุนค่าชุดนักเรียนสำหรับครอบครัวรายได้น้อย
- ผลการวิจัยพบว่าชุดนักเรียนช่วยลดการถูกกลั่นแกล้งและเพิ่มความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียน
ฟินแลนด์: การยืดหยุ่นและอิสระ
ฟินแลนด์ซึ่งมีระบบการศึกษาที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ไม่มีนโยบายชุดนักเรียน:
- นักเรียนสามารถเลือกแต่งกายได้ตามต้องการภายใต้แนวปฏิบัติทั่วไป
- การศึกษาจาก University of Helsinki (2021) พบว่าระบบนี้ส่งเสริมความเป็นตัวเองและความรับผิดชอบ
- นโยบายสวัสดิการสังคมที่เข้มแข็งช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจโดยรวม
ญี่ปุ่น: ความภาคภูมิใจในเครื่องแบบ
ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมชุดนักเรียนที่เข้มแข็ง แต่ก็พบกับความท้าทายด้านความเหลื่อมล้ำ:
- ชุดนักเรียนญี่ปุ่นมีราคาสูง (เฉลี่ย 30,000-60,000 เยน หรือประมาณ 8,000-16,000 บาท)
- หลายโรงเรียนได้เริ่มปรับนโยบายให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น การให้เลือกกระโปรงหรือกางเกงได้ทั้งสองเพศ
- มีระบบการบริจาคและหมุนเวียนชุดนักเรียนที่มีประสิทธิภาพ
จีน: การปฏิรูปสู่ชุดนักเรียนที่เท่าเทียม
จีนได้ดำเนินการปฏิรูปชุดนักเรียนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ:
- ตั้งแต่ปี 2018 รัฐบาลจีนได้กำหนดให้ทุกโรงเรียนรัฐบาลใช้ชุดนักเรียนราคาประหยัด
- การผลิตรวมศูนย์ช่วยลดต้นทุนและความแตกต่างทางคุณภาพ
- โครงการ "ชุดนักเรียนฟรีสำหรับเด็กทุกคน" ในพื้นที่ยากจน
สรุป ชุดไปรเวทแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้จริงหรือไม่
จากข้อมูลและงานวิจัยที่รวบรวม สามารถสรุปได้ว่า:
- ไม่มีคำตอบเดียว - ทั้งระบบชุดนักเรียนและชุดไปรเวทต่างมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน
- ปัจจัยแวดล้อม - ประสิทธิภาพของแต่ละระบบขึ้นอยู่กับบริบททางสังคม วัฒนธรรม และนโยบายสนับสนุนอื่นๆ
- ทางเลือกที่ยืดหยุ่น - บางประเทศประสบความสำเร็จกับระบบผสมผสาน เช่น การมีชุดนักเรียนพื้นฐานที่เรียบง่ายราคาไม่แพง ร่วมกับวัน casual แต่งตัวอิสระเป็นครั้งคราว
- นโยบายสนับสนุน - ประเด็นสำคัญไม่ใช่เพียงการเลือกระหว่างชุดนักเรียนหรือชุดไปรเวท แต่คือการมีนโยบายสนับสนุนที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เช่น การสนับสนุนค่าเครื่องแบบสำหรับครอบครัวรายได้น้อย หรือการจัดระบบบริจาคและหมุนเวียนเสื้อผ้า
จากการศึกษา พบว่าการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือกระบบการแต่งกายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการบูรณาการนโยบายหลายด้าน รวมถึงการพัฒนาทัศนคติของสังคมที่ไม่ตัดสินคนจากการแต่งกายภายนอก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ชุดนักเรียน, ชุดไปรเวท (FAQ)
1. ทำไมโรงเรียนส่วนใหญ่ในไทยยังคงใช้ระบบชุดนักเรียน?
โรงเรียนไทยยังคงใช้ระบบชุดนักเรียนด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งด้านวัฒนธรรมและการบริหารจัดการ รวมถึงความเชื่อว่าชุดนักเรียนช่วยสร้างระเบียบวินัยและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการศึกษาที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ที่ต้องการสร้างมาตรฐานและความทันสมัยให้กับระบบการศึกษาไทย
2. นักเรียนมีทัศนคติอย่างไรต่อชุดนักเรียนและชุดไปรเวท?
จากการสำรวจความคิดเห็นนักเรียนทั่วประเทศโดยสถาบัน NIDA ในปี 2567 พบข้อมูลที่น่าสนใจคือ นักเรียนร้อยละ 58 ชอบที่จะมีอิสระในการแต่งกายมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ร้อยละ 62 ยอมรับว่าระบบชุดนักเรียนช่วยประหยัดเวลาและลดความกังวลในการเลือกเสื้อผ้า โดยเฉพาะนักเรียนในช่วงมัธยมต้นที่ยังไม่มั่นใจในการแสดงออกทางแฟชั่น
3. มีโรงเรียนในไทยที่ประสบความสำเร็จกับการใช้ชุดไปรเวทหรือไม่?
มีโรงเรียนทางเลือกและโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งในไทยที่ใช้ระบบชุดไปรเวทหรือระบบผสมผสาน เช่น โรงเรียนรุ่งอรุณ โรงเรียนสาธิตบางแห่ง และโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งพบว่าการบูรณาการเรื่องการแต่งกายเข้ากับปรัชญาการศึกษาและการมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนช่วยให้การดำเนินนโยบายประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม โรงเรียนเหล่านี้มักมีค่าเล่าเรียนสูงและมีระบบสนับสนุนผู้เรียนที่ครอบคลุม
4. จะทำอย่างไรหากครอบครัวมีปัญหาค่าใช้จ่ายเรื่องชุดนักเรียน?
ปัจจุบันมีหลายช่องทางช่วยเหลือ ได้แก่:
- กองทุนเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) มีโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับนักเรียนยากจน
- โครงการบริจาคชุดนักเรียนของมูลนิธิต่างๆ เช่น มูลนิธิยุวพัฒน์
- ธนาคารชุดนักเรียนในโรงเรียนหลายแห่งที่รับบริจาคและให้ยืมชุดนักเรียนมือสอง
- การขอรับความช่วยเหลือผ่านทางโรงเรียนโดยตรง ซึ่งหลายโรงเรียนมีงบประมาณช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลน
5. ความเหลื่อมล้ำในระบบการศึกษามีเพียงเรื่องชุดนักเรียนเท่านั้นหรือไม่?
ความเหลื่อมล้ำในระบบการศึกษาเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและมีหลายมิติ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเรื่องชุดนักเรียนเท่านั้น จากรายงานของ UNESCO (2023) และงานวิจัยของ ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ (2565) พบว่าความเหลื่อมล้ำในระบบการศึกษาไทยยังปรากฏในด้านอื่นๆ เช่น:
- คุณภาพของโรงเรียนในเมืองและชนบท
- การเข้าถึงเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต
- โอกาสในการเรียนพิเศษและกิจกรรมเสริมนอกห้องเรียน
- คุณภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษา
- งบประมาณที่แต่ละโรงเรียนได้รับ
ดังนั้น การแก้ไขเพียงประเด็นเรื่องชุดนักเรียนอาจไม่เพียงพอต่อการลดความเหลื่อมล้ำในภาพรวม แต่ต้องอาศัยการปฏิรูปเชิงระบบในหลายมิติพร้อมกัน
6. ประเทศที่ไม่มีระบบชุดนักเรียนมีปัญหาความเหลื่อมล้ำน้อยกว่าจริงหรือไม่?
จากการศึกษาเปรียบเทียบโดย OECD (2022) ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลจาก 35 ประเทศ พบว่าไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างการมีหรือไม่มีชุดนักเรียนกับระดับความเหลื่อมล้ำในระบบการศึกษา ปัจจัยที่มีผลต่อความเหลื่อมล้ำมากกว่าคือ:
- นโยบายการกระจายทรัพยากรทางการศึกษา
- ระบบสวัสดิการสังคมโดยรวมของประเทศ
- คุณภาพของการศึกษาที่เข้าถึงได้โดยไม่คำนึงถึงฐานะทางเศรษฐกิจ
ตัวอย่างเช่น ฟินแลนด์ซึ่งไม่มีระบบชุดนักเรียนมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาต่ำ แต่ปัจจัยสำคัญมาจากระบบสวัสดิการสังคมที่เข้มแข็งและการลงทุนอย่างมากในคุณภาพของโรงเรียนรัฐบาล ในขณะที่บางประเทศในละตินอเมริกาที่ไม่มีชุดนักเรียนกลับมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาสูง
7. มีทางออกอื่นนอกจากการเลือกระหว่างชุดนักเรียนกับชุดไปรเวทหรือไม่?
งานวิจัยจากหลายประเทศชี้ให้เห็นว่ามีทางเลือกที่น่าสนใจหลายรูปแบบ:
- ระบบผสมผสาน - โรงเรียนในออสเตรเลียหลายแห่งใช้ระบบที่มีชุดนักเรียนพื้นฐาน แต่อนุญาตให้มี "วันแต่งกายอิสระ" (casual day) เป็นครั้งคราว ซึ่งช่วยให้นักเรียนได้แสดงออกโดยไม่สร้างภาระมากเกินไป
- ชุดนักเรียนหลายทางเลือก - โรงเรียนในแคนาดาบางแห่งมีชุดนักเรียนหลากหลายรูปแบบให้เลือก แต่ยังคงโทนสีและรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียน
- ชุดนักเรียนที่เน้นความสะดวกและราคาประหยัด - โรงเรียนในนิวซีแลนด์บางแห่งได้ปรับเปลี่ยนชุดนักเรียนให้เรียบง่าย ทนทาน สวมใส่สบาย และหาซื้อได้จากร้านค้าทั่วไปในราคาไม่แพง
- นโยบายแต่งกายที่มีหลักการ - บางโรงเรียนในสวีเดนไม่มีชุดนักเรียน แต่มีแนวปฏิบัติการแต่งกายที่ชัดเจน เช่น เสื้อผ้าต้องสุภาพเหมาะสม ไม่มีโลโก้หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม ซึ่งช่วยสร้างกรอบโดยไม่จำกัดมากเกินไป
บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น รันโดเซรุ กระเป๋าที่ไม่ใช่เป็นแค่กระเป๋า
✪ จากบ้านเมืองที่เคยสงบสุข ผู้อพยพในยุโรปเริ่มก่อปัญหา มุมมองด้านสุขภาพและสิทธิมนุษยชน
หากอ่านแล้วบทความมีประโยชน์ กดโหวต ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ให้ด้วยนะคะ
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ทัพฟ้าไทย พร้อมรบ 24 ชั่วโมง โชว์ยุทโธปกรณ์สุดล้ำ โจมตีแม่นยำ "ไม่ให้ใครย่ำยี" น่านฟ้าไทย
กองกำลังพิเศษ BHQ ทรยศฮุนเซน แอบไปซบ อก สมรังสี
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?
7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป







