หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

โบราณสถานแห่งเติงเฟิง ณ ใจกลางฟ้าดิน (Historic Monuments of Dengfeng in The Centre of Heaven and Earth)

โพสท์โดย น้องมิ่ง รัตนาภรณ์

**กลุ่มโบราณสถานแห่งเติงเฟิง “ใจกลางฟ้าและดิน”** เป็นหนึ่งในมรดกโลกของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยภูเขาซงซาน (嵩山) ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ในมณฑลเหอหนาน เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่มีบทบาทสำคัญทั้งในด้านศาสนาและวัฒนธรรมมาตั้งแต่อดีตกาล และถือเป็นศูนย์กลางของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า (五岳)

มรดกโลกนี้ ครอบคลุมกลุ่มอาคารประวัติศาสตร์ 8 แห่ง ในบริเวณรอบภูเขาซงซาน ที่ถูกสร้างขึ้นในยุคต่าง ๆ ของราชวงศ์จีน รวมถึงวัดเส้าหลินอันมีชื่อเสียงด้วย

ชื่อภาษาจีนของมรดกโลก

ศูนย์มรดกโลกของยูเนสโก ได้แสดงชื่อภาษาจีนว่า “登封 ‘天地之中’历史古迹” ซึ่งแปลว่า “กลุ่มโบราณสถานทางประวัติศาสตร์แห่งเติงเฟิง ‘ใจกลางฟ้าและดิน’”

ความหมายของ “ใจกลางฟ้าและดิน

แนวคิดเรื่องจักรวาลของจีนโบราณคือ “ฟ้ากลม แผ่นดินเหลี่ยม” และเชื่อว่า ฟ้ากับดินเชื่อมต่อกัน ผ่านยอดเขาสูงหรือไม้ใหญ่

ตามแนวคิดแบบ “จงหัว” (中華思想) จีนถือว่าตนเองเป็นศูนย์กลางของโลก โดยพื้นที่ที่เรียกว่า “จงหยวน” (中原) ซึ่งอยู่ตรงกลางแผ่นดิน ได้ถูกใช้เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงมาตั้งแต่อดีต และภูเขาซงซานซึ่งอยู่ใจกลางห้าภูเขาศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกมองว่าเป็นใจกลางของฟ้าและดิน ทำให้มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาและการศึกษาไว้มากมายในพื้นที่นี้

โบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

ในเมืองเติงเฟิง มณฑลเหอหนาน มีโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมด 8 แห่ง ซึ่งภายในนั้นประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยรวมทั้งหมด 367 รายการ ได้แก่:

  1. ประตูไท่ซื่อ (太室闕) และวิหารจงเยว่ (中岳廟)

* ตั้งอยู่ที่เชิงเขาหวงไก่ของภูเขาซงซาน เป็นศาสนสถานลัทธิเต๋า

* พื้นที่ขึ้นทะเบียน 372.3 เฮกตาร์ และเขตกันชน 496.3 เฮกตาร์

**ประตูไท่ซื่อ** สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 118 ในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก มีความสูง 3.92 เมตร เป็นหนึ่งใน “สามประตูฮั่นแห่งจงเยว่” (中岳漢三闕) และเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในจีนที่ยังคงสภาพเดิมไว้ได้

* สร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมไม้ด้วยการเรียงหิน

* แกะสลักภาพนูนและจารึกด้วยอักษรจีนหลากหลายรูปแบบ เป็นแหล่งข้อมูลประวัติศาสตร์และพัฒนาการทางอักษรศาสตร์

* เคยเป็นประตูหน้าของสถานที่บูชาเทพภูเขาไท่ซื่อ และเป็นหลักฐานของพิธีกรรมในสมัยนั้น

**วิหารจงเยว่** มีต้นกำเนิดจาก “ศาลเจ้าไท่ซื่อ” สมัยราชวงศ์ฉิน และขยายใหญ่ขึ้นในสมัยจักรพรรดิฮั่นอู่ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของลัทธิเต๋าในภูเขาซงซาน

* ปัจจุบันมีอาคารทั้งหมด 37 หลัง เรียงตามแนวแกนเหนือ-ใต้

* เป็นศาสนสถานขนาดใหญ่ที่สุดในมณฑลเหอหนาน และถูกขนานนามว่า “พระราชวังต้องห้ามจิ๋ว” เพราะสร้างแบบตามพระราชวังต้องห้ามในสมัยราชวงศ์ชิง

  1. ประตูเส้าซื่อ (少室闕)

* ตั้งอยู่ที่เชิงเขาเส้าซื่อซาน หนึ่งในสามประตูฮั่นแห่งจงเยว่

* สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 118–123

* พื้นที่ขึ้นทะเบียน 84 เฮกตาร์ เขตกันชน 222.4 เฮกตาร์

ภาพนูนที่ปรากฏบนประตูแสดงฉากต่าง ๆ เช่น ภาพการแสดงม้าผาดโผน และภาพหญิงเตะลูกหนัง ซึ่งถือเป็นบรรพบุรุษของกีฬา “ฟุตบอล” ในจีนสมัยโบราณ

 

  1. ประตูฉีมู่ (啓母闕)

* สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 123 ที่เชิงเขาว่านซุ่ยซาน

* พื้นที่ขึ้นทะเบียน 40.4 เฮกตาร์ เขตกันชน 108.9 เฮกตาร์

สร้างขึ้นเพื่อเป็นประตูของศาลเจ้า “ฉีมู่” ที่อุทิศให้กับหินศักดิ์สิทธิ์ “ฉีมู่สือ” ซึ่งมีตำนานเกี่ยวข้องกับกษัตริย์ต้าอวี่และการกำเนิดของราชวงศ์เซี่ย

* มีจารึกและภาพสลักจำนวนมาก เป็นหลักฐานสำคัญของศิลปะและอักษรศาสตร์สมัยฮั่น

 

  1. เจดีย์วัดซงเยว่ (嵩岳寺塔)

* ตั้งอยู่ที่เชิงเขาไท่ซื่อซานด้านทิศใต้

* เป็นเจดีย์อิฐที่เก่าแก่ที่สุดในจีน สร้างในปี ค.ศ. 520 สมัยราชวงศ์เป่ยเว่ย

* มีความสูงประมาณ 40 เมตร เป็นเจดีย์ทรง 12 เหลี่ยมแบบ “ชั้นซ้อนถี่” (密檐式) จำนวน 15 ชั้นพื้นที่ขึ้นทะเบียน 33.4 เฮกตาร์ เขตกันชน 47.9 เฮกตาร์

  1. กลุ่มอาคารวัดเส้าหลิน (少林寺建築群) ประกอบด้วย:

* วัดหลัก (常住院)

* ศาลบูชาปรมาจารย์ (初祖庵)

* ป่าหลุมศพเจดีย์ (塔林)

* สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 495 โดยคำสั่งของจักรพรรดิเป่ยเว่ย เพื่อพระภิกษุชื่อปาต๋อ

* ในปี ค.ศ. 527 พระโพธิธรรมได้ก่อตั้งนิกายเซน (禅宗) ที่นี่ ทำให้วัดเส้าหลินกลายเป็นศูนย์กลางของเซน

* ยังมีชื่อเสียงด้านศิลปะการต่อสู้ โดยเฉพาะ “กังฟูเส้าหลิน”

จุดเด่น

* อาคาร “หอพันพระ” (千仏殿) สร้างในสมัยหมิง (ค.ศ. 1588) ถือเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่สุดในวัด

* มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง “ห้าร้อยอรหันต์บูชาพระไวโรจนะ” (五百羅漢朝毘盧) ขนาด 300 ตร.ม. ที่วาดขึ้นในสมัยหมิง และยังคงอยู่ในปัจจุบัน

 

ศาลเจ้าปฐมบูรพาจารย์ (初祖庵)

**ศาลเจ้าปฐมบูรพาจารย์** (しょそあん) เป็นกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่ในบริเวณซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่ **พระโพธิธรรม (Bodhidharma)** นั่งสมาธิหันหน้าเข้ากำแพงเป็นเวลานานหลายปี

อย่างไรก็ตาม สิ่งก่อสร้างที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน คือหอใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1125 และอาคารขนาดเล็กแบบศาลาพัก (小亭) 2 หลัง ซึ่งถูกเพิ่มเติมในสมัยราชวงศ์ชิง

ตัวหอใหญ่เป็นอาคารไม้ และถือว่า เป็นหนึ่งในผลงานชั้นยอดของสถาปัตยกรรมไม้ ในมณฑลเหอหนาน

ป่าหลุมศพเจดีย์ (塔林)

**ป่าหลุมศพเจดีย์** (とうりん) เป็นพื้นที่สุสานของพระสงฆ์วัดเส้าหลิน ซึ่งเมื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น มีเจดีย์สุสานถึง **241 องค์** เรียงรายอยู่ จนทำให้พื้นที่นี้ถูกเรียกว่า “ป่าเจดีย์”

เจดีย์เหล่านี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง จนถึงราชวงศ์ชิง กินเวลารวมกว่า 13 ศตวรรษ และได้รับการประเมินค่าสูง ทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและศิลปะการแกะสลัก

 

วัดฮุ่ยซั่น (会善寺)

**วัดฮุ่ยซั่น** (Huishan Temple, 1305-006) เป็นหนึ่งใน **สี่วัดใหญ่ของภูเขาซงซาน** ร่วมกับวัดเส้าหลิน, วัดซงเยว่ และวัดฝ่าอ๋อง ตั้งอยู่ใต้ยอดเขาจี๋ซุ่ยของภูเขาไท่ซื่อ และมีต้นกำเนิดจากพระราชวังฤดูร้อน ในสมัยราชวงศ์เป่ยเว่ย

ชื่อ “วัดฮุ่ยซั่น” ถูกตั้งขึ้นในสมัยราชวงศ์สุย ปัจจุบัน สิ่งก่อสร้างหลัก สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน แม้จะมีการบูรณะในสมัยหมิงและชิงหลายครั้ง แต่อาคาร 8 แห่งรวมถึงประตูหลัก ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมของราชวงศ์หยวนอยู่

* พื้นที่ขึ้นทะเบียน: 68.2 เฮกตาร์

* เขตกันชน: 373 เฮกตาร์

สำนักศึกษาแห่งซงหยาง (嵩陽書院)

**สำนักซงหยาง** (Songyang Academy, 1305-007) เป็นสถาบันศึกษาทางขงจื้อ (儒教) ที่มีชื่อเสียง และมีความสำคัญในฐานะหนึ่งใน **สี่สำนักสำคัญของจีนในสมัยซ่ง**

เดิมเป็นวัดซงหยาง ที่ก่อสร้างในสมัยราชวงศ์เป่ยเว่ย และเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง ก่อนจะกลายเป็น “สำนักซงหยาง” ในสมัยราชวงศ์ซ่ง

นักปราชญ์ชื่อดังอย่าง “เฉิงห่าว” และ “เฉิงอี” ผู้วางรากฐานปรัชญา “ลี่เสวีย” (理学) เคยบรรยายที่นี่

* สิ่งก่อสร้างที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน เป็นของสมัยราชวงศ์ชิง และมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่พบทั่วไปในมณฑลเหอหนาน

 

จุดเด่นรอบสำนัก

* ต้นสนโบราณ “แม่ทัพใหญ่” และ “แม่ทัพรอง” (大将軍・二将軍) ซึ่งเชื่อกันว่าจักรพรรดิฮั่นอู่แต่งตั้งเป็นแม่ทัพ เพราะความสง่างาม ปัจจุบันเหลือ 2 ต้นจากเดิม 3 ต้น (ต้นที่สามถูกไฟไหม้ในสมัยหมิง) เชื่อกันว่า มีอายุกว่า 4,500 ปี และจัดว่า เป็นต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในจีน

* ศิลาจารึก “ซงหยางกานกั้นอวี้” (嵩陽観感応碑) สูง 8 เมตร สร้างในปี ค.ศ. 744 (สมัยราชวงศ์ถัง) เป็นศิลาที่ใหญ่ที่สุดในภูเขาซงซาน และในมณฑลเหอหนาน ตัวอักษรบนจารึกเขียนโดย นักอักษรศาสตร์ชื่อดัง “สวี่ ห่าว” (徐浩)

 

แท่นวัดเงาและหอสังเกตการณ์ดาว (周公測景台と観星台)

**แท่นวัดเงา (周公測景台)** หรือ “แท่นวัดเงาแดด” เป็นอุปกรณ์วัดเงาแบบโบราณ คล้ายแดดาล ซึ่งใช้ในการวัดตำแหน่งฟ้า-ดิน และคำนวณปฏิทิน

ตำนานเล่าว่า “โจวกง” ใช้เครื่องมือนี้ในการหาจุดศูนย์กลางของฟ้าและดิน ปัจจุบันของเดิมไม่หลงเหลือแล้ว แต่มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 723 โดยนักดาราศาสตร์ เพื่อรำลึกถึงโจวกง

**หอสังเกตการณ์ดาว (観星台)** อยู่ด้านเหนือของแท่นวัดเงา สร้างในปี ค.ศ. 1279 โดย “กั๋ว ซู่จิ่ง” (郭守敬) นักดาราศาสตร์แห่งราชวงศ์หยวน

* เดิมสูง 9.46 เมตร และถูกเสริมขึ้นอีก 3 เมตรในสมัยราชวงศ์หมิง

* ใช้คำนวณวันครีษมายัน วันเหมายัน และละติจูดจากความยาวของเงา

* เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายหอดูดาวทั้ง 27 แห่งทั่วจีนที่กั๋ว ซู่จิ่งก่อตั้งขึ้น

* มีเพียงหอสังเกตการณ์ที่เติงเฟิงและปักกิ่งเท่านั้นที่เป็นอาคารอิฐ สะท้อนถึงความสำคัญของ “ใจกลางฟ้าและดิน”

* พื้นที่ขึ้นทะเบียน: 16.3 เฮกตาร์

* เขตกันชน: 134.6 เฮกตาร์

 

การจัดประเภทและการขึ้นทะเบียน

**ประเภทของมรดกโลก**: มรดกทางวัฒนธรรม ประเภท “กลุ่มสิ่งก่อสร้าง” (groups of buildings)

* แม้ภูเขาซงซานจะเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในฐานะภูมิทัศน์วัฒนธรรม แต่เฉพาะสิ่งปลูกสร้างทางวัฒนธรรมเท่านั้น

ประวัติการขึ้นทะเบียน

* ปี 2001: ถูกขึ้นบัญชีเบื้องต้นในชื่อ “กลุ่มโบราณสถานภูเขาซงซาน”* ปี 2009: พิจารณาครั้งแรกที่คณะกรรมการมรดกโลก (เซบียา) แต่ขอข้อมูลเพิ่มเติม* ปี 2010: หลังจีนส่งข้อมูลเพิ่มเติม ICOMOS แนะนำให้ขึ้นทะเบียน และได้รับการอนุมัติในคณะกรรมการครั้งที่ 34 (บราซิเลีย)

 

หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการขึ้นทะเบียน

จีนเสนอหลักเกณฑ์ (1), (2), (3), (4), (6) แต่ ICOMOS และคณะกรรมการยอมรับเฉพาะ:

* **เกณฑ์ (3)**: เป็นหลักฐานที่หายากของแนวคิด “ใจกลางฟ้าและดิน” ที่เชื่อมโยงกับพิธีกรรมและอำนาจของจักรพรรดิ

* **เกณฑ์ (6)**: สะท้อนถึงความสำคัญทางวัฒนธรรมและศาสนา เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างวัดเส้าหลินกับพุทธศาสนาและภูเขาศักดิ์สิทธิ์

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: momon
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ติ๊กต๊อกเกอร์ชื่อดังของไทย ถูกแก๊งค์เหงียนตัดมือขาดเปิดเผยรายชื่อ พระผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟที่ยังไม่ลาสิกขาทายนิสัยสายรักสุขภาพจาก ‘กีฬาที่ชอบ’ บ่งบอกความเป็นคุณผู้หญิงยุคใหม่ โสด รวย สุขภาพดี มีความสุข ปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงครองตัวเป็นโสด ข้อดีของการครองตัวเป็นโสดบน "เรือสำราญ" ก็มีห้องเก็บศพ..ถ้าลูกเรือพูดประโยคนี้ แสดงว่ามี "คนตาย"บริษัทที่ใหญ่ที่สุด มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยสลดกลางสนามบินอิตาลี ชายวัย 35 ปีถูกดูดเข้าเครื่องยนต์เจ็ท เสียชีวิตทันทีAI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 68..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปีทะเลทรายเพียงแห่งเดียวในโลก ที่มีนกเพนกวินอาศัยอยู่ตามธรรมชาติดาราดัง "คิราริ" จากเรื่อง GTO ป่วยเป็นมะเร็ง ขอตายตามลำพังภาชนะไหนเข้าไมโครเวฟได้ และ ภาชนะไหนที่ควรหลีกเลี่ยงคนตลกเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์น่าดึงดูดใจทั้งชายและหญิง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ญี่ปุ่นมีจริง บริการ “เช่าคนชรา” จะเหงา จะขาดคุณตาคุณยาย ก็จ้างได้!“ถึงเวลาแล้วหรือยัง... ที่คนไทยรุ่นใหม่ควรได้เรียน ‘วิชาวิพากษ์’ บนโลกออนไลน์” (กรณีศึกษา: เสียงพากย์ Superman – จากคำติ สู่การด่าจิกหัว)แมงกะพรุนที่อันตรายที่สุด มีพิษร้ายแรงมากที่สุดในโลกเลขเด็ด "แม่จำเนียรล็อตเตอรี่" มาแล้ว! งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 68..คอหวยส่องด่วน!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
"กินโกโก้" มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายนมวัวสามารถ ลดความเสี่ยงในการเป็น"มะเร็งลำไส้"เมื่อผ้าเหลืองถูกทำให้เปื้อน เราจะยังกราบพระด้วยใจบริสุทธิ์ได้อยู่อีกไหม?อำเภอเดียวของจังหวัดในภาคกลาง ที่มีพื้นที่อยู่ติดกับต่างประเทศ
ตั้งกระทู้ใหม่