แกงกระด้าง:อาหารเหนือหน้าหนาว
🎼🎵ดอกบัวตองนั้นบานอยู่บนยอดดอย🍃🌼🌼 ดอกเอื้องสามปอยบ่เกยเบ่งบานบนลานพื้นดิน
ไม้ใหญ่ไพรสูง นกยูงมาอยู่กิน
เสียงซึงสะล้อ จ๊อยซอเสียงพิณ
คู่กับแดนดิน ของเวียงเจียงใหม่
สาวเจ้าควรภูมิใจ บ่ลืมว่าเฮาลูกแม่ระมิงค์....🎼🍃🌼🌼
สวัสดีค่าท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่านบทความนี้ผู้เขียนมาด้วยบทเพลงเหนือ ที่มีเสน่ห์มนขลังน่าหลงใหล เอกลักษณ์ถิ่นเมืองเหนือที่งดงามอ่อนช้อย เสียงดนตรีดังแว่วให้ตราตรึงหัวใจ
บทเพลงหวานเพราะๆเสนาะหู บรรยากาศหนาวเย็น ก็นึกเมนูโบราณที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน รังสรรค์เมนูอาหารที่หนึ่งปีมีให้กินแค่ครั้งเดียวมีวางขายเฉพาะหน้าหนาวของชาวภาคเหนือ เป็นการถนอมอาหารอีกชนิดหนึ่งในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันโลกทันสมัยมีเครื่องอำนวยความสะดวก สามารถทำเมนูที่ว่านี้ได้ตลอดตามใจปรารถนา แต่หากเราไปเยือนถิ่นเมืองเหนือ
เมนูที่ว่านี้ก็จะมีให้เห็นกันทั่วไปช่วงหน้าหนาวเท่านั้นนะคะ เมนูที่ว่านี้ชื่อว่า "แกงกระด้าง" เป็นแกงที่แปลกใหม่ที่ชื่อว่าแกงแต่ไม่เป็นน้ำ ตรงกันข้ามกลับจับตัวกันเป็นชิ้นเป็นก้อน เนื่องจากไขมันสัตว์จากเนื้อสัตว์ที่ใส่ไปในแกงเมื่อโดนอากาศที่หนาวก็จับตัวกันนั่นเอง นี่คือที่มาของแกงกระด้าง ว่าแล้วผู้เขียนชวนทุกคนไปทำพร้อมๆกันเลยนะคะ
ส่วนผสม มีดังนี้ สูตรพริกแกง
1. เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
2. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
3. รากผักชี 5 ราก
4. ข่า 1 ช้อนโต๊ะ
5. พริกแห้งตามชอบ
6. ตะไคร้ 2 ช้อนโต๊ะ
7. หอมแดง 10 หัว
8. พริกแห้งใหญ่ 7 เม็ด
9. กะปิย่างไฟ 1 ช้อนโต๊ะ
และสุดท้ายเนื้อสัตว์ ผู้เขียนจะใช้ขาหม 1 ขา และส่วบใบหู 1 ใบหู เพราะใบหูมีกระดูกอ่อนเวลาเคี้ยวจะกรุบๆอร่อยมาก และทั้ง2ส่วนมีไขมันสัตว์เป็นอย่างดีที่เมื่อโดนความเย็นจะทำให้แกงของเราจับตัวกันเป็นชิ้น โดยไม่ต้องใส่ผงวุ้นในบางร้านที่ทำออกมาวางจำหน่ายในท้องตลาด แต่หากใครไม่ชอบชิ้นส่วนนี้สามารถใช้เป็นหมูสามชั้นก็ได้เช่นกันค่ะ
วิธีทำ มีดังนี้
1. นำขาหมูไปล้างทำความสะอาด แล้วนำมาย่างด้วยเตาถ่านเพื่อเผาขจัดขน และทำให้หนังหมูมีความเด้งไม่เละเวลานำไปแกง และได้ความหอมของหมูย่าง
ย่างให้เหลืองสุกทุกด้าน
2. เมื่อย่างจนได้ที่ก็นำขาหมูมาล้างทำความสะอาดอีกครั้ง โดยใช้มีดขูดในส่วนสีดำที่เกิดจากการย่างออกจนสะอาด
3. จากนั้นนำหม้อตั้งไฟแรง ใส่น้ำลงไป
4. ตามด้วยเกลือ
5. รากผักชี กระเทียม ตามลงสมทบ
6. เมื่อนำเริ่มเดือดหย่อนขาหมูและหูหมู ที่เตรียมไว้ตามลงไป ใช้เวลาในการต้มประมาณ 2 ชม. เพื่อให้ขาหมูและใบหูสุกนุ่ม
7. ระหว่างต้มขาหมูและใบหู เรามาเตรียมพริกแกงกันจ้า เริ่มจากเกลือใส่ลงครก
8. กระเทียมไทย ตามไปไม่รอรี
9. รากผักชี ขาดไม่ได้เลย
10. ข่าเพิ่มความหอม
11. โขลกตำทุกอย่างให้ละเอียดเข้ากัน
12. ถัดมานำพริกแห้งใส่ลงไป ความเผ็ดแล้วแต่ชอบจ้า
13. ตะไคร้ซอย เพิ่มรสชาติน้ำแกง
14. โขลกทุกอย่างให้เข้ากันอีกครั้ง
15. ตามด้วยหอมแดง
16. พริกเม็ดใหญ่ เพิ่มสีสันให้น้ำแกงของเรามีสีสวยน่ารับประทาน
17. ตำทุกอย่างให้ละเอียด และตามด้วยกะปิย่างไฟ
18. เมื่อตำทุกอย่างให้เข้ากันดีแล้ว เราจะได้พริกแกงรสจัดจ้านาำหรับทำเมนูแกงกระด้างแล้วล่ะ สีสันคงแซ่บสุดๆ
19. ได้เวลาขาหมูและใบหูที่เราต้มไว้สุกครบกำหนดเวลา ก็นำมาตักให้สะเด็ดน้ำ
20. แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นบางๆกำลังพอเหมาะ
21. จากนั้นมาปรุงกัน ตั้งหม้อไฟกลาง โดยนำน้ำสต็อกที่ต้มหมูเมื่อสักครู่ มาใส่ลงนิดหน่อย ตามด้วยพริกแกง ผัดจนมีกลิ่นหอม
22. ตามด้วยขาหมูและใบหมู ที่หั่นเตรียมไว้
23. ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำสต๊อกเพิ่มเพื่อทำเป็นน้ำแกง
24. ระหว่างแกงน้ำแกงเดือดปุดๆ ส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณบ้าน ให้เราช้อนฟองอากาศออกจนหมด จากนั้นชิมรสตามใจปรารถนา
25. เมื่อได้รสชาติตามที่ต้องการแล้วก็นำมาเทใส่พิมพ์ ปล่อยวางไว้ให้คลายความร้อน
26. นำต้นหอมหรือผักชีมาโรยหน้า และใช้ทัพพีคนเบาอีกครั้ง เพื่อให้ผักแทรกซึมไปกับน้ำแกง จากนั้นนำไปแช่เย็นประมาณ 3-4 ชม. เพื่อให้แกงกระด้างเซตตัว เพราะผู้เขียนใช้สูตรดั้งเดิม ไม่เติมผงวุ้นให้เสียรสชาติ
27. หน้าตาแกงกระด้างที่เซตตัวแล้ว
28. นำมีดมาตัดเป็นพอเหมาะ
29. ค่อยๆแซะตักแกงกระด้างจากพิมพ์ มาจัดวางลงจาน แล้วตกแต่งหน้าอีกนิดหน่อย
เราจะได้แกงกระด้างที่เป็นชิ้น จากการเซตตัวของไขมันสัตว์ ไม่ใส่ผงวุ้นเหมือนกับบางร้าน สีสันแกงแต่ละชิ้นมีความสวยงาม เมื่อตักชิมมีความอร่อยกลมกล่อมลงตัว ได้กลิ่นหอมของเครื่องเทศจากน้ำแกง มีความเคี้ยวสนุกเพลินจากขาหมูที่สุกนุ่มแต่เนื้อเด้ง กรุบๆจากกระดูกอ่อนของใบหู ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆสักจาน เพิ่มอรรถรสระดับ 5 ดาว

















