โบราณสถานแห่งเติงเฟิง ณ ใจกลางฟ้าดิน (Historic Monuments of Dengfeng in The Centre of Heaven and Earth)
**กลุ่มโบราณสถานแห่งเติงเฟิง “ใจกลางฟ้าและดิน”** เป็นหนึ่งในมรดกโลกของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยภูเขาซงซาน (嵩山) ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ในมณฑลเหอหนาน เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่มีบทบาทสำคัญทั้งในด้านศาสนาและวัฒนธรรมมาตั้งแต่อดีตกาล และถือเป็นศูนย์กลางของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า (五岳)
มรดกโลกนี้ ครอบคลุมกลุ่มอาคารประวัติศาสตร์ 8 แห่ง ในบริเวณรอบภูเขาซงซาน ที่ถูกสร้างขึ้นในยุคต่าง ๆ ของราชวงศ์จีน รวมถึงวัดเส้าหลินอันมีชื่อเสียงด้วย
ชื่อภาษาจีนของมรดกโลก
ศูนย์มรดกโลกของยูเนสโก ได้แสดงชื่อภาษาจีนว่า “登封 ‘天地之中’历史古迹” ซึ่งแปลว่า “กลุ่มโบราณสถานทางประวัติศาสตร์แห่งเติงเฟิง ‘ใจกลางฟ้าและดิน’”
ความหมายของ “ใจกลางฟ้าและดิน
แนวคิดเรื่องจักรวาลของจีนโบราณคือ “ฟ้ากลม แผ่นดินเหลี่ยม” และเชื่อว่า ฟ้ากับดินเชื่อมต่อกัน ผ่านยอดเขาสูงหรือไม้ใหญ่
ตามแนวคิดแบบ “จงหัว” (中華思想) จีนถือว่าตนเองเป็นศูนย์กลางของโลก โดยพื้นที่ที่เรียกว่า “จงหยวน” (中原) ซึ่งอยู่ตรงกลางแผ่นดิน ได้ถูกใช้เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงมาตั้งแต่อดีต และภูเขาซงซานซึ่งอยู่ใจกลางห้าภูเขาศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกมองว่าเป็นใจกลางของฟ้าและดิน ทำให้มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาและการศึกษาไว้มากมายในพื้นที่นี้
โบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ในเมืองเติงเฟิง มณฑลเหอหนาน มีโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมด 8 แห่ง ซึ่งภายในนั้นประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยรวมทั้งหมด 367 รายการ ได้แก่:
- ประตูไท่ซื่อ (太室闕) และวิหารจงเยว่ (中岳廟)
* ตั้งอยู่ที่เชิงเขาหวงไก่ของภูเขาซงซาน เป็นศาสนสถานลัทธิเต๋า
* พื้นที่ขึ้นทะเบียน 372.3 เฮกตาร์ และเขตกันชน 496.3 เฮกตาร์
**ประตูไท่ซื่อ** สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 118 ในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก มีความสูง 3.92 เมตร เป็นหนึ่งใน “สามประตูฮั่นแห่งจงเยว่” (中岳漢三闕) และเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในจีนที่ยังคงสภาพเดิมไว้ได้
* สร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมไม้ด้วยการเรียงหิน
* แกะสลักภาพนูนและจารึกด้วยอักษรจีนหลากหลายรูปแบบ เป็นแหล่งข้อมูลประวัติศาสตร์และพัฒนาการทางอักษรศาสตร์
* เคยเป็นประตูหน้าของสถานที่บูชาเทพภูเขาไท่ซื่อ และเป็นหลักฐานของพิธีกรรมในสมัยนั้น
**วิหารจงเยว่** มีต้นกำเนิดจาก “ศาลเจ้าไท่ซื่อ” สมัยราชวงศ์ฉิน และขยายใหญ่ขึ้นในสมัยจักรพรรดิฮั่นอู่ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของลัทธิเต๋าในภูเขาซงซาน
* ปัจจุบันมีอาคารทั้งหมด 37 หลัง เรียงตามแนวแกนเหนือ-ใต้
* เป็นศาสนสถานขนาดใหญ่ที่สุดในมณฑลเหอหนาน และถูกขนานนามว่า “พระราชวังต้องห้ามจิ๋ว” เพราะสร้างแบบตามพระราชวังต้องห้ามในสมัยราชวงศ์ชิง
- ประตูเส้าซื่อ (少室闕)
* ตั้งอยู่ที่เชิงเขาเส้าซื่อซาน หนึ่งในสามประตูฮั่นแห่งจงเยว่
* สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 118–123
* พื้นที่ขึ้นทะเบียน 84 เฮกตาร์ เขตกันชน 222.4 เฮกตาร์
ภาพนูนที่ปรากฏบนประตูแสดงฉากต่าง ๆ เช่น ภาพการแสดงม้าผาดโผน และภาพหญิงเตะลูกหนัง ซึ่งถือเป็นบรรพบุรุษของกีฬา “ฟุตบอล” ในจีนสมัยโบราณ
- ประตูฉีมู่ (啓母闕)
* สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 123 ที่เชิงเขาว่านซุ่ยซาน
* พื้นที่ขึ้นทะเบียน 40.4 เฮกตาร์ เขตกันชน 108.9 เฮกตาร์
สร้างขึ้นเพื่อเป็นประตูของศาลเจ้า “ฉีมู่” ที่อุทิศให้กับหินศักดิ์สิทธิ์ “ฉีมู่สือ” ซึ่งมีตำนานเกี่ยวข้องกับกษัตริย์ต้าอวี่และการกำเนิดของราชวงศ์เซี่ย
* มีจารึกและภาพสลักจำนวนมาก เป็นหลักฐานสำคัญของศิลปะและอักษรศาสตร์สมัยฮั่น
- เจดีย์วัดซงเยว่ (嵩岳寺塔)
* ตั้งอยู่ที่เชิงเขาไท่ซื่อซานด้านทิศใต้
* เป็นเจดีย์อิฐที่เก่าแก่ที่สุดในจีน สร้างในปี ค.ศ. 520 สมัยราชวงศ์เป่ยเว่ย
* มีความสูงประมาณ 40 เมตร เป็นเจดีย์ทรง 12 เหลี่ยมแบบ “ชั้นซ้อนถี่” (密檐式) จำนวน 15 ชั้นพื้นที่ขึ้นทะเบียน 33.4 เฮกตาร์ เขตกันชน 47.9 เฮกตาร์
- กลุ่มอาคารวัดเส้าหลิน (少林寺建築群) ประกอบด้วย:
* วัดหลัก (常住院)
* ศาลบูชาปรมาจารย์ (初祖庵)
* ป่าหลุมศพเจดีย์ (塔林)
* สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 495 โดยคำสั่งของจักรพรรดิเป่ยเว่ย เพื่อพระภิกษุชื่อปาต๋อ
* ในปี ค.ศ. 527 พระโพธิธรรมได้ก่อตั้งนิกายเซน (禅宗) ที่นี่ ทำให้วัดเส้าหลินกลายเป็นศูนย์กลางของเซน
* ยังมีชื่อเสียงด้านศิลปะการต่อสู้ โดยเฉพาะ “กังฟูเส้าหลิน”
จุดเด่น
* อาคาร “หอพันพระ” (千仏殿) สร้างในสมัยหมิง (ค.ศ. 1588) ถือเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่สุดในวัด
* มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง “ห้าร้อยอรหันต์บูชาพระไวโรจนะ” (五百羅漢朝毘盧) ขนาด 300 ตร.ม. ที่วาดขึ้นในสมัยหมิง และยังคงอยู่ในปัจจุบัน
ศาลเจ้าปฐมบูรพาจารย์ (初祖庵)
**ศาลเจ้าปฐมบูรพาจารย์** (しょそあん) เป็นกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่ในบริเวณซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่ **พระโพธิธรรม (Bodhidharma)** นั่งสมาธิหันหน้าเข้ากำแพงเป็นเวลานานหลายปี
อย่างไรก็ตาม สิ่งก่อสร้างที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน คือหอใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1125 และอาคารขนาดเล็กแบบศาลาพัก (小亭) 2 หลัง ซึ่งถูกเพิ่มเติมในสมัยราชวงศ์ชิง
ตัวหอใหญ่เป็นอาคารไม้ และถือว่า เป็นหนึ่งในผลงานชั้นยอดของสถาปัตยกรรมไม้ ในมณฑลเหอหนาน
ป่าหลุมศพเจดีย์ (塔林)
**ป่าหลุมศพเจดีย์** (とうりん) เป็นพื้นที่สุสานของพระสงฆ์วัดเส้าหลิน ซึ่งเมื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น มีเจดีย์สุสานถึง **241 องค์** เรียงรายอยู่ จนทำให้พื้นที่นี้ถูกเรียกว่า “ป่าเจดีย์”
เจดีย์เหล่านี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง จนถึงราชวงศ์ชิง กินเวลารวมกว่า 13 ศตวรรษ และได้รับการประเมินค่าสูง ทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและศิลปะการแกะสลัก
วัดฮุ่ยซั่น (会善寺)
**วัดฮุ่ยซั่น** (Huishan Temple, 1305-006) เป็นหนึ่งใน **สี่วัดใหญ่ของภูเขาซงซาน** ร่วมกับวัดเส้าหลิน, วัดซงเยว่ และวัดฝ่าอ๋อง ตั้งอยู่ใต้ยอดเขาจี๋ซุ่ยของภูเขาไท่ซื่อ และมีต้นกำเนิดจากพระราชวังฤดูร้อน ในสมัยราชวงศ์เป่ยเว่ย
ชื่อ “วัดฮุ่ยซั่น” ถูกตั้งขึ้นในสมัยราชวงศ์สุย ปัจจุบัน สิ่งก่อสร้างหลัก สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน แม้จะมีการบูรณะในสมัยหมิงและชิงหลายครั้ง แต่อาคาร 8 แห่งรวมถึงประตูหลัก ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมของราชวงศ์หยวนอยู่
* พื้นที่ขึ้นทะเบียน: 68.2 เฮกตาร์
* เขตกันชน: 373 เฮกตาร์
สำนักศึกษาแห่งซงหยาง (嵩陽書院)
**สำนักซงหยาง** (Songyang Academy, 1305-007) เป็นสถาบันศึกษาทางขงจื้อ (儒教) ที่มีชื่อเสียง และมีความสำคัญในฐานะหนึ่งใน **สี่สำนักสำคัญของจีนในสมัยซ่ง**
เดิมเป็นวัดซงหยาง ที่ก่อสร้างในสมัยราชวงศ์เป่ยเว่ย และเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง ก่อนจะกลายเป็น “สำนักซงหยาง” ในสมัยราชวงศ์ซ่ง
นักปราชญ์ชื่อดังอย่าง “เฉิงห่าว” และ “เฉิงอี” ผู้วางรากฐานปรัชญา “ลี่เสวีย” (理学) เคยบรรยายที่นี่
* สิ่งก่อสร้างที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน เป็นของสมัยราชวงศ์ชิง และมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่พบทั่วไปในมณฑลเหอหนาน
จุดเด่นรอบสำนัก
* ต้นสนโบราณ “แม่ทัพใหญ่” และ “แม่ทัพรอง” (大将軍・二将軍) ซึ่งเชื่อกันว่าจักรพรรดิฮั่นอู่แต่งตั้งเป็นแม่ทัพ เพราะความสง่างาม ปัจจุบันเหลือ 2 ต้นจากเดิม 3 ต้น (ต้นที่สามถูกไฟไหม้ในสมัยหมิง) เชื่อกันว่า มีอายุกว่า 4,500 ปี และจัดว่า เป็นต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในจีน
* ศิลาจารึก “ซงหยางกานกั้นอวี้” (嵩陽観感応碑) สูง 8 เมตร สร้างในปี ค.ศ. 744 (สมัยราชวงศ์ถัง) เป็นศิลาที่ใหญ่ที่สุดในภูเขาซงซาน และในมณฑลเหอหนาน ตัวอักษรบนจารึกเขียนโดย นักอักษรศาสตร์ชื่อดัง “สวี่ ห่าว” (徐浩)
แท่นวัดเงาและหอสังเกตการณ์ดาว (周公測景台と観星台)
**แท่นวัดเงา (周公測景台)** หรือ “แท่นวัดเงาแดด” เป็นอุปกรณ์วัดเงาแบบโบราณ คล้ายแดดาล ซึ่งใช้ในการวัดตำแหน่งฟ้า-ดิน และคำนวณปฏิทิน
ตำนานเล่าว่า “โจวกง” ใช้เครื่องมือนี้ในการหาจุดศูนย์กลางของฟ้าและดิน ปัจจุบันของเดิมไม่หลงเหลือแล้ว แต่มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 723 โดยนักดาราศาสตร์ เพื่อรำลึกถึงโจวกง
**หอสังเกตการณ์ดาว (観星台)** อยู่ด้านเหนือของแท่นวัดเงา สร้างในปี ค.ศ. 1279 โดย “กั๋ว ซู่จิ่ง” (郭守敬) นักดาราศาสตร์แห่งราชวงศ์หยวน
* เดิมสูง 9.46 เมตร และถูกเสริมขึ้นอีก 3 เมตรในสมัยราชวงศ์หมิง
* ใช้คำนวณวันครีษมายัน วันเหมายัน และละติจูดจากความยาวของเงา
* เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายหอดูดาวทั้ง 27 แห่งทั่วจีนที่กั๋ว ซู่จิ่งก่อตั้งขึ้น
* มีเพียงหอสังเกตการณ์ที่เติงเฟิงและปักกิ่งเท่านั้นที่เป็นอาคารอิฐ สะท้อนถึงความสำคัญของ “ใจกลางฟ้าและดิน”
* พื้นที่ขึ้นทะเบียน: 16.3 เฮกตาร์
* เขตกันชน: 134.6 เฮกตาร์
การจัดประเภทและการขึ้นทะเบียน
**ประเภทของมรดกโลก**: มรดกทางวัฒนธรรม ประเภท “กลุ่มสิ่งก่อสร้าง” (groups of buildings)
* แม้ภูเขาซงซานจะเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในฐานะภูมิทัศน์วัฒนธรรม แต่เฉพาะสิ่งปลูกสร้างทางวัฒนธรรมเท่านั้น
ประวัติการขึ้นทะเบียน
* ปี 2001: ถูกขึ้นบัญชีเบื้องต้นในชื่อ “กลุ่มโบราณสถานภูเขาซงซาน”* ปี 2009: พิจารณาครั้งแรกที่คณะกรรมการมรดกโลก (เซบียา) แต่ขอข้อมูลเพิ่มเติม* ปี 2010: หลังจีนส่งข้อมูลเพิ่มเติม ICOMOS แนะนำให้ขึ้นทะเบียน และได้รับการอนุมัติในคณะกรรมการครั้งที่ 34 (บราซิเลีย)
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการขึ้นทะเบียน
จีนเสนอหลักเกณฑ์ (1), (2), (3), (4), (6) แต่ ICOMOS และคณะกรรมการยอมรับเฉพาะ:
* **เกณฑ์ (3)**: เป็นหลักฐานที่หายากของแนวคิด “ใจกลางฟ้าและดิน” ที่เชื่อมโยงกับพิธีกรรมและอำนาจของจักรพรรดิ
* **เกณฑ์ (6)**: สะท้อนถึงความสำคัญทางวัฒนธรรมและศาสนา เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างวัดเส้าหลินกับพุทธศาสนาและภูเขาศักดิ์สิทธิ์
อ้างอิงจาก:
https://shorturl.asia/Z3rYh
https://shorturl.asia/x14WC
https://shorturl.asia/GrSDk
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
บุกจับเซียนพระลูกผู้ใหญ่บ้าน ยิงกลางร้านอาหารนครปฐม เสียชีวิต 2 เจ็บ 3
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?
7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป









