กษัตริย์อัลเบิร์ตแห่งเบลเยียม วีรบุรุษผู้ต่อต้านเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 1
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 ปะทุขึ้น พระเจ้าอัลเบิร์ตที่ 1 แห่งเบลเยียมทรงปฏิเสธคำขอของเยอรมนีที่ต้องการเคลื่อนทัพผ่านเบลเยียมเพื่อโจมตีฝรั่งเศส โดยฝ่ายเยอรมันอ้างว่าฝรั่งเศสกำลังเตรียมบุกเบลเยียมเพื่อเข้าถึงเยอรมนีในการสนับสนุนรัสเซีย
ความจริงแล้ว รัฐบาลฝรั่งเศสได้สั่งการให้กองทัพของตนระงับการเข้าเบลเยียมก่อนที่เยอรมนีจะรุกราน การบุกเบลเยียมของเยอรมนีทำให้อังกฤษต้องเข้าร่วมสงครามในฐานะผู้ค้ำประกันความเป็นกลางของเบลเยียมตามสนธิสัญญาปี 1839 พระเจ้าอัลเบิร์ตทรงบัญชาการกองทัพเบลเยียมด้วยพระองค์เองตามรัฐธรรมนูญ และทรงต้านทานกองทัพเยอรมันได้นานพอให้อังกฤษและฝรั่งเศสเตรียมพร้อมสำหรับยุทธการมาร์น (6-9 กันยายน 1914)
พระองค์ทรงนำกองทัพผ่านการล้อมแอนต์เวิร์ป (28 กันยายน - 10 ตุลาคม 1914) และยุทธการอิเซอร์ (16-31 ตุลาคม 1914) จนกองทัพเบลเยียมต้องถอยร่นไปยังพื้นที่เล็กๆ ใกล้ทะเลเหนือ ที่นี่ กองทัพเบลเยียมร่วมกับพันธมิตร Triple Entente สร้างแนวป้องกันตามสนามเพลาะหลังแม่น้ำอิเซอร์ และยึดมั่นอยู่ที่นั่นนานถึง 4 ปี
ในช่วงเวลานี้ พระเจ้าอัลเบิร์ตทรงร่วมรบเคียงข้างทหารและแบ่งปันความเสี่ยงเช่นเดียวกัน ขณะที่สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธทรงปฏิบัติหน้าที่เป็นพยาบาลที่แนวหน้า มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าทหารเยอรมันไม่ยิงใส่พระองค์ด้วยความเคารพในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดที่เสี่ยงภัยในสนามรบ บ้างก็เกรงการลงโทษจากไกเซอร์วิลเฮล์มที่ 2 ซึ่งเป็นพระญาติ พระองค์ยังทรงอนุญาตให้เจ้าชายเลโอโปลด์ พระราชโอรสวัย 14 พรรษา ลงทะเบียนเป็นทหารราบในกองทัพเบลเยียม
สงครามสร้างความทุกข์ยากให้เบลเยียมอย่างมากจากการถูกเยอรมนียึดครอง พระเจ้าอัลเบิร์ตทรงวิตกถึงผลกระทบของสงครามและทรงพยายามเจรจาสันติภาพลับๆ ระหว่างเยอรมนีกับฝ่ายสัมพันธมิตรภายใต้แนวคิด "ไม่มีผู้ชนะ-ไม่มีผู้แพ้" เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเบลเยียมและเสถียรภาพของยุโรป แต่ทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งหาชัยชนะเด็ดขาด ทำให้ความพยายามของพระองค์ไม่สัมฤทธิ์ผล
เมื่อสงครามใกล้สิ้นสุด ในฐานะผู้บัญชาการ Army Group Flanders ที่ประกอบด้วยกองทัพเบลเยียม อังกฤษ และฝรั่งเศส พระองค์ทรงนำการโจมตีครั้งสุดท้ายที่ปลดปล่อยเบลเยียม พระเจ้าอัลเบิร์ต สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ และพระราชโอรสธิดาทรงเสด็จกลับบรัสเซลส์ท่ามกลางการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติจากประชาชน
















