หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ศูนย์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เจืองแอก (ทุ่งสังหาร)

เนื้อหาโดย Jamsaengpoo

 การเรียนรู้เรื่องราวที่ผ่านมา  มองย้อนกลับเข้ามาในปัจจุบัน 

การสูญเสียที่ยากจะลืมเลือน  เหมือนฟันเฟืองที่ยังคงทำหน้าที่ของมัน

ทุกครั้งที่กล่าวถึง ยังมีกลิ่นอายของความสูญเสียอย่างประมาณไม่ได้

        ครั้งนี้จะมาเล่าถึงสถานที่แห่งหนึ่งทุกครั้งที่เล่าหรือนึกถึง ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายจะวนเวียนมาเสมอ การเรียนรู้ในสถานที่ที่เราไปอยู่เรื่องราวที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่เราต้องออกไปเรียนรู้  สถานที่แห่งนี้เคยได้ยินมาบ้างตอนที่อ่านนิยายเรื่องหนึ่งที่ค้นพบในบ้าน ตอนนั้นไม่เข้าใจในความหมายเหมือนกันว่า ในโลกของความเป็นจริงสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้อย่างนั้นหรือ

     การฆ่ามนุษย์ด้วยกันจะเรียกว่าทารุณก็ยังไมให้ความหมายที่ชัดเจน คงมากกว่านั้น คนคนหนึ่งสามารถที่จะสั่งฆ่าคนทั้งประเทศเกือบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นของประชากรทั้งหมด หากแต่ว่ายังเหลือเพราะว่ามีการหยุดก่อน คนที่เกิดในสมัยนั้นที่มีชีวิตรอดที่เราได้เจอนั้นเขาอยู่อย่างไร อาหารแม้จะยาไส้ยังทำไม่ได้  ผู้คนต้องทำงานหนักแต่อาหารที่ได้คือน้ำต้มข้าวที่ไม่ได้มีสารอาหารอะไรให้ เด็กสตรี ครอบครัว ต้องพรากจากกัน โดยเรียกว่าตายจากกันไป

    ใบผ่านทาง ในการเข้าชมทุ่งสังหารเจืองแอก ที่คนที่นี่เขาเรียกกัน ที่เข้าในนามของคนต่างชาติเพราะว่าจะได้ฟังเรื่องราวจากหูฟังในทุกจุดที่เราเดินเข้าไป ในหูของเราจะเล่าเรื่องราวความเจ็บปวดเสมือนว่าเรานั้นกำลังเป็นคนที่เดินเข้ามาที่นี่เพื่อทำการสังหาร ถูกปิดตาเข้ามาเดินตามกันมาที่นี่ 

     การเข้าชมที่นี่หากว่าเป็นคนต่างชาติราคา สามดอลล่า แต่หากเป็นคนกัมพูชาเข้าฟรี ได้มาสามบัตร พร้อมเครื่องบันทึกเสียงเล่าเรื่องราว เวลาเดินเข้ามาที่นี่ไม่มีเสียงคุยกันเพราะว่าต่างคนต่างฟังในหูของตนเอง ภาษาที่เลือกมีสองภาษา ภาษาอังกฤษและภาษาเขมร

   สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากเมืองประมาณสิบกว่ากิโลจากบ้านแต่ถือว่าไม่ไกลนั่งรถมาประมาณครึ่งชั่วโมงถึง  ห่างจากคุกตรวนแสลงไม่มาก

    จุดแรกที่เดินทางมาพบ คือสถานที่เก็บหัวกะโหลกส่วนหนึ่งในจำนวนคนเสียชีวิต ซึ่งนับไม่ได้ว่าเสียชีวิตจำนวนมากเท่าไหร่ มากกว่าล้านล้านคนหรือนับไม่ได้  กองดินที่อยู่บริเวณที่แห่งนี้แม้กระทั่งดินที่เราเหยียบไปนั้นกระจายเกลื่อนไปด้วยเศษกระดูกของมนุษย์ เพราะฉะนั้นให้เราเดินตามทางหากออกนอกเส้นทางอาจจะเหยียบหลุมศพ หดหู่มากสำหรับการมาที่นี่ 

    เรียงรายไปด้วยหัวกะโหลกศรีษะมนุษย์ คนที่นี่เล่าว่าเป็นหัวกะโหลกของผู้เสียชีวิตที่นำมาเก็บไว้สูงทะลุฟ้า มองดูภาพแล้วนี่คนเราทำกันได้ขนาดนี้เชียวหรือ เรื่องราวเป็นมาอย่างไรไม่รู้แต่แค่คิดว่าทำไมต้องฆ่ากันขนาดนี้

    มองดูหัวกะโหลกแล้วคิดในใจ ล้างเผาพันธุ์มนุษย์กันเลยหรือ  คงเหลือไว้แต่คนทำงาน ทำนา และคนที่ไม่มีทางสู้ ครั้งนั้นได้อ่านหนังสือของคนที่รอดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะว่าเขานั้นได้ไปช่วยงานกลุ่มเขมรแดง ในการวาดภาพของคนทุกคนที่จะทำการสังหาร เลยทำให้รอดมาได้ คนที่มีความรู้ในเรื่องอื่นส่วนมากจะไม่มีชีวิตรอดมากเท่าใดนัก การใช้ชีวิตก็จะลำบากหน่อยต้องทำทุกอย่างตามที่เขาสั่ง ด้วยความกลัวตาย

   จุดที่สามหลังเดินออกจากที่เก็บเดินมาทางด้านขวามือมาเจอจุดที่สาม ซึ่งที่นี่ได้เล่าว่าจุดนี้จะเป็นจุดของการรายงานตัวเพื่อที่จะเข้ารับการสังหารในรูปแบบต่างๆ  เสียงโหยหวนดังกลิ่นเลือดฟุ้ง เสียงร่ำไห้ของเด็กๆ ที่หิวโหยและหาแม่ดังกังวาน

     นั่งฟังมุมไหนก็ได้เพราะว่าในแต่ละจุดจะมีการเล่ามากกว่าสองสามนาที สถานที่แห่งนี้เงียบมาก หากว่าในเวลาตอนเย็นนั้นจะไม่มีใครกล้ามาที่นี่ เพราะว่าจะได้ยินเสียงร้องไห้ และเห็นสิ่งที่ลึกลับที่จบชีวิตลงที่นี่ยังไม่ได้ไปสู่สุคติ 

        ที่แห่งนี้จำได้เพราะว่าตอนที่เรามองดูต้นตาลนี้คิดเหมือนกันว่าทำไมไม่ตัดออกมีอยู่ต้นเดียว จริงๆ แล้วในวีดีโอเล่าว่า ศพมีจำนวนมากกองจนท่วมต้นตาลต้นนี้ ซึ่งต้นตาลต้นนี้สูงมากกว่าสิบเมตร คิดจินตนาการว่าศพจะเยอะขนาดไหน ครั้งแรกที่ไปสถานที่แห่งนี้ตอนนั้นยังเกิดเรื่องยังไม่นาน ยังได้กลิ่นของสาบ คาวเลือด ในตอนแรกนั้นทางการยังไม่ให้มีการล้างหรือทำความสะอาดอะไรทั้งสิ้น ให้คงอยู่แต่กลิ่นนั้นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณจนต้องมีการทำความสะอาด 

     ตรงนี้จะเป็นกล่องที่ใส่อาวุธในการสังหารคน ว่าใช้อะไรบ้างในการสังหาร มีร่องรอยสิ่งต่างๆ ที่เก็บไว้อย่างเรียบร้อย 

     เดินมาถึงตรงนี้เราจะเห็นกองดินที่กองเรียงรายกัน บางที่สูงใหญ่ บางที่เล็กแต่เห็นได้ชัดเจนว่าดินมีความไม่เสมอกัน เหล่านี้คือกองศพที่ถูกฝังดินซึ่งในการฝังนั้นไม่ได้มีจำนวนน้อย ขุดเป็นหลุมฆ่าแล้วก็โยนลงไปฝังในดิน หนึ่งหลุมไม่รู้ว่าทั้งหมดกี่ศพ ดูแล้วฟังแล้วสงสารหากว่าเป็นคนในครอบครัวเราคงทำใจยาก

    ให้ดูอีกครั้งต้นตาลมรณะ ศพกองสูงกว่าต้นตาลต้นนี้ ลองคิดดูว่าจะมีทั้งหมดเท่าไหร่ ในสมัยนั้นมีการฆ่ากันเกือบทั้งประเทศเหลือไว้เพียงคนโง่ ชาวบ้านทำนา เพราะมีการกล่าวว่า คนเก่งนั้นควบคุมยากคนที่โง่ไม่มีการศึกษาควบคุมง่าย จะให้ทำอะไรก็ทำ เก่งมีสมองคิดนั่นคิดนี่ ไม่ดีต้องฆ่าเสียให้หมด

     มุมนี้เป็นอีกมุมหนึ่งที่ฟังแล้วน้ำตาซึม ในต้นไม้แห่งนี้ที่รวบรวมไปด้วยฝ้ายผูกแขนจำนวนมาก เกาะและคล้องอยู่แสดงถึงจำนวนของการจากไปที่มาก และเป็นจำนวนศพของเด็ก เริ่มจากเด็กทารกไปจนถึงเด็กโต ที่ถูกนำมาแล้วแยกออกจากพ่อแม่ นำมาใช้มือจับขาแล้วฟากใส่กับต้นไม้ทีละคน แล้วโยนศพไว้ แต่ก่อนที่จะทำการสังหาร จะให้ถอดฝ้ายผูกแขนออก คล้องไว้ที่นี่  ดูแล้วเห็นภาพเด็กที่เพิ่งเกิดไม่รู้อะไรจะต้องมาจบชีวิตลง 

     ตอนนี้เดินมาถึงจุดสุดท้ายแล้ว มานั่งฟังต่อให้จบ ความรักความเมตตาไหนบอกว่าคือ สัตว์ประเสริฐแต่ฆ่ากันยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ฆ่ามนุษย์ด้วยกัน เพื่อต้องการซึ่งอำนาจและความยิ่งใหญ่ เด็กน้กเรียนคนหนึ่งบอกว่า พ่อของเขาก็ถูกฆ่าตายที่นี่เช่นกัน แต่บางคนที่มีการเรียกให้กลับประเทศแล้วไม่ได้มาก็ใช้ชีวิตต่ออยู่ที่นั่นไปเลย เพราะตอนที่จะมีการฆ่านั้นจะมีหนังสือเชิญให้คนที่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศกลับมารับรางวัลเป็นกลอุบายที่จะหลอกล่อมาฆ่า 

      สุดท้ายเมื่อเราเดินมาเรื่อยๆ ก็จะมาถึงทางออกจากทุ่งสังหาร ในระหว่างที่เดินนั้นฟังใครฟังเรา ใช้เวลาในการเดินชมประมาณชั่วโมงครึ่งตอนนั้นไปโดยรถตุ๊กๆ หน้าหมู่บ้านซึ่งเป็นเพื่อนยามหน้าบ้านมาพา เพราะตอนนั้นยังไม่ได้รู้จักกับรถที่จะพาไปไหนมาไหน ได้บองนี่แหละพาไปตรงนั้นตรงนี้เลิกสอนดึกมาไม่มีอาหารทาน สามทุ่มบองก็พาขับหาอาหารกิน แต่สำหรับคนกัมพูชาจะไม่นิยมเข้าไปที่นี่ เพราะว่าไม่อยากกลับไปเจอบรรยากาศและความรู้สึกหดหู่ ชาติพันธุ์ของตนที่ถูกสังหารอยู่ในสถานที่แห่งนี้

  

     การแต่งกายในการเข้าทุ่งสังหารเนื่องจากว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เราควรจะสำรวม การแต่งกายจึงควรเป็นกางเกงขายาวหรือขาสามส่วน เสื้อนั้นควรเป็นเสื้อแขนยาวหน่อยเพราะว่าอากาศร้อน อารมณ์เหมือนเรามาสุสานหรือป่าช้าบ้านเรา  ในการเดินไม่กว้างมากนักประมาณ เจ็ดร้อยเมตรก็ถึงทางออก   

    การเดินทางท่องเที่ยวเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชนชาติเลยก็ว่าได้ เราไปอยู่ที่ไหนเราจะต้องเรียนรู้เพื่อที่จะเข้าใจ แต่ไม่ใช่การนำมาย่ำยีหรือตอกย้ำในสิ่งที่เขาเองก็ไม่อยากนึกถึง มาเพื่อรู้ แล้วปลงว่าสิ่งที่ผ่านมาแล้วยังคงอยู่ให้คนรุ่นหลังได้ระลึกนึกถึง และไม่ซ้ำรอยเดิม

เนื้อหาโดย: Jamsaengpoo
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Jamsaengpoo's profile


โพสท์โดย: Jamsaengpoo
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: paktronghie, Jamsaengpoo
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ทึ่งทั่วโลก : "Pedra do Telégrafo" จุดยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพ ที่โด่งดัง มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศบราซิลสาวเขมรอวด "เป็นคนงานที่มีคุณภาพที่สุดในโลก" พอแล้วกับไทย ขอกลับไปทดแทนคุณแผ่นดินเขมรรอยเท้าหรือรอยพระพุทธบาท เกิดจากอะไร แล้วทำไมใหญ่จังสมาธิสั้น หรือแค่สมองล้า? วิธีดูแลสุขภาพใจในยุคเร่งรีบหมอปลายทักแม่น! ดวงนายกฯ เจอศึกหนัก-ปัญหาใหญ่ถาโถม เสี่ยงเสียเงินก้อนโตอั๋น ภูวนาท คุนผลิน พิธีกรชื่อดัง สงสารนายก ไม่ทัน ฮุนเซนรู้จักที่มาของ'ซิจญีล'ชื่อขีปนาวุธสุดโหดของอิหร่าน!ย่างกุ้ง-พุกาม พม่า 5 วัน 4 คืน 8 พันบาท (รวมตั๋วเครื่องบิน)“ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ประกาศกลับมาลุยการเมืองเต็มตัว ในนามพรรครักประเทศไทย ลั่นพร้อมเป็นทางเลือกใหม่ให้ประชาชนโอปอล- สุชาตา ช่วงศรี นางงามผู้สร้างประวัติศาสตร์ Miss World 2025 คนแรกของประเทศไทย บันทึกประวัติศาสตร์ไทยPesapallo: กีฬาประจำชาติของฟินแลนด์ที่คุณอาจไม่เคยรู้จักตำนานสามล้อถูกหวย ตำนานสอนใจที่ไม่ใช่แค่นิทาน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"อ.เฉลิมชัย" ฟาดแรง! "เกิดบนแผ่นดินไทยแต่ไม่รักชาติ"..มันเป็นพวกจัญไร ไร้ค่าเฌอเอม รองอันดับ 1 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025 ต่อต้านไม่เอารัฐประหารสมาธิสั้น หรือแค่สมองล้า? วิธีดูแลสุขภาพใจในยุคเร่งรีบตะลุมบอนรับคริสต์มาส! เมื่อหมัดแทนของขวัญในเทศกาล Takanakuyโอปอล- สุชาตา ช่วงศรี นางงามผู้สร้างประวัติศาสตร์ Miss World 2025 คนแรกของประเทศไทย บันทึกประวัติศาสตร์ไทย“ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ประกาศกลับมาลุยการเมืองเต็มตัว ในนามพรรครักประเทศไทย ลั่นพร้อมเป็นทางเลือกใหม่ให้ประชาชน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด Review, HowTo, ท่องเที่ยว
ย้อนวันวาน “แห่เทียนพรรษา” เชียงใหม่กว่า 60 ปีก่อน — บันทึกความงดงามริมถนนท่าแพสระมรกต บ่อผุด กระบี่ พื้นที่แห่งโอโซนที่คนกรุงต้องได้ไปสัมผัสเมืองอัครา อินเดีย ไม่ได้มีแค่ทัชมาฮาลเมืองชัยปุระ เมืองสีชมพูแห่งอินเดีย
ตั้งกระทู้ใหม่