พืชก็มีชีวิต! แต่ทำไมชาวมังสวิรัติ และวีแกน ถึงยังเลือกบริโภคพืช?
ในโลกที่ความตระหนักรู้ด้านสิทธิสัตว์และผลกระทบจากการบริโภคเนื้อสัตว์กำลังเพิ่มสูงขึ้น วิถีชีวิตแบบ มังสวิรัติ และ วีแกน ได้รับความสนใจและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม คำถามหนึ่งที่มักจะวนเวียนอยู่ในบทสนทนาคือ "ในเมื่อพืชก็เป็นสิ่งมีชีวิต ทำไมการบริโภคพืชจึงเป็นที่ยอมรับได้สำหรับชาวมังสวิรัติและวีแกน แต่การบริโภคสัตว์กลับถูกปฏิเสธ?"
ทำไมพืชถึงนับเป็นสิ่งมีชีวิต? หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่อาจปฏิเสธ
ก่อนจะไปถึงประเด็นทางจริยธรรม เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่าเหตุใดนักวิทยาศาสตร์จึงจัดให้ "พืช" อยู่ในหมวดหมู่ของ "สิ่งมีชีวิต" ตามหลักชีววิทยา สิ่งมีชีวิตมีคุณสมบัติร่วมกันหลายประการ ซึ่งพืชแสดงออกคุณสมบัติเหล่านั้นอย่างชัดเจน:
-
การจัดระบบภายในเซลล์ (Cellular Organization): พืชประกอบขึ้นจากเซลล์ ซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต เซลล์พืชมีโครงสร้างที่ซับซ้อน เช่น ผนังเซลล์ คลอโรพลาสต์ และแวคิวโอลขนาดใหญ่ ซึ่งทำหน้าที่เฉพาะทาง
- อ้างอิง (หลักการ): Campbell Biology (ตำราชีววิทยาระดับอุดมศึกษาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล) มักอธิบายถึงโครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์พืชโดยละเอียด
-
การสืบพันธุ์ (Reproduction): พืชสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตใหม่ที่เป็นชนิดเดียวกันได้ ทั้งแบบอาศัยเพศ (ผ่านการผสมเกสรและการสร้างเมล็ด) และแบบไม่อาศัยเพศ (เช่น การแตกหน่อ การปักชำ)
-
การเผาผลาญพลังงาน (Metabolism): พืชมีกระบวนการเมแทบอลิซึมที่สำคัญคือ การสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis) ซึ่งเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ น้ำ และคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นน้ำตาลกลูโคส (อาหาร) และออกซิเจน นอกจากนี้ พืชยังมีการหายใจระดับเซลล์เพื่อนำพลังงานจากอาหารมาใช้
- อ้างอิง (หลักการ): งานวิจัยจำนวนมากในสาขาสรีรวิทยาของพืช (Plant Physiology) ยืนยันกระบวนการเหล่านี้
-
การรักษาสมดุลภายใน (Homeostasis): พืชมีความสามารถในการรักษาสภาพแวดล้อมภายในให้ค่อนข้างคงที่ เช่น การควบคุมการคายน้ำผ่านปากใบ (stomata) เพื่อรักษาสมดุลของน้ำ
-
การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม (Heredity): พืชมีสารพันธุกรรม (DNA) ที่สามารถถ่ายทอดลักษณะต่างๆ ไปยังรุ่นลูกหลานได้
-
การตอบสนองต่อสิ่งเร้า (Response to Stimuli): พืชสามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าจากสิ่งแวดล้อมได้ เช่น การเจริญเติบโตเข้าหาแสง (phototropism) การตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วง (gravitropism) หรือการตอบสนองต่อการสัมผัส (thigmotropism) ในพืชบางชนิด
- อ้างอิง (หลักการ): การศึกษาด้านพฤติกรรมของพืช (Plant behavior) แสดงให้เห็นถึงกลไกการตอบสนองที่ซับซ้อน
-
การเจริญเติบโตและพัฒนา (Growth and Development): พืชมีการเพิ่มขนาดและเปลี่ยนแปลงรูปร่างจากระยะตัวอ่อน (embryo) ในเมล็ดไปสู่ต้นที่สมบูรณ์ โดยมีแบบแผนการพัฒนาที่ควบคุมโดยพันธุกรรมและปัจจัยสิ่งแวดล้อม
-
การปรับตัวทางวิวัฒนาการ (Adaptation): พืชมีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่หลากหลายเพื่อให้สามารถอยู่รอดและสืบพันธุ์ได้ เช่น พืชในทะเลทรายมีการปรับตัวเพื่อลดการสูญเสียน้ำ
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ จึงเป็นที่ยอมรับในทางวิทยาศาสตร์ว่าพืชคือสิ่งมีชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย คำถามจึงย้อนกลับมาที่ว่า แล้วเหตุใดชาวมังสวิรัติและวีแกนจึงเลือกที่จะ "ไม่เบียดเบียน" สัตว์ แต่ยังคงบริโภคพืช?
หัวใจของมังสวิรัติและวีแกน: ความแตกต่างในการรับรู้ความเจ็บปวดและระบบประสาท
คำตอบสำคัญของคำถามนี้ อยู่ที่แนวคิดเรื่อง "ความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกและความเจ็บปวด" (Sentience) และโครงสร้างทางชีววิทยาที่เกี่ยวข้อง
-
สัตว์ (Animals): โดยเฉพาะสัตว์มีกระดูกสันหลัง (vertebrates) และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังหลายชนิด มีระบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System - CNS) ซึ่งประกอบด้วยสมองและไขสันหลัง ระบบนี้ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลจากสิ่งแวดล้อมและจากภายในร่างกาย สัตว์มีตัวรับความเจ็บปวด (nociceptors) ซึ่งเป็นเซลล์ประสาทที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายต่อเนื้อเยื่อ สัญญาณจากตัวรับเหล่านี้จะถูกส่งไปยังสมอง ซึ่งก่อให้เกิดประสบการณ์ของ "ความเจ็บปวด" ความกลัว และความทุกข์ทรมาน
- อ้างอิง (หลักการ): งานวิจัยทางประสาทวิทยาศาสตร์ (Neuroscience) และสัตววิทยา (Zoology) ได้ศึกษาและยืนยันถึงความซับซ้อนของระบบประสาทในสัตว์และความสามารถในการรับรู้ความเจ็บปวดอย่างกว้างขวาง เช่น งานของ Temple Grandin ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์
-
พืช (Plants): ในทางตรงกันข้าม พืชไม่มีระบบประสาทส่วนกลาง ไม่มีสมอง และไม่มีเซลล์ประสาทหรือโครงสร้างทางชีววิทยาที่เทียบเคียงได้กับตัวรับความเจ็บปวดในสัตว์ แม้ว่าพืชจะสามารถ "ตอบสนอง" ต่อสิ่งเร้า เช่น การถูกตัดหรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ แต่การตอบสนองเหล่านี้เป็นปฏิกิริยาทางชีวเคมีและไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในระดับเซลล์และเนื้อเยื่อ เพื่อการป้องกันตัวหรือการปรับตัว มากกว่าที่จะเป็นประสบการณ์ของ "ความเจ็บปวด" หรือ "ความทุกข์ทรมาน" ในแบบที่สัตว์รู้สึก
- อ้างอิง (หลักการ): แม้จะมีการศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับ "Plant neurobiology" (ซึ่งเป็นคำที่ยังเป็นที่ถกเถียงถึงความเหมาะสม) ที่แสดงให้เห็นถึงการส่งสัญญาณไฟฟ้าและเคมีในพืช แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าพืชมีจิตสำนึก (consciousness) หรือความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดในระดับเดียวกับสัตว์ (อ้างอิงแนวคิดจากบทความทางวิทยาศาสตร์ที่วิพากษ์แนวคิดเรื่อง "ความรู้สึก" ของพืช เช่น งานของ Lincoln Taiz และคณะ)
บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ ชุดไปรเวท แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนได้จริงหรือไม่?
✪ เคยสงสัยกันไหม ผลไม้รถเข็นถึงหวานฉ่ำจัง? ความลับการเพิ่มความหวานผลไม้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ปรัชญาของชาว มังสวิรัติ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาว วีแกน มักจะตั้งอยู่บนหลักการของการลดความทุกข์ทรมานของสิ่งมีชีวิตที่สามารถรับรู้ความรู้สึกได้ (sentient beings) ให้เหลือน้อยที่สุด เมื่อพิจารณาถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในโครงสร้างระบบประสาทและความสามารถในการรับรู้ความเจ็บปวดระหว่างสัตว์และพืช การบริโภคพืชจึงถูกมองว่าก่อให้เกิด "อันตราย" หรือ "ความทุกข์ทรมาน" น้อยกว่าการบริโภคสัตว์อย่างเทียบไม่ติด
การบริโภคพืชที่นับเป็นสิ่งมีชีวิต แต่ทำไมกลุ่มคนเป็นมังสวิรัติ และวีแกน ถึงเลือกบริโภค
แม้ว่าหลักการทางวิทยาศาสตร์และจริยธรรมจะค่อนข้างชัดเจน แต่ประเด็น "พืชก็มีชีวิต" ก็ยังคงถูกหยิบยกขึ้นมาท้าทายหรือตั้งคำถามต่อชาวมังสวิรัติและวีแกนในสังคมอยู่เสมอ ซึ่งสามารถพิจารณาได้ในหลายมิติ:
- การสื่อสารและความเข้าใจ: บ่อยครั้งที่คำถามนี้เกิดขึ้นจากความไม่เข้าใจในหลักการพื้นฐานของมังสวิรัติและวีแกน ซึ่งไม่ได้ปฏิเสธว่าพืชเป็นสิ่งมีชีวิต แต่ให้ความสำคัญกับ "ระดับ" ของความสามารถในการรับรู้ความทุกข์ทรมาน
- หลักการ "ทำอันตรายน้อยที่สุด" (Least Harm Principle): ชาวมังสวิรัติและวีแกนจำนวนมากยอมรับว่าการดำรงชีวิตย่อมส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่พวกเขาเลือกวิถีทางที่เชื่อว่าก่อให้เกิดอันตรายและความทุกข์ทรมานโดยรวมน้อยที่สุด การเกษตรกรรมเพื่อปลูกพืชย่อมมีผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก แต่ก็ยังถือว่าน้อยกว่าผลกระทบจากการทำปศุสัตว์ขนาดใหญ่
- ความจำเป็นในการบริโภคเพื่อดำรงชีพ: มนุษย์จำเป็นต้องบริโภคสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อการดำรงอยู่ เมื่อต้องเลือกระหว่างการบริโภคสัตว์ที่มีความสามารถในการรับรู้ความเจ็บปวดสูง กับการบริโภคพืชซึ่งไม่มีความสามารถดังกล่าว การเลือกบริโภคพืชจึงเป็นทางเลือกที่สอดคล้องกับหลักจริยธรรมมากกว่า
- ผลกระทบทางอ้อมจากการผลิตเนื้อสัตว์: การผลิตเนื้อสัตว์ยังส่งผลให้เกิดการ "ทำลาย" พืชจำนวนมหาศาลเพื่อเป็นอาหารสัตว์ ดังนั้น การบริโภคพืชโดยตรงจึงช่วยลดการทำลายพืชโดยรวมได้มากกว่าการบริโภคเนื้อสัตว์
- ความแตกต่างระหว่าง "การเก็บเกี่ยว" กับ "การฆ่า": แม้จะเป็นมุมมองเชิงเปรียบเทียบ การเก็บเกี่ยวผลไม้หรือผักหลายชนิดไม่ได้หมายถึงการ "ฆ่า" ทั้งต้นเสมอไป (เช่น การเก็บผลไม้ ใบ หรือแม้แต่การเก็บเกี่ยวพืชล้มลุกเมื่อสิ้นสุดวงจรชีวิต) ซึ่งแตกต่างจากการฆ่าสัตว์ที่ยุติชีวิตทั้งชีวิตอย่างชัดเจน
- ความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม: นอกเหนือจากประเด็นสิทธิสัตว์ การเลือกบริโภคพืชยังเชื่อมโยงกับความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการทำปศุสัตว์เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้ทรัพยากรที่ดินและน้ำจำนวนมหาศาล และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
- อ้างอิง (หลักการ): รายงานจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และ Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) มักชี้ให้เห็นถึงผลกระทบของภาคปศุสัตว์ต่อสิ่งแวดล้อม
การกินเจ มังสวิรัติ และวีแกน: ความเหมือนและความต่างในบริบทนี้
- การกินเจ (เทศกาลกินเจ หรือ กินแจ): มีรากฐานมาจากความเชื่อทางศาสนา (มักเป็นพุทธมหายาน) และวัฒนธรรมจีน เน้นการละเว้นเนื้อสัตว์ รวมถึงผักที่มีกลิ่นฉุน 5 อย่าง (กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ) โดยมีเป้าหมายเพื่อชำระร่างกายและจิตใจ การไม่เบียดเบียนสัตว์เป็นส่วนหนึ่ง แต่ก็มีข้อกำหนดเฉพาะอื่นๆ เพิ่มเติม
- มังสวิรัติ (Vegetarian): คือผู้ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิด (เนื้อแดง สัตว์ปีก อาหารทะเล) แต่ยังอาจบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น นม ไข่ หรือน้ำผึ้ง (ขึ้นอยู่กับประเภทของมังสวิรัติ เช่น Lacto-ovo vegetarian, Lacto-vegetarian, Ovo-vegetarian) เหตุผลมีหลากหลาย ทั้งด้านจริยธรรม สุขภาพ หรือศาสนา
- วีแกน (Vegan): คือผู้ที่ไม่บริโภคและไม่ใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาหาร (เนื้อ นม ไข่ น้ำผึ้ง) หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ (เครื่องหนัง ขนสัตว์ เครื่องสำอางที่ทดลองกับสัตว์) ปรัชญาของวีแกนตั้งอยู่บนการต่อต้านการแสวงหาประโยชน์จากสัตว์ในทุกรูปแบบ และให้ความสำคัญกับสิทธิสัตว์อย่างเข้มข้น
ในประเด็นการบริโภคพืช ทั้งสามกลุ่มนี้ยอมรับการบริโภคพืชเป็นอาหารหลัก แต่แรงจูงใจและขอบเขตการละเว้นอาจแตกต่างกัน โดยวีแกนจะมีหลักการที่เข้มงวดที่สุดในการหลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมในการสร้างความทุกข์ทรมานแก่สัตว์
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับพืชก็มีชีวิต แต่ทำไมชาวมังสวิรัติ และวีแกน ถึงยังเลือกบริโภคพืช
-
Q: พืชรู้สึกเจ็บปวดเหมือนสัตว์หรือไม่? A: ตามความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน พืชไม่มีระบบประสาทส่วนกลาง สมอง หรือตัวรับความเจ็บปวดแบบสัตว์ จึงไม่น่าจะรับรู้ "ความเจ็บปวด" ในลักษณะเดียวกับสัตว์ แม้จะมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าก็ตาม
-
Q: การเก็บเกี่ยวพืชถือเป็นการทำร้ายพืชหรือไม่? A: ในมุมมองของชาวมังสวิรัติและวีแกน การเก็บเกี่ยวพืชก่อให้เกิด "อันตราย" หรือ "ความทุกข์ทรมาน" น้อยกว่าการฆ่าสัตว์อย่างเทียบไม่ติด และเป็นความจำเป็นเพื่อการดำรงชีวิต อีกทั้งพืชหลายชนิดถูกออกแบบมาเพื่อให้ผลหรือส่วนต่างๆ ถูกนำไปบริโภคเพื่อช่วยในการกระจายเมล็ดพันธุ์
-
Q: ถ้าพืชก็มีชีวิต ทำไมการกินพืชถึงดีกว่ากินสัตว์ในมุมมองมังสวิรัติ/วีแกน? A: เพราะความแตกต่างในความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกและความทุกข์ทรมาน (sentience) สัตว์มีความสามารถนี้สูงกว่าพืชอย่างมีนัยสำคัญ การเลือกกินพืชจึงเป็นการเลือกทำอันตรายน้อยที่สุด
-
Q: มีงานวิจัยใหม่ๆ เกี่ยวกับความสามารถของพืชที่อาจเปลี่ยนมุมมองนี้ไหม? A: มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนในการสื่อสารและการตอบสนองของพืชอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีหลักฐานที่สรุปได้ว่าพืชมีจิตสำนึกหรือรับรู้ความเจ็บปวดในแบบสัตว์ ชาวมังสวิรัติและวีแกนส่วนใหญ่เปิดรับข้อมูลใหม่ๆ แต่ยังคงยึดหลักการปัจจุบันจนกว่าจะมีหลักฐานที่ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง
-
Q: การกินเจแตกต่างจากมังสวิรัติและวีแกนอย่างไรในประเด็นนี้? A: ทั้งสามกลุ่มบริโภคพืชเป็นหลัก แต่การกินเจมีข้อจำกัดเรื่องผักฉุนเพิ่มเติมและมีรากฐานทางศาสนา/วัฒนธรรม ขณะที่มังสวิรัติและวีแกนเน้นประเด็นจริยธรรมต่อสัตว์เป็นหลัก โดยวีแกนขยายไปถึงการไม่ใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด
-
Q: แล้วยาที่ทดลองในสัตว์ล่ะ ชาวมังสวิรัติ/วีแกนใช้ได้ไหม? A: นี่เป็นประเด็นที่ซับซ้อน หลายคนยึดหลัก "เท่าที่เป็นไปได้และปฏิบัติได้" หากยาจำเป็นต่อชีวิตและยังไม่มียาทางเลือกที่ไม่ได้ทดลองในสัตว์ พวกเขามักจะเลือกใช้ยาเพื่อรักษาสุขภาพ แต่ก็ยังสนับสนุนการพัฒนาวิธีการทดลองที่ไม่ใช้สัตว์
-
Q: หากอนาคตค้นพบว่าพืชรู้สึกเจ็บปวดจริงๆ ชาวมังสวิรัติ/วีแกนจะทำอย่างไร? A: เป็นคำถามเชิงสมมุติฐานที่น่าสนใจ หากเป็นเช่นนั้นจริง อาจจะต้องมีการทบทวนหลักการทางจริยธรรมกันใหม่ทั้งหมด และอาจนำไปสู่การพิจารณาแหล่งอาหารอื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์จากจุลินทรีย์ หรืออาหารสังเคราะห์ แต่ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานเช่นนั้น
-
Q: การเป็นมังสวิรัติหรือวีแกนมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมจริงหรือ? A: งานวิจัยจำนวนมากชี้ว่า การลดการบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้ที่ดินและน้ำ และการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
สรุปพืชคือสิ่งมีชีวิตแต่ทำไมชาว กินเจ มังสวิรัติ และวีแกน ถึงยังเลือกบริโภคกันอยู่
การที่ชาว มังสวิรัติ และ วีแกน เลือกบริโภคพืชแม้ว่าพืชจะเป็นสิ่งมีชีวิตนั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความแตกต่างที่สำคัญในเรื่อง ความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกและความเจ็บปวด ระหว่างสัตว์และพืช วิทยาศาสตร์ปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าสัตว์มีระบบประสาทที่ซับซ้อนซึ่งทำให้พวกมันสามารถรู้สึกเจ็บปวดและทุกข์ทรมานได้ ในขณะที่พืชไม่มีโครงสร้างดังกล่าว การตัดสินใจนี้จึงเป็นความพยายามที่จะดำเนินชีวิตโดยก่อให้เกิดอันตรายและความทุกข์ทรมานต่อสิ่งมีชีวิตที่สามารถรับรู้ได้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ควบคู่ไปกับ ความรู้ และความตระหนักในผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ นับเป็นวิถีที่สะท้อนถึงความเมตตาและความรับผิดชอบต่อโลกและเพื่อนร่วมโลกอย่างแท้จริง
บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ จริงๆ แล้วคนจีนกินเจเยอะไหม? แล้วกินเจเป็นความเชื่อมาจากไหน?
✪ จอาหารเจ ถือเป็นอาหารแปรรูป (Ultra-processed foods) ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่?
✪ ทำไมคนกินหญ้าไม่ได้เหมือน วัว ควาย ทั้งที่กินผักชนิดใบได้หลายชนิด
หากอ่านแล้วบทความมีประโยชน์ กดโหวต ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ให้ด้วยนะคะ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
ทัพฟ้าไทย พร้อมรบ 24 ชั่วโมง โชว์ยุทโธปกรณ์สุดล้ำ โจมตีแม่นยำ "ไม่ให้ใครย่ำยี" น่านฟ้าไทย
กองกำลังพิเศษ BHQ ทรยศฮุนเซน แอบไปซบ อก สมรังสี
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?
7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป







