ภาษี VAT กับ TAX ต่างกัน แต่บางคนยังไม่เข้าใจ
ในยุคที่การเงินและเศรษฐกิจเป็นเรื่องใกล้ตัว การทำความเข้าใจเรื่อง "ภาษี" ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนักถึง โดยเฉพาะคำที่มักใช้สับสนกันบ่อย ๆ อย่าง "TAX" และ "VAT" แม้ทั้งสองจะเป็นกลไกหลักในการนำรายได้เข้ารัฐเพื่อพัฒนาประเทศ แต่ในทางปฏิบัติและทางกฎหมายแล้ว มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน การทำความเข้าใจความต่างนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณบริหารจัดการการเงินส่วนตัวได้อย่างถูกต้อง แต่ยังช่วยให้ผู้ประกอบการวางแผนทางภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะเจาะลึกถึงหลักการและข้อเท็จจริงของภาษีทั้งสองประเภท พร้อมอ้างอิงข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
VAT คืออะไร?
VAT (Value Added Tax) หรือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม คือภาษีประเภทหนึ่งที่จัดเก็บจาก มูลค่าส่วนเพิ่มของการซื้อขายสินค้าหรือการให้บริการในแต่ละขั้นตอน ของการผลิตและจำหน่ายสินค้าหรือบริการ ทั้งที่ผลิตภายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ โดยตามนิยามทางกฎหมาย VAT จัดเป็นหน่วยย่อยของ TAX และเป็นภาษีทางอ้อม ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบ VAT (มีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี) จะมีหน้าที่จัดเก็บภาษีนี้จากผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ แล้วจึงนำส่งต่อให้กรมสรรพากร
TAX คืออะไร?
TAX คือคำรวมที่หมายถึง เงินที่ภาครัฐบาลเรียกเก็บจากบุคคลและนิติบุคคลโดยตรง ภายในประเทศตามอำนาจแห่งกฎหมาย เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศและจัดสรรสวัสดิการสาธารณะต่าง ๆ โดยไม่มีสิ่งตอบแทนโดยตรงแก่ผู้เสียภาษีอากรในทันที ภาษีถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่:
-
ภาษีทางตรง (Direct Tax): ภาษีที่ไม่สามารถผลักภาระให้ผู้อื่นได้ เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และ ภาษีเงินได้นิติบุคคล
-
ภาษีทางอ้อม (Indirect Tax): ภาษีที่สามารถผลักภาระให้ผู้อื่นได้ ซึ่ง VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) จัดอยู่ในกลุ่มนี้ รวมถึงภาษีธุรกิจเฉพาะและภาษีสรรพสามิต
ดังนั้น TAX จึงเป็นคำที่ครอบคลุมภาษีทุกประเภท ที่รัฐจัดเก็บ
ความแตกต่าง VAT กับ TAX
ทำไมการจ่าย VAT ถึงแตกต่างจาก TAX ทั้งที่เป็นภาษีเหมือนกัน?
ความแตกต่างหลักมาจากการเป็น "ภาษีทางตรง" และ "ภาษีทางอ้อม"
-
ภาษีเงินได้ (เป็น TAX ทางตรง): เป็นการจ่ายจาก "รายได้" หรือ "กำไร" โดยตรงของผู้มีรายได้ ภาระภาษีตกอยู่กับผู้มีรายได้โดยตรงและไม่สามารถผลักภาระให้ผู้อื่นได้ (เช่น ภาษีเงินเดือน)
-
VAT (เป็น TAX ทางอ้อม): เป็นการจ่ายจากการ "บริโภค" หรือ "ซื้อขายสินค้า/บริการ" โดยผู้ประกอบการจะบวกภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปในราคาสินค้า แล้วให้ผู้บริโภคเป็นผู้ชำระในตอนซื้อ ทำให้ ภาระภาษีถูกผลักไปยังผู้บริโภคคนสุดท้าย ที่ไม่ได้นำสินค้านั้นไปขายต่อ แต่ผู้ประกอบการมีหน้าที่นำเงินส่วนนี้ไปส่งต่อรัฐ
กลไกนี้ทำให้ VAT ถูกจัดเก็บ ณ จุดบริโภคหรือจุดขาย แทนที่จะจัดเก็บจากรายได้ของผู้ผลิตหรือผู้ขายโดยตรง ทำให้การจัดเก็บมีความต่อเนื่องและครอบคลุมทุกการใช้จ่าย
รู้หรือไม่ VAT ประเทศไทยไม่ใช่ 7% แต่เป็น 10%?
ข้อเท็จจริงที่สร้างความเข้าใจผิดมานานคืออัตรา VAT ของไทย ซึ่งตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 80 ได้กำหนดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ 10.0% อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา รัฐบาลไทยได้มีการ ออกพระราชกฤษฎีกาลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 7% (โดยมีการแบ่งภาษีส่วนหนึ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) และได้มีการต่ออายุการลดหย่อนอัตรานี้อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน (ล่าสุดรัฐบาลมีมติคงอัตรา 7% ต่อไปถึงปี พ.ศ. 2569 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ)
ดังนั้น อัตราตามกฎหมายคือ 10% ส่วน อัตราที่บังคับใช้จริงในปัจจุบันคือ 7% ที่ถูกลดหย่อนด้วยพระราชกฤษฎีกา
รัฐนำ VAT และ TAX ไปจัดการสวัสดิการยังไง?
ภาษีเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล รายได้จาก TAX (รวมถึง VAT) จะถูกนำไปรวมไว้ใน งบประมาณแผ่นดิน เพื่อจัดสรรและบริหารจัดการในหลากหลายด้าน เพื่อเป็น "บริการสาธารณะ" และ "สวัสดิการ" ให้กับประชาชน ซึ่งรวมถึง:
-
ด้านการศึกษา: การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเรียนฟรี, การสร้างและปรับปรุงโรงเรียน, การสนับสนุนทุนการศึกษา
-
ด้านสาธารณสุข: การจัดตั้งโรงพยาบาลและสถานพยาบาลของรัฐ, โครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง), การจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์
-
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน: การก่อสร้างและบำรุงรักษาถนน, สะพาน, ระบบขนส่งมวลชน, ระบบไฟฟ้าและประปา
-
ด้านสังคมและความมั่นคง: เงินบำนาญสำหรับข้าราชการ, สวัสดิการผู้สูงอายุ (เบี้ยยังชีพ), สวัสดิการผู้พิการ, งบประมาณด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ
ภาษีจึงเปรียบเสมือนค่าใช้จ่ายร่วมกันของพลเมือง เพื่อให้รัฐบาลสามารถดำเนินงานและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคนในสังคมได้อย่างยั่งยืน
สรุปบทความ ภาษี VAT กับ TAX ต่างกัน
ความสับสนระหว่าง VAT และ TAX มักเกิดจากการใช้คำที่ทับซ้อนกัน โดยแท้จริงแล้ว TAX (ภาษี) คือคำที่ครอบคลุมภาษีทุกประเภทที่รัฐจัดเก็บ ซึ่ง VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็นเพียง ส่วนหนึ่ง ของ TAX และจัดเป็นภาษีทางอ้อมที่มีการจัดเก็บตามมูลค่าส่วนเพิ่มในแต่ละขั้นตอนการผลิตและจำหน่าย และมีการผลักภาระภาษีไปยังผู้บริโภคคนสุดท้าย ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจคือ อัตรา VAT ตามกฎหมายของไทยคือ 10% แต่มีการลดหย่อนเหลือ 7% ด้วยพระราชกฤษฎีกามาอย่างยาวนาน ภาษีเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น VAT หรือ TAX ล้วนเป็นเสาหลักที่รัฐบาลนำไปใช้ในการจัดสรรสวัสดิการและพัฒนาประเทศในทุกมิติ การทำความเข้าใจความแตกต่างของภาษีเหล่านี้จึงเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับทั้งพลเมืองและนักธุรกิจในการดำเนินชีวิตและบริหารการเงินได้อย่างชาญฉลาดและถูกต้องตามกฎหมาย
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหลักประกันเงินกู้ระหว่างรัฐ ❓
Q1: ภาษีทางตรง และภาษีทางอ้อมต่างกันอย่างไร?
A: ภาษีทางตรง (เช่น ภาษีเงินได้) คือภาษีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีต้องรับภาระไว้เอง ไม่สามารถผลักไปให้คนอื่นได้ ส่วนภาษีทางอ้อม (เช่น VAT) คือภาษีที่ผู้ประกอบการสามารถผลักภาระไปให้ผู้บริโภคเป็นผู้จ่ายแทนได้ ณ จุดซื้อขาย
Q2: ใครมีหน้าที่เสีย VAT บ้าง?
A: ผู้ที่มีหน้าที่เสีย VAT คือ ผู้บริโภคคนสุดท้าย ที่ซื้อสินค้าหรือบริการ อย่างไรก็ตาม ผู้มีหน้าที่จดทะเบียน VAT และนำส่งภาษีคือผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพเป็นปกติธุระ และมีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี
Q3: ถ้าไม่มีรายได้ต้องเสีย VAT หรือไม่?
A: VAT เป็นภาษีที่เก็บจากการซื้อขายสินค้าและบริการ ดังนั้น ทุกคนที่มีการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ที่มีการคิด VAT (7%) จะต้องจ่าย VAT ซึ่งรวมอยู่ในราคาสินค้านั้น ๆ โดยไม่ขึ้นอยู่กับว่าบุคคลนั้นมีรายได้หรือไม่
Q4: ประเทศไทยเคยใช้อัตรา VAT 10% จริงหรือไม่?
A: จริงครับ ตามกฎหมายปัจจุบัน (ประมวลรัษฎากร) กำหนดอัตรา VAT ไว้ที่ 10% แต่มีการลดหย่อนตามพระราชกฤษฎีกาให้จัดเก็บในอัตรา 7% มาอย่างต่อเนื่องหลายปีแล้ว
Q5: การขอคืน VAT (ภาษีซื้อ) ทำได้หรือไม่?
A: ทำได้เฉพาะ ผู้ประกอบการที่จดทะเบียน VAT เท่านั้น โดยภาษีซื้อ (VAT ที่ผู้ประกอบการจ่ายไปเมื่อซื้อสินค้า/บริการเพื่อใช้ในกิจการ) สามารถนำมาหักออกจากภาษีขาย (VAT ที่เก็บจากลูกค้า) หากภาษีซื้อมากกว่าภาษีขาย ผู้ประกอบการมีสิทธิขอคืนภาษีส่วนต่างนั้นได้ตามขั้นตอนของกรมสรรพากร
บทความที่น่าสนใจ by DeeSigns
✪ พร้อมเพย์ สแกน VS บัตรเครดิต ข้อดี ข้อเสีย แต่ละระบบทั้งผู้บริโภค และผู้ให้บริการ
✪ ประเทศที่มีการเก็บค่าถุงพลาสติกร้านค้ามีประเทศอะไรบ้าง? อัตราอยู่ที่เท่าไร?
✪ โกลด์แมน แซคส์ เคยกว้านซื้อหนี้คนไทยช่วงวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง
หากอ่านแล้วบทความมีประโยชน์ กดโหวต ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ให้ด้วยนะคะ
สูตรคำนวณงวด 16/11/68
เปิดตัว! Ishii Konoka (อิชิอิ โคโนะกะ) นางเอกใหม่ Kawaii ผู้มาพร้อมฉายา "สาวงามแห่งปาฏิหาริย์"
🌺 บุหงาปูดะ: ขนมไทยที่คนไม่ค่อยรู้จัก แต่เสน่ห์เหลือล้น 🌴
10 อาชีพใดที่เกิดความเครียดเยอะที่สุด ทำให้เวิร์คไร้บาลานซ์ไม่สมดุล จนอาการซึมเศร้าในที่ทำงานมาเยือน และ วิธีรับมือเพื่อถนอมสุขภาพจิต
#หวยเด็ด16 พย: เปิดสถิติลับ 12 ปี! ค้นพบ “เลขซ่อนเร้น” ที่มีโอกาสออกซ้ำ งวด 16 พ.ย. นี้
"เพลง ชนม์ทิดา" ฟ้าผ่ากลางใจ! "เป๊ก เศรณี" หมดรัก เทงานแต่งไร้เยื้อใย
🐾 “ของดีประเทศไทย” แมวไทย งดงามระดับโลก สัตว์เลี้ยงคู่บ้านคู่เมืองที่ครองใจคนทั่วโลก
นายจาง เจี้ยนเว่ย กล่าวถึง“การเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศจีนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี”
“โอ๊ค พานทองแท้” ประกาศชัด! พร้อมสืบทอดเส้นทางการเมืองพ่อทักษิณ – ลั่น “ผมพร้อมตั้งแต่เกิดเป็นลูกของทักษิณ ชินวัตร”
Heaven Spot บนสะพานเมตลัก เมื่อกราฟิตีคือการฝากชื่อไว้ให้เมฆเห็น
คลอดทีเดียว 9 คน เรื่องจริงของคุณแม่ชาวมาลีที่ทำลายสถิติโลกด้วยหัวใจของแม่
ผมแดงกับรองเท้าชมพู เรื่องจริงของสาวที่รอดตายจากหุบเขา เพราะความบังเอิญเสี้ยววินาที
พ่อเปิดร้านข้าวผัดหน้ามหาลัยลูก หลังขับรถ 900 กิโล เพราะคำว่า “พ่อจะตามลูกไปทุกที่”





