พระราชวังสมุทรปราการ
เป็นชาวสมุทรปราการอย่างน้อยๆต้องเคยขึ้นเรือข้ามฝากแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างท่าเรือพระสมุทรเจดีย์ กับท่าเรือวิบูลย์ศรี อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตไม่ว่าจะมาจับจ่ายใช้สอยในย่านการค้าหรือเป็นทางสัญจรผ่านไป-มาประจำวัน แต่จะทราบกันหรือไม่ว่าเรากำลังมีวิถีชีวิตทับซ้อนอยู่บนพื้นที่ทางประวัติศาสตร์สำคัญอย่าง “พระราชวังสมุทรปราการ” แล้วสมุทรปราการมีวังด้วยหรอ ?
“พระราชวังสมุทรปราการ” สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) บริเวณคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าเมืองสมุทรปราการ ตรงข้ามกับพระสมุทรเจดีย์ “...โปรดให้พนักงานการก่อสร้างที่พระสมุทรเจดีย์นั้น สร้างพลับพลาเป็นที่ประทับที่ริมน้ำข้างเหนือเมืองสมุทรปราการแห่ง 1 ...” ( ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 25 เรื่องสถานที่และวัตถุต่างๆซึ่งสร้างในรัชกาลที่ 4 หน้า 75 ) เพื่อใช้เป็นที่ประทับเมื่อคราวเสด็จมาสมโภชพระสมุทรเจดีย์ในปีวอก วันอาทิตย์ เดือน 2 แรม 3 ค่ำ (วันที่ 30 ธันวาคม 2403 ) คาดว่า กรมหมื่นราชสีหวิกรม และเจ้าพระยารวิวงศ์มหาโกษาธิบดี คงจะเป็นนายช่างออกแบบและแม่กองในการสร้างพระราชวังด้วยเพราะเป็นควบคุมงานบูรณะที่พระสมุทรเจดีย์คราวเดียวกันนี้ เมื่อเสร็จการพระราชพิธีสมโภชพระสมุทรเจดีย์องค์ใหม่แล้วจึงได้เสด็จข้ามฝากมาประทับยังพลับพลาฝั่งเมืองสมุทรปราการ “...แล้วเสด็จข้ามมามีละครข้างในสมโภช ประทับพระที่นั่งทำใหม่ ...” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4) ในกาลครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สถาปนาที่ประทับแห่งนี้เป็นวังเกียรติยศคู่พระสมุทรเจดีย์ และพระราชทานนามพระที่นั่ง อาคารต่างๆในเขตพระราชวังคราวสมโภชครั้งนั้นด้วย

ภาพที่ 1 จำลองสันนิษฐาน : หมู่พระที่นั่ง อาคารภายใน พระราชวังสมุทรปราการ
แหล่งที่มา : ต้นฉบับผู้เขียน ภาณุ ภาณุวัฒน์
โดยปรากฏนามพระราชทาน สิ่งก่อสร้างภายในพระราชวังสมุทรปราการ จำนวน 6 หลัง ดังนี้
1.พระที่นั่งสมุทธาภิมุข สำหรับเป็น ท้องพระโรงเวลาเสด็จออก ภายหลังเป็นศาลาว่าการเมืองสมุทรปรากร
2.พระที่นั่งสุขไสยาศน์ สำหรับเป็น ที่บรรทม เป็น 2 ชั้น ภายหลักเป็นที่ทำการสถานีโทรเลขแห่งแรกของไทย
3.อาคารนงนาฏสำราญรมย์/นาฎนารีรมย์ สำหรับเป็น ที่พักสำหรับพระสนม เจ้าจอมอยู่งานตามเสด็จ
4.อาคารสนมนิกร สำหรับเป็น เป็นตึกแถวที่พักสำหรับนางข้าหลวง
5.สัณฐาคารสภา สำหรับเป็น โรงละครฝ่ายใน
6.โรงศึกษาสงคราม สำหรับเป็น ที่พักทิมทหารรักษาพระองค์
ภาพที่ 2 จำลองสันนิษฐาน : สถานที่ตั้ง พระราชวังสมุทรปราการ และ พระสมุทรเจดีย์ และป้อมเมืองสมุทรปราการ
แหล่งที่มา : ต้นฉบับผู้เขียน ภาณุ ภาณุวัฒน์
ภาพที่ 3 จำลองสันนิษฐาน : สถานที่ตั้ง พระราชวังสมุทรปราการ อ้างอิงแผนที่แสดงเส้นทางรถไฟสายปากน้ำฯ พ.ศ.2534
แหล่งที่มา : หอจดหมายเหตุแห่งชาติ
จากข้อมูลที่ศึกษาค้นคว้าแผนที่เก่าหลายฉบับพบว่าพระราชวังตั้งอยู่เลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเกาะคลองเมือง ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่แยกถนนด่านเก่า มาจรดท้ายคลองวัดนอกหรือเทียบเคียงพื้นที่ในปัจจุบันคือบริเวณที่ตั้งตลาดวิบูลย์ศรี (ตลาดท่าเรือ)ในปัจจุบัน สาเหตุที่คัดเลือกสถานที่นี้เป็นที่ตั้งพระราชวังพบว่าเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม เป็นคุ้งน้ำเว้าเข้าไปที่หน้าเมืองสมุทรปราการเป็นที่โล่งและมีหาดทรายทอดลงไปในแม่น้ำ น้ำนิ่งสบ ทั้งยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระสมุทรเจดีย์และเสด็จข้ามฝากไปมาได้โดยสะดวก อีกทั้งยังเป็นชัยภูมิแนวโอบของกำแพงป้อมเมืองสมุทรปราการที่สำคัญอย่าง ป้อมประโคนชัยและอาจมีแนวป้อมอื่นที่ชักปีกกาไว้ตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 3อีกด้วย นั้นพอคะเนได้ว่าพระราชวังแห่งนี้คงเอาแนวป้อมเป็นเขตพระราชวังด้านตะวันออก และยึดเอาแนวแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเขตธรรมชาติด้านตะวันตกเพื่อง่ายต่อการรักษาความปลอดภัยเขตพระราชฐานที่ประทับของพระมหากษัตริย์ โดยกลุ่มอาคารต่างๆในพระราชวังแห่งนี้ปลูกสร้างด้วยไม้ซึ่งภายหลังชำรุดและรื้อลงโดยมาก และตามหลักฐานที่พบพระราชวังแห่งนี้ได้รับเสด็จตลอดรัชกาล4 เพียง 2 ครั้ง คือเมื่อแรกสถาปนาสมโภชใน ปีวอก วันอาทิตย์ เดือน 2 แรม 3 ค่ำ (วันที่ 30 ธันวาคม 2403 ) และอีกครั้งเมื่อคราวยกยอดพระสมุทรเจดีย์ ในวันแรม 9 ค่ำ เดือน 7 (วันที่ 2 มิ.ย. 2404)

ภาพที่ 4 : อาคารศาลาว่าการเมืองสมุทรปราการ ที่คาดว่าจะเป็น พระที่นั่งสมุทธาภิมุข
แหล่งที่มา: วลัยลักษณ์ ทรงศิริ https://lek-prapai.org/home/view.php?id=810
เมื่อล่วงเข้าแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 ไม่ได้ทรงใช้พระราชวังสมุทรปราการเป็นที่ประทับดังสมเด็จพระราชบิดา จึงทรงโปรดเกล้าฯให้ใช้สิ่งปลูกสร้างในพระราชวังเป็นสถานที่ราชการและกิจการต่างๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองสมุทรปราการและความเจริญที่เข้ามายังสยามประเทศ โดยปรากฏหลักฐานการใช้อาคาร-พื้นที่พระราชวัง ดังนี้
พระที่นั่งสมุทธาภิมุข เป็น ศาลาว่าการเมืองสมุทรปราการ
พระที่นั่งสุขไสยาศน์ เป็น ที่ทำการโทรเลขแห่งแรกของไทย (กรุงเทพ-วังสมุทรปราการ-กระโจมไฟปากน้ำเจ้าพระยา)
พื้นที่ลานว่างระหว่างป้อมประโคนชัยกับหมู่พระที่นั่ง เป็น ที่ทำการสถานีปลายทาง และโรงเก็บหัวรถจักรของรถไฟสายปากน้ำ ซึ่งถือเป็นรถไฟสายแรกของประเทศไทยที่ดำเนินสัมปทานโดยต่างชาติ

ภาพที่ 5 : แผนที่แนบท้ายพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้าง ในบริเวณเพลิงไหม้ที่ตำบลบางเมืองและตำบลท้ายบ้าน อำเภอสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พุทธศักราช ๒๔๗๖ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๐ หน้า ๑๓๓ – ๑๔๑ วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๔๗๖ (แสดงให้เห็นว่าไม่มีกลุ่มอาคารพระราชวังริมแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าสถานีรถไฟแล้ว)
แหล่งที่มา : คลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ
การเข้ามาของวิทยาการต่างๆในสมัยรัชกาลที่ 5 นอกจากส่งผลให้ความเจริญเข้ามาสู่ประเทศชาติแล้ว ยังส่งผลให้เมืองสมุทรปราการเปลี่ยนแปลงผังเมืองไปอย่างรวดเร็ว พื้นที่หน้าเมืองได้พัฒนากลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญและในห้วงเวลาเดียวกันนี้เองพระราชวังสมุทรปราการก็หมดบทบาทความสำคัญ ทั้งยังเสื่อมโทรมตามกาลเวลา โดยพบหลักฐานว่ามีการรื้อถอนอาคารที่ชำรุดในช่วง ปี พ.ศ. 2436 น่าจะเป็นกลุ่มอาคารนงนาฏสำราญรมย์, อาคารสนมนิกร, สัณฐาคารสภา, โรงศึกษาสงคราม ดังความนี้ “...พลับพลาที่เมืองสมุทรปราการชำรุดรื้อเสียดายโดยมาก ยังเหลือแต่ที่นั่งสมุทธาภิมุข, พระที่นั่งสุขไสยาศน์ ใช้เป็นสถานีโทรเลขอยู่บัดนี้...” ( ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 25 เรื่องสถานที่และวัตถุต่างๆซึ่งสร้างในรัชกาลที่ 4 คลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ หน้า 75 ) และพบหลักฐานการรื้อถอนอีกครั้งในปี พ.ศ. 2475 ซึ่งน่าจะเป็น พระที่นั่งสมุทธาภิมุข และพระที่นั่งสุขไสยาศน์ โดยไม่พบหลักฐานว่ารื้อทิ้งด้วยสาเหตุใด แต่หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ในปีพ.ศ 2476 นั้นไม่พบหลักฐานว่ามีกลุ่มอาคารพระราชวังสมุทรปราการปรากฏในแผนที่บริเวณริมแม่น้ำหน้าสถานีรถไฟสายปากน้ำอีกแล้ว
แม้ในปัจจุบันจะไม่เหลือร่องรอยใดๆของพระราชวังสมุทรปราการแล้วก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าครั้งหนึ่งนั้นพระราชวังแห่งนี้ได้มีบทบาทสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์อย่างสมศักดิ์ศรีแม้เพียงในความทรงจำ
ขอขอบคุณ
ราชกิจจานุเษกษา https://ratchakitcha.soc.go.th/
หอจดหมายเหตุแห่งชาติ https://www.nat.go.th/
คลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ https://dl.parliament.go.th/
ห้องสมุดดิจิทัล ธรรมศาสตร์ https://digital.library.tu.ac.th/
ห้องสมุดดิจิทัลวัชรญาณ https://vajirayana.org/
อ้างอิงจาก:
-ข่าวพระราชดำเนินกลับจากเกาะสีชังแลการเปิดรถไฟปากน้ำ . ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม10 วันที่ 16 เมษายน 2436
-พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้าง ในบริเวณเพลิงไหม้ที่ตำบลบางเมืองและตำบลท้ายบ้าน อำเภอสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พุทธศักราช ๒๔๗๖ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๐ หน้า ๑๓๓ – ๑๔๑ วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๔๗๖
-สังวาล พัฆโนทัย.(2483). ความเป็นมาของพระสมุทรเจดีย์. กรุงเทพฯ:บรรณกิจ (หนังสือแจกในงานฌาปนกิจศพขุนพรหมสมบัติ ชุ่ม คชภูมิ)
-โดม ไกรปกรณ์.ดร., (2558). วิวัฒนาการของเมืองสมุทรปราการ จากเมืองป้อมปราการสู่เมือง “กึ่งสมัยใหม่”.วารสารหน้าจั่ว คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.,12,272-278.
-กฤษฎา สว่างวันชัย. (2567). ป้อมปราการทางทะเลของสยาม พ.ศ. 2325 – 2453 : กรุงเทพฯ - สมุทรปราการ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัยศิลปากร.
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
ทหารไทยพบหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้ ยืนยันว่า มี "มหาอำนาจ" แอบส่งอาวุธหนักทันสมัยให้เขมร
4 นักษัตรดวงเศรษฐี ยิ่งอายุมากยิ่งเงินไหลมา—ช่วงพีคอยู่ที่วัยกลางคน
เกิดเหตุเตาแก๊สกระป๋องระเบิดในร้านอาหาร
ชายแดนไทย -กัมพูชาดุเดือดทหารเขมรระดมยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 โจมตีใส่พื้นที่ช่องอานม้า ทหารไทยไม่รอช้าโต้กลับทันที
"ฝนดาวตกเจมินิดส์" กับคำอธิษฐานบนฟากฟ้า
11 นายกรัฐมนตรีไทย ที่วาระการดำรงตำแหน่งไม่ครบปี
นางเอกดัง "เหอ ชิง" เสียชีวิตแล้ว
ทรัมป์ยันจะตอบโต้ หลังทหารมะกัน 2 นาย และ ล่ามพลเรือน 1 ราย เสียชีวิตในซีเรีย
มาเลเซียเตรียมจัดการประชุมพิเศษอาเซียน ว่าด้วยเหตุปะทะบริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทย
ดาราดัง "ดิก แวน ไดก์" อายุครบ 100 ปีแล้ว!!
"ฮุนเซน" เผยเหตุผลที่ไม่ให้ "คนไทย" ข้ามแดนกลับประเทศตอนนี้..เพราะหวั่นมีอันตรายจากระเบิด
แนะนำ! เว็บไซต์ ai สามารถวาดรูป [l8+](สร้างฟรี) ผู้ใหญ่เท่านั้น
"ฝนดาวตกเจมินิดส์" กับคำอธิษฐานบนฟากฟ้า
เกิดเหตุเตาแก๊สกระป๋องระเบิดในร้านอาหาร
ธงไทยโบกสะบัด 14 ธ.ค. 68 เวลา 07.00 น. นาวิกโยธิน ปักธงชาติไทย ยึดคืนและควบคุมพื้นที่บ้านสามหลัง จ.ตราด สำเร็จ!
ทหารไทยพบหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้ ยืนยันว่า มี "มหาอำนาจ" แอบส่งอาวุธหนักทันสมัยให้เขมร
“นายกฯ” ยืนยันเดินหน้าทางทหารจนพ้นภัยคุกคาม โต้ “ทรัมป์” ว่าระเบิดไม่ใช่อุบัติเหตุ
หนุ่มไทยร้องไห้ระงม! "มันแกว นมคุณธรรม" ท้องแล้วจ้า!!
การนอนหลับมีความสัมพันธ์กันกับสุขภาพจิต ปัญหาโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคอารมณ์สองขั้ว หากนอนไม่หลับ นอนหลับไม่พอ ย่อมก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตได้
Emotional Weather Forecast พยากรณ์อารมณ์ ทักษะการเป็นเพื่อนที่ดีกับหัวใจตัวเอง
Work life harmony ความกลมกลืนระหว่างการทำงาน และ การใช้ชีวิต นั่งทำงานไปด้วยและพักผ่อนไปในตัว เคล็ดลับในการบรรลุความสมดุลในชีวิต
