Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เคยสงสัยไหม…ว่าทำไมต้องใช้ดินสอเบอร์ 2 ในการทำข้อสอบ?

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

ทำไมต้องใช้ดินสอเบอร์ 2ระบายคำตอบในกระดาษคำตอบ?

การระบายคำตอบบนกระดาษคำตอบของข้อสอในแต่ละวิชาคงเป็นอะไรที่เรารู้จักกันดี และทุกครั้งอาจารย์ก็จะบอกให้เราเตรียมดินสอเบอร์ 2 มาเพื่อระบายคำตอบลงในกระดาษคำตอบ เคยสงสัยกันบ้างมั๊ย ว่าทำไมต้องใช้ดินสอเบอร์ 2?

แนวคิดนี้เกิดขึ้นในปี 1931 โดยครูฟิสิกส์โรงเรียนมัธยมชื่อ Reynold Johnson ขณะที่เขากำลังทำการตรวจข้อสอบ เขาเกิดสงสัยว่าน่าจะมีวิธีการอื่นที่เขาจะตรวจข้อสอบได้ที่ไม่ต้องตรวจทุกข้อเองด้วยมือ

เขารู้ว่า แกรไฟต์เป็นวัสดุที่ในดินสอที่ใช้ในการเขียน ซึ่งคุณสมบัติหนึ่งของแกรไฟต์ที่มีการจัดเรียงตัวของอิเล็กตรอนเป็นแนวระนาบ โดยอิเล็กตรอนวงนอกสุดสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระภายในวัสดุ จึงทำให้มันสามารถนำไฟฟ้าได้

จอห์นสันจึงได้คิดค้นเครื่องตรวจข้อสอบจากกระดาษคำตอบที่มีการระบายด้วยดินสอขึ้น และขายไอเดียให้กับ IBM ได้ผลิตเครื่องตรวจกระดาษคำตอบเป็นเครื่องแรก แต่ในตอนนั้นดินสอเบอร์ 2 ก็ยังไม่ได้เป็นปัญหาจนกระทั่งรุ่นของเครื่องที่ถูกนำมาใช้ในปี 1960 -1970 ซึ่งเป็นเครื่องที่มีอุปกรณ์ตรวจวัดการดูดกลืนแสงที่เรียกว่า phototubes ทำให้ไม่สามารถตรวจวัดแสงได้ในบางจุดที่ต้องการบันทึกคำตอบ จึงต้องใช้แกรไฟต์ที่เฉพาะมากขึ้น

เนื่องจากการทำงานของเครื่องตรวจกระดาษคำตอบในปัจจุบันนั้น จะใช้หลักการการวัดการสะท้อนของแสง ซึ่งคือจุดไหนมีการระบายคำตอบไว้จะมีการดูดกลืนแสงไว้ และส่วนไหนที่ไม่มีการระบายคำตอบ แสงก็จะสะท้อนกลับหมด โดยปริมาณของแสงที่สะท้อนกลับจะบอกถึงความเข้มที่ระบายซึ่งที่ต้องใช้ดินสอเบอร์ 2ก็เพราะว่าดินสอเบอร์ 2 มีปริมาณคาร์บอนมากพอที่จะดูดกลืนแสงได้ และก็เบาพอที่จะสามารถลบให้สะอาดได้

เกร็ดความรู้

ดินสอที่ใช้โดยทั่วไปนั้น ไส้ดินสอทำด้วยแกรไฟต์ (Graphite) ผสมกับ Clay ซึ่งเป็นดินชนิดหนึ่ง ซึ่งจะใช้เพื่อช่วยในเรื่องของความแข็งหรืออ่อนของไส้ดินสอ ซึ่งสามารถระบุความเข้มของดินสอเอาไว้ด้วยตามระบบยุโรป โดยใช้อักษร

“H” (hardness) หมายถึง ความแข็งของไส้ดินสอ
“B” (blackness) หมายถึง ความเข้ม
“F” (fine point) หมายถึง เนื้อละเอียด

ดินสอสำหรับศิลปะจะมีความเข้มหลายขนาดให้เลือกใช้ ซึ่งมีตั้งแต่ดินสอที่แข็งและสีอ่อน ไปจนถึงสีเข้มมาก โดยมักเรียงตามลำดับต่อไปนี้

นอกจากนี้แล้วก็ยังมีระบบอเมริกันที่ใช้ตัวเลขเพียงอย่างเดียว โดยสามารถเทียบประมาณกับระบบยุโรปได้ดังนี้

ดินสอที่เขียนกันโดยทั่วไป มีความเข้มระดับ HB แต่ดินสอสำหรับระบายกระดาษคอมพิวเตอร์ หรือกระดาษคำตอบในการทำข้อสอบต้องใช้ความเข้มระดับ 2B ขึ้นไป

 

ที่มา: http://www.thaihiggs.com/knowledge/17282
ที่มาของข้อมูล : th.wikipedia.org/wiki/ดินสอ,http://www.vcharkarn.com/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
VOTED: ดีเจ ซูกัส, ผมหรรมเล็กคร๊าาาฟ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รีวิวหนังดัง KRAVEN THE HUNTER เครเว่น เดอะ ฮันเตอร์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นักร้องสาวร้องไห้ถึง 4 วัน หลังทราบความลับสามีชาวฝรั่ง !!ดราม่าที่ภูเก็ต! ซิสเตอร์แจง เด็กพม่าเรียนติดแอร์เย็นฉ่ำ – เหตุผลจริงเพราะเสียงดังรบกวนชุมชน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
สินเชื่อรถแลกเงิน ขอเงินก้อนฉุกเฉินสำหรับคนมีรถผ่อนหมดแล้วสาย LAN ก็มีหลายประเภทหรอ ?ทำไมใช้ Internet บ้านความเร็วสูงแต่ใช้งานจริงแล้วช้า ?คนฉลาดเค้าฝึก 10 สิ่งนี้ทุกวัน
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง